วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

4 วัน 3 คืน เกาะเต่า - เกาะนางยวน

...วันนี้พวกเราขออาสาพาท่านผู้อ่านเดินทางลงสู่ภาคใต้ไปรับลมทะเลต้อนรับการมา เยือนของฤดูร้อนที่กำลังมาถึงที่เกาะเต่าและเกาะนางยวน เกาะทั้งสองเกาะนี้เป็นเกาะและตำบลเล็กๆตำบลหนึ่งที่ขึ้นอยู่กับอำเภอเกาะ พะงันในจังหวัดสุราษฎร์ธานีแต่ถ้าเดินทางลงมาจากกรุงเทพฯสามารถเดินทางได้ โดยสะดวกจากจังหวัดชุมพร แม้เกาะเต่าเกาะนางยวนจะเป็นเพียงแค่เกาะเล็กๆแต่เกาะทั้งสองเกาะนี้มี ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่มากในทะเลฝั่งอ่าวไทย เกาะเต่าเป็นที่มีอ่าวถึง11อ่าวมีแนวชายฝั่งของเกาะทอดตัวระยะทางยาว 28.6 กม.และมีแนวปะการังยาวถึง8กม. เป็นความใฝ่ฝันของบรรดานักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะได้มีโอกาสสักครั้งหนึ่ง ในชีวิตเดินทางมาดำน้ำชมความมหัศจรรย์ของโลกใต้ท้องทะเลเกาะเต่าแห่งนี่และ นอกจากนี้เกาะเต่ายังเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจน สามารถผลิตนักดำน้ำจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกได้เป็นอันดับต้นๆของโลก และได้รับการยอมรับจากสถาบันการสอนดำน้ำที่มีชื่อเสียงของโลกเช่น PADIและนอกจากนี้เกาะนางยวนที่อยู่ใกล้ชนิดติดกับเกาะเต่ายังเป็นเกาะที่มี ชื่อเสียงของความสวยงามติดอันดับ1ใน10ของโลกอีกด้วยเกาะทั้งสองเกาะนี้จะมี ความสวยงามเพียงใดและน่าท่องเที่ยวขนาดไหนขอเชิญท่านผู้อ่านติดตามเราทั้ง สองคนมาได้เลยน่ะครับแล้วก็อย่าลืม”เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ครับ

วันแรกของการเดินทาง
ค่ำคืน หนึ่งของกลางเดือนมกราคม 2552 ทีมงาน www.idotravellers.com สองชีวิต พร้อมสัมภาระและกล้องถ่ายรูปคู่กาย ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าออฟฟิศของบริษัทเรือเร็วลมพระยาในซอยรามบุตรีบนถนนข้าว สารเพื่อรอขึ้นรถทัวร์โดยสารเดินทางไปยังจังหวัดชุมพรสำหรับจุดหมายปลายทาง ของเราในทริปนี้ก็คือ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะสวรรค์กลางอ่าวไทย


สำหรับ สาเหตุที่เราเลือกเดินทางโดยใช้บริการของบริษัทเรือเร็วลมพระยาก็เพราะว่า สะดวกสบายปลอดภัยกว่าที่จะเดินทางด้วยตัวเอง เพราะทางบริษัทเรือเร็วลมพระยาได้จัดบริการทั้งรถทัวร์โดยสารและเรือเร็ว จากกรุงเทพฯเดินทางไป-กลับ เกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงันได้ สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยกว่าในอดีตที่ผ่านมามาก นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดและจองตั๋วโดยสารได้ที่ www.lomprayah.com นอกจากบริษัทเรือเร็วลมพระยาแล้ว ยังมีบริการของบริษัทSeatrandiscovery ที่มีบริการรถทัวร์โดยสารพร้อมเรือเร็วปรับอากาศเดินทางจากกรุงเทพฯมายัง เกาะเต่าเกาะพะงันและเกาะสมุยเส้นทางเดียวกับเรือเร็วลมพระยาสำหรับเวลาการ เดินทางไม่แตกต่างกันมากนักจะแตกต่างกันที่ตารางการเดินทางเท่านั้นนักท่อง เที่ยวที่สนใจลองคลิกเข้าไปที่ www.seatrandiscovery.com สนใจที่จะเดินทางกับบริษัทไหนเลือกใช้บริการได้ตามใจชอบเพราะทุกบริษัทเดิน ทางถึงเกาะเต่าด้วยความปลอดภัยเหมือนกัน

หลัง จากจองตั๋วโดยสารทั้งรถและเรือโดยสารเดินทางไปเกาะเต่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างที่รอเวลาการดินทางเราสองคนจึงเดินออกมาหาอาหารค่ำรับประทานพร้อม เดินเที่ยวชมแสงสีบรรยากาศยามราตรีของถนนข้าวสารในยามค่ำคืนซึ่งกำลังคั่บ คั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกโดยเดินทางมา ยังถนนข้าวสารก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อหาข้อมูลข้าวสารก่อนที่จะออกเดินทาง ท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศไทยและข้ามไปยังประเทศในแถบ อินโดจีน ปัจจุบันถนนข้าวสารจึงเปรียบเสมือนกับประตูสู่ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ของเราในแถบอินโดจีนด้วย
สามทุ่มตรงบนรถปรับอากาศของบริษัทเรือเร็วลม พระยาแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากสแกนดิเนเวีย หนีอากาศหนาวจากบ้านเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย พอเจ้าหน้าที่ของบริษัทเรือเร็วลมพระยาตรวจเช็คจำนวนผู้โดยสารและสัมภาระ ของนักท่องเที่ยวเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นรถทัวร์โดยสารของบริษัทเรือ เร็วลมพระยาเริ่มต้นออกเดินทางจากที่จอดรถโดยสารบริเวณข้างวัดบวรนิเวศฯ แล่นฝ่าความมืดลงใต้ไปตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่ท่าเรือทุ่งมะขามน้อยในจังหวัดชุมพรทันที

04.30 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงเศษๆรถทัวร์โดยสารของบริษัทเรือเร็วลมพระยาก็พาเราสองคนเดินทางมาถึง ท่าเรือทุ่งมะขามน้อยในตัวอำเภอเมืองในจังหวัดชุมพรซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัว อำเภอเมืองระยะทางประมาณ 22 กม. เราสองคนจัดแจงล้างหน้าล้างตาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นนั่งจิบกาแฟร้อนๆ รอชมพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณของวันใหม่ที่บริเวณท่าเรืออ่าวทุ่งมะขามน้อย รอเวลาเรือเร็วลมพระยาออกเดินทางไปยังเกาะเต่าซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรืออ่าว ทุ่งมะขามน้อยระยะทางประมาณ 80 กม.โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง


07.00 น.จากนั้นเราสองคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินเท้าไปตามสะพานไม้ที่ทอดตัว ยาวจากชายหาดทุ่งมะขามน้อยออกไปในทะเลระยะทางประมาณ 200 เมตรเพื่อมาลงเรือของบริษัทเรือเร็วลมพระยา ชื่อว่า “ หน้าเมือง” ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ เกาะเต่าในทันที นับว่าเป็นความโชคดีของเราทั้งสองคนที่สภาพอากาศในวันนี้เป็นใจช่างแจ่มใส ดีเหลือเกินท้องทะเลเงียบสงบ แตกต่างจากในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมาอากาศแปรป่วนท้องทะเลปั่นป่วนคลื่นทะเลสูง 3-4 เมตร เรือเล็กเรือใหญ่งดออกจากฝั่ง ซึ่งแตกต่างจากสภาพอากาศในวันนี้โดยสิ้นเชิง ท้องทะเลสงบปราศจากคลื่นลมเหมาะกับการท่องเที่ยวทางทะเลเหลือเกิน

เรา สองคนนั่งอยู่ในห้องผู้โดยสารปรับอากาศภายในเรือเร็วลมพระยาที่คับคั่งไป ด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติช่างเป็นการดินทางที่สะดวกสบายดีแท้แตกต่างจาก การเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่าในยุคแรกเริ่มซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก และใช้เวลาในการเดินทางนานมากต้องอาศัยโดยสารมากับเรือประมงของชาวบ้านที่ เดินทางออกมาหาปลารอบๆเกาะเต่าใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการเดินทางโดยเรือที่น่าเบื่อมาก ต่อมาพัฒนามาเป็นเรือ speed boat ความเร็วสูงทำให้ลดเวลาการเดินทางที่น่าเบื่อลงได้หลายชั่วโมงแต่มีข้อเสีย ตรงที่ถ้าสภาพอากาศในทะเลแปรปรวนคลื่นลมในทะเลสูงเรือเร็วไม่สามารถเดิน ทางออกจากฝั่งเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและเรือเร็วยังสามารถรองรับผู้ โดยสารได้น้อยเพียงเที่ยวละ 20- 30 คนเท่านั้น ต่อมาจึงได้พัฒนามาเป็นเรือเร็วลมพระยาซึ่งออกแบบมาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยเดินทางได้เกือบทุกสภาพอากาศ

ถ้า ไม่หนักหนาสาหัสชนิดคลื่นลมในทะเลเป็นอภิมหาคลื่นยักษ์อมตะนิรันด์กาล เหมือนในภาพยนตร์เรื่อง “ the perfect storm “ของฮอลลีวู้ดแล้วละก็เรือเร็วลมพระยาสามารถออกเดินทางสู่เกาะเต่าได้ทุกวัน โดยใช้เวลาเดินทางเพียงชั่งโมงเศษๆ เท่านั้นช้าหรือเร็วกว่านี้ขึ้นอยู่กับคลื่นลมในทะเลว่ามีกำลังแรงขนาดไหน อีกทั้งยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้เที่ยวละประมาณ 200- 300 คน เดินทางไปยัง เกาะเต่า เกาะพะงัน และเกาะสมุย ได้ด้วยความรวดเร็วและ ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

นัก ท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯนิยมเริ่มต้นเดินทาง มายังเกาะเต่าโดยทางเรือจากจังหวัดชุมพรมากกว่าที่จะเดินทางมาจากท่าเรือดอน สักในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้ว่าเกาะเต่าจะเป็นเกาะที่ขึ้นอยู่กับจังหวัดสุราษฎร์ธานีแต่สามารถเดิน ทางได้สะดวกและรวดเร็วทางจังหวัดชุมพรครับ เรือเร็วลมพระยาใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษๆก็พาเราสองคนเดินทางมาแวะยังเกาะนาง ยวนซึ่งอยู่ห่างจากเกาะเต่าไม่กี่ร้อยเมตรเพื่อรับส่งผู้โดยสารใช้เวลา ประมาณ 10 นาที จากนั้นเรือเร็วลมพระยาจึงออกเดินทางสู่ท่าเรือเกาะเต่า


09.00น .ใช้เวลาเดินทางประมาณ สิบนาทีเท่านั้นเรือเร็วลมพระยาก็พาเราสองคนเดินทางมาถึงยังท่าเรือเกาะเต่า ซึ่งกำลังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กำลังเดิน ทางมายังเกาะเต่าและบางคนกำลังออกเดินทางต่อไปยังเกาะพะงันและเกาะสมุย

เรา สองคนจัดแจงขนสัมภาระขึ้นจากเรือจากนั้นเดินเท้าไปตามสะพานไม้ที่ทอดตัวยาว เข้าสู่ ฝั่ง เสียงชักชวนแนะนำรีสอร์ทจากไกด์ของแต่ละรีสอร์ท แก่นักท่องเที่ยวที่พึ่งเดินทางมาถึงยังเกาะเต่าให้เข้าพักยังรีสอร์ทของตน บางรีสอร์ทก็ส่งคนและรถปิคอัพมารอรับลูกค้าของตนที่จองห้องพักไว้ล่วงหน้า ทางอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีรถปิคอัพรับจ้างที่มาจอดรอรับลูกค้าเดินทางไปส่งตามรีสอร์ท ต่างๆรอบเกาะเต่าค่าบริการอยู่ที่ระยะทางไกลใกล้ถ้าเดินทางมาหลายๆคนอาจจะ เหมาไปส่งส่วนเรื่องราคาต่อรองกันได้ สำหรับรีสอร์ทบนเกาะเต่ามีจำนวนมากมายหลากหลายรีสอร์ทหลายบรรยากาศและหลาย ราคาตั้งแต่รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดติดทะเลจนถึงรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนเขา สามารถชมวิวทิวทัศน์บนมุมสูงของเกาะเต่าได้แบบสุดสายตาพานอราม่า ส่วนเรื่องราคามีหลายระดับหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกตามใจชอบโดย เริ่มต้นที่ราคาคืนละไม่กี่ร้อยบาทจนถึงราคาเป็นหมื่นๆบาทต่อคืนแล้วแต่ สตังค์ในกระเป๋าของท่านส่วนจะชอบบรรยากาศแบบไหนก็แล้วแต่ความชอบเป็นส่วนตัว ของท่านเอง เราสองคนเลือกขึ้นรถของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ท ที่ได้จองห้องพักไว้ทางอินเตอร์เน็ตก่อนเดินทางมายังเกาะเต่าสำหรับจามจุรี วิลล่ารีสอร์ทตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือเกาะเต่าและหาดแม่หาดระยะทางประมาณ เพียง 500เมตร รถปิคอัพใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีก็พาเราสองคนเดินทางมาถึงจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทแอนด์สปา รีสอร์ทมีระดับแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า เราสองคนได้บ้านพักบนเขาเบื้องหน้ามองเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลเกาะเต่า และเกาะนางยวนได้อย่างชัดเจน



จาก นั้นเราสองคนจัดแจงเก็บสัมภาระส่วนตัวเข้าห้องพักจัดการอาบน้ำแต่งตัวเป็น ที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงเดินลงมารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารเช้าของ จามจุรีวิลล่ารีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ ท้องทะเลเกาะเต่าและเกาะนางยวนแลเห็นเรือโดยสารที่แล่นรับส่งผู้โดยสาร ระหว่างเกาะต่างๆกับท่าเรือเกาะเต่าได้อย่างชัดเจนท้องฟ้าเหนือท้องทะเลอ่าว ไทยในวันนี้อากาศแจ่มใสท้องทะเลราบเรียบเงียบสงบปราศจากเมฆฝนของลมมรสุมที่ พัดผ่านไป เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในท้องทะเลของอ่าวไทยเป็นอย่าง ยิ่ง หลังจากอาหารเช้าผ่านพ้นไปแล้วเราสองคนเดินเที่ยวชมบรรยากาศภายในของจามจุ รีวิลล่ารีสอร์ทซึ่งร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์บ้านพักทุกหลังถูกออกแบบ สร้างขึ้นมาหลายแบบหลายสไตล์โดยไม่ซ้ำแบบกันสักหลัง นอกจากนี้บ้านพักจะถูกออกแบบมาให้มีระเบียงหน้าบ้านพักและห้องพักทุกหลัง เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักภายในจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทแห่งนี้ได้นอน กินลมชมวิวในเวลากลางวันและนอนนับเดือนนับดาวที่ส่องแสงสุกสกาวอยู่บนท้อง ฟ้าในยามค่ำคืน


ผู้ ออกแบบก็คือคุณจักรเจ้าของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทโดยเน้นถึงการออกแบบมาให้ บ้านพักทุกหลังต้องกลมกลืนกับธรรมชาติหลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้และรบกวน ธรรมชาติให้น้อยที่สุด บ้านพักทุกหลังถูกจึงสร้างให้ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นๆจากเนินเขาลงสู่ชายหาด จันทร์สมอันเป็นชายหาดส่วนตัวของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ท นอกจากนี้แล้วภายในห้องพักยังถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยศิลปะไม้สไตล์ พม่าโดยเฉพาะเตียงนอน เห็นแล้วอยากนอนจนลืมตื่นขึ้นมาทันทีไม่เชื่อก็ลองดูในรูปสิครับ

โดย เฉพาะบ้านพักที่อยู่บนเนินเขาด้านล่างเหนือชายหาดจันทร์สมขึ้นมาเล็กน้อย บรรยากาศแสนที่จะโรแมนติกสุดๆบริเวณระเบียงซึ่งนอกจากจะมองเห็นอ่าวจันทร์สม ได้ทั้งหมดแล้วยังสามารถมองเห็นเกาะนางยวนได้ชัดเจนอีกด้วยทั้งยังเป็นจุดชม วิวทิวทัศน์อันสวยงามในยามที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าอีกด้วย

จาม จุรีวิลล่าจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบสัมผัสกับธรรมชาติบรรยากาศอัน เงียบสงบเดินทางมาพักผ่อนเป็นครอบครัวหรือคู่หนุ่มสาวที่พึ่งแต่งงานกัน ใหม่ๆ เดินทางมาพักผ่อนฮันนีมูนดื่มน้ำพึ่งพระจันทร์กันท่ามกลางคืนเดือนเพ็ญที่ พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสุกสกาวอยู่ในท้องฟ้าอันมืดมิดของทะเลอ่าวไทยแต่ถ้า ไม่ชอบบ้านพักสไตล์รีสอร์ทอยากจะพักห้องพักสไตล์โรงแรมทางจามจุรีวิ ลล่ารีสอร์ทก็มีให้ท่านได้เลือกตามใจชอบแต่ขอบอกเสียก่อนน่ะครับว่าถึงจะ เป็นห้องพักสไตล์โรงแรมแต่การออกแบบและตกแต่งภายในห้องพักด้วยศิลปไทยผสม ผสานกับศิลปแบบพม่าไม่ซ้ำกันเลยสักห้องเรียกว่าไม่เหมือนรีสอร์ทใดและไม่มี รีสอร์ทใดบนเกาะเต่าเหมือนท่านผู้อ่านไม่เชื่อก็ลองไปพิสูจน์ดูด้วยตัวเอง ได้ที่ จามจุรีวิลล่ารีสอร์ทแอนด์สปา เกาะเต่า และมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะเรียนให้ท่านผู้อ่านที่สนใจอยากจะเดินทางเข้าพัก ที่จามจุรีวิลล่ารีสอร์ทได้ทราบไว้ว่าห้องพักของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทเกือบ ทุกห้องจะไม่มีโทรทัศน์ ไม่ใช่ว่าเกาะเต่าจะรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไม่ได้น่ะครับสามารถรับ ได้แต่คุณจักรเจ้าของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทบอกเราว่าสาเหตุที่ไม่อยากติดตั้ง โทรทัศน์ในห้องพักทุกห้องก็เพราะว่าอยากให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในจาม จุรีวิลล่ารีสอร์ทแห่งนี้ได้พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติและภายใต้ บรรยากาศที่เงียบสงบที่สุดเท่าที่จะเงียบได้จริงๆแต่ไม่ถึงกับวังเวงน่ะครับ จึงอยากจะให้นักท่องเที่ยวทุกท่านทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้าพักยังจาม จุรีวิลล่ารีสอร์ทแห่งนี้ ตัดขาดจากโลกภายนอกไม่ต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารใดๆจาก CNN , BBC อิสราเอลรบกับปาเลสสไตน์ หรือสถานีโทรทัศน์ของไทยที่เผยแพร่ภาพข่าวฝ่ายค้านทะเลาะกับรัฐบาลหรือ เสื้อแดงเสื้อเหลืองทะเลาะกันให้ปวดหัวจะมีก็แต่เครื่องเล่นพร้อมแผ่นCD ดนตรีคลาสสิคบรรเลงเบาๆให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักได้เปิดฟังเล่นเย็นใจก่อน นอน สำหรับในเรื่องราคาค่าบ้านพักเป็นหลังๆและห้องพักเริ่มต้นที่ราคาตั้งแต่ 3200- 18,200 บาทต่อคืนราคาไม่ถูกและก็ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับบรรยากาศความเป็นส่วน ตัวและความสะดวกสบายที่ท่านจะได้รับเมื่อเข้ามาพักที่จามจุรีวิลล่ารีสอร์ท แอนด์สปาแห่งนี้ อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ www.chamchureevilla.com
หรือติดต่อสำรองห้องพักได้ที่ e- mail reservation@charmchureevilla.com
จามจุรีวิลล่ารีสอร์ทแอนด์สปา
30/1หมู่ 2 ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงันจังหวัดสุราษฎร์ธานี84280
โทรศัพท์ 66 77 456393-4 แฟกซ์ 66 77 456475

จากนั้นเราสองคนเดินไปตามเส้นทางเดินเท้าลัดเลาะไปตามไหล่เขาอันร่มรื่นไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่จนมาถึงอ่าวจันทร์สม


ซึ่ง มีลักษณะโค้งเว้าเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวมีความยาวชายหาดประมาณ60 เมตร บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเหนือบริเวณชายหาดขึ้นมาเล็กน้อย ร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวน้อยใหญ่เรียงรายอยู่ทั่วบริเวณชายหาด


ตลอดจนโขดหินน้อยใหญ่ตั้งอยู่บริเวณฝั่งซ้ายและฝั่งขวาบริเวณริมชายหาดเป็นฝีมือการออกแบบของธรรมชาติสถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่


สำหรับ อ่าวจันทร์สมมีความแตกต่างจากอ่าวทั่วไปบนเกาะเต่าเพราะความเป็นอ่าวส่วนตัว ของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทแอนด์สปาบริเวณชายหาดจันทร์สมจึงไม่พลุกพล่านไปด้วย นักท่องเที่ยวเหมือนชายหาดทั่วๆไปบนเกาะเต่าจะมีก็แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ลูกค้าของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทที่มานอนอาบแดดอ่านหนังสือและเล่นน้ำบริเวณ ด้านหน้าชายหาด


นัก ท่องเที่ยวทั่วไปก็สามารถเดินทางเข้ามาเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจบริเวณชาย หาดจันทร์สมได้แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมดูแลรักษาความสะอาดบริเวณชายหาดและ ค่าใช้บริการห้องน้ำห้องสุขาบริเวณชายหาดของอ่าวจันทร์สมในอัตราค่า ธรรมเนียมคนไทย คนละ 30บาท ต่างชาติคนละ 100บาท และจะต้องรักษาความสะอาดและปฎิบัติตามกฎระเบียบของรีสอร์ทโดยเคร่งครัดคือ ไม่นำอาหารและน้ำดื่มเข้ามารับประทานและส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นเป็นต้น


ซึ่ง นอกจากหาดทรายอันสวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำแล้วและเนื่องจากบริเวณชายหาดของ อ่าวจันทร์สมแห่งนี้มีบรรยากาศที่เงียบสงบปลอดภัยจึงมากมายไปด้วยฝูงปลา ทะเลสีสันสวยงามมากมายหลากหลายชนิด


อาทิ เช่นฝูงปลากระบอก,ปลาลายเสือ, ปลานกแก้วฯลฯที่ว่ายน้ำเข้ามาวนเวียนอยู่บริเวณชายหาดจันทร์สมเป็นประจำ เพื่อรอคอยนักท่องเที่ยวมาให้อาหารและหยอกล้อกับฝูงปลาเป็นที่สนุกสนานอยู่ เป็นประจำ

นัก ท่องเที่ยวชาวไทยที่ชื่นชอบบรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวสามารถเดินทางเข้ามา พักผ่อนหย่อนใจที่ชายหาดจันทร์สมแห่งนี้ได้โดยเสียค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาทและปฎิบัติตามกฎระเบียบของทางรีสอร์ทเท่านั้นก็เดินทางเข้ามาพักผ่อน หย่อนใจกันได้

เรา สองคนนั่งพักผ่อนหย่อนใจที่บริเวณชายหาดจันทร์สมพร้อมนั่งดูท่องเที่ยวชาว ต่างชาติโดยเฉพาะจากสแกนดิเนเวียที่เดินทางหนีหนาวมาพักผ่อนหย่อนใจบนเกาะ เต่า


บาง คนนอนอาบแดดอ่านหนังสือบางคนเล่นน้ำอยู่บริเวณชายหาดหยอกล้อกับฝูงปลาทะเล สีสันสวยงามมากมายหลากหลายชนิดคล้ายกับบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ในทะเลบางคนก็ ท่องเที่ยวรอบเกาะโดยการพายเรือแคนนูที่ทางจามจุรีรีสอร์ทได้จัดเตรียมไว้ ให้ลูกค้าเช่าพายท่องเที่ยวรอบเกาะเต่าในราคาย่อยเยา


นอก จากนั้นบนอ่าวจันทร์สมยังมีสปาให้บริการนวดแผนโบราณ นวดน้ำมันและอโรม่าให้บริการแก่นักท่องเที่ยวขี้เมื่อยทั้งหลายได้นวดผ่อน คลายความเมื่อยล้าอีกด้วย



เรา สองคนนั่งพักผ่อนหย่อนใจจนได้เวลาอาหารกลางวันพอดีเราสั่งอาหารกลางวันที่ ห้องอาหาร Elvis bar ของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทบนหาดจันทร์สมมารับประทานซึ่งมีให้เลือกรับประทาน ทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง


เราสองคนสั่งพะแนงเนื้อและ ผัดมักกะโรนีมารับประทานพร้อมกำชับพนักงานเสริฟว่าให้ปรุงรสชาติแบบไทยๆ

เรา สองคนรับประทานอาหารกลางวันด้วยความเอร็ดอร่อยพอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่ม หย่อนลมทะเลเย็นๆ บรรยากาศร่มรื่นนอนหลับพักผ่อนเอาแรงกันคนละสักตื่นจะเป็นไรไปหลังจากที่ ต้องตรากตรำกับการเดินทางมาจากกรุงเทพฯตลอดทั้งคืน


เรา สองคนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาแดดร่มลมตก จากนั้นจึงนั่งกินลมชมวิวที่หน้าELVIS BARเพื่อรอถ่ายภาพพระอาทตย์ตกที่จามจุรีวิลล่า เราสองคนนั่งพักผ่อนอยู่ไม่นานจากนั้นจึงมีพนักงานของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ท เข้ามาพูดคุยกับเราทั้งสองพร้อมแนะนำเราว่าจากชายหาดจันทร์สมมีเส้นทางเดิน เท้าลัดเลาะสันเขาระยะทางประมาณ800เมตรไปยังหาดทรายนวลเราสองคนจึงหันมาตกลง กันว่าระหว่างรอถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกลองเดินไปสำรวจยังหาดทรายนวลกันดูบ้าง อาจจะได้ข้อมูลใหม่ๆและภาพสวยๆมาฝากท่านผู้อ่านจะดีกว่านั่งกินลมชมวิวอยู่ เฉยๆ

จาก นั้นเราสองคนเดินไปด้านหลังของELVISBARมีเส้นทางเดินขึ้นเนินเขาและป้ายนำ ทางเขียนไว้ว่า ทางไปหาดทรายนวลระยะทาง800 เมตรจากหาดจันทร์สมเราสองคนเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางเดินป่าตามไหล่เขาพร้อม เก็บภาพความสวยงามของแนวโขดหินชายฝั่งทะเลของเกาะเต่าที่เกิดจากฝีมือของ สถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่นั้นคือธรรมชาติเราสองคนเดนกันมาพอเหงื่อซึมในที่สุดก็ เดินเท้ามาถึงหาดทรายนวลซึ่งชายหาดมีลักษณะโค้งเว้ามีความยาวประมาณ 200 เมตรบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวน้อยใหญ่เรียงรายอยู่เหนือชาย หาดมีบังกะโลบ้านพักชื่อว่าทรายทองบังกะโลเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว อยู่หลายหลังถึงบังกะโลบ้านพักจะไม่โอ่อ่าหรูหราเหมือนกับจามจุรีวิลล่าแต่ ก็สร้างได้กลมกลืนกับธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง


มี นักท่องเที่ยวต่างชาตินอนอาบแดดพักผ่อนหย่อนใจกันบริเวณชายหาดที่เงียบสงบ ท่านผู้อ่านที่สนใจอยากจะมาพักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 077 456 868หรือ INFO@SAITHONG-RESORT.COM จากหาดทรายนวลเราสองคนเดินเท้าไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็จะเป็นที่ตั้ง ของSIAMCOOKIE บังกะโลราคาประหยัดสไตล์คันทรี่ราคาบ้านพัก 300-500 บาทเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวประเภทBACKPACKAGE เป็นอย่างยิ่งราคาถูกแบบนี้นักท่องเที่ยวบางคนจองพักกันเป็นเดือนก็มี สำหรับสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดของบังกะโลแห่งนี้ก็คือบาร์เบียร์ของ บังกะโลซึ่งมีชื่อว่าBANANAROCK ที่ยื่นออกไปในทะเล

ซึ่ง ถูกสร้างมาจากเศษไม้ล้วนๆ ที่หามาได้จากบนเกาะและที่ลอยมาติดชายหาดไม่มีการตัดไม้ยืนต้นบนเกาะจากนั้น สะสมไว้จนนำมาสร้างเป็นบาร์เบียร์ได้หนึ่งหลังสามารถมองเห็นได้อย่างโดดเด่น ในระยะไกลๆเมื่อมองเข้ามายามนั่งเรือทัวร์รอบเกาะ


นัก ท่องเที่ยวหลายคนบอกว่าคล้ายกับในภาพยนตร์เรื่องWATERWORLDซึ่งแสดงโดยเควิ น คลอสเนอร์เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา นอกจากนี้บริเวณBANANAROCKยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งบน เกาะเต่าอีกด้วย สำหรับผู้ที่ออกแบบสร้างคือโกดุกเจ้าของ SAIMCOOKIE บังกะโลนักท่องเที่ยวที่มีเงินน้อยแต่อยากอยู่ท่องเที่ยวบนเกาะเต่านานๆ สามารถติดต่อบังกะโลบ้านพักได้ที่SIAMCOOKIEบังกะโล โทรศัพท์ 077 456 301หรือ 089 2922770โกดุกบอกยินดีต้อนรับครับ เราสองคนนั่งคุยกับโกดุกจนสมควรแก่เวลาจากนั้นจึงขอตัวลาโกดุกเดินเท้ากลับ มายังอ่าวจันทร์สม จากนั้นจึงเดินหามุมถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกสวยๆบริเวณโดยรอบจามจุรีวิลล่าเดิน สำรวจไปมาจนมาได้มุมที่ถูกใจบริเวณห้องอาหารค่ำของรีสอร์ทมีชื่อว่า Chaba&Starlight Restaurantที่ก่อสร้างอยู่บนโขดหินติดกับทะเลมีลักษณะเป็นลานไม้กว้างขวาง หลังคาเปิดชมเดือนชมดาวเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของจามจุรี วิลล่ารีสอร์ทและบนเกาะเต่า

และ ช่างเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติก็คือบริเวณโขดหินที่อยู่ติดกับห้องอาหาร ค่ำของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทมีลักษณะคล้ายเต่าทะเลโผล่ขึ้นมาหายใจครึ่งตัว มองเห็นส่วนหัวและกระดองเต่า

เหมือน หรือไม่เหมือนก็อยู่ที่ดุลยพินิจของท่านผู้อ่านเองว่าจะมองเห็นเป็นเช่นไร แต่เราสองคนมองเห็นแล้วต้องยอมรับว่าเหมือนเต่าทะเลโผล่ขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ จริงๆถ้าท่านผู้อ่านไม่เชื่อลองพิจารณาดูในรูปก็ได้ และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของโลโก้เครื่องหมายการค้าของจามจุรีวิ ลล่ารีสอร์ทตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

สำหรับ ห้องอาหารของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทจะมีสามแบบสามสไตล์สามบรรยากาศไม่ซ้ำแบบ กัน ในส่วนของห้องอาหารเช้าจะอยู่ด้านบนเหนือห้องอาหารค่ำขึ้นมาเล็กน้อยสามารถ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะนางยวนและทะเลด้านหน้าเกาะเต่ามองเห็นเรือโดยสาร จากฝั่งแล่นเข้าออกยังท่าเรือเกาะเต่าได้อย่างชัดเจน

และเมื่อมองลงมาเบื้องล่างจะเห็นห้องอาหารค่ำซึ่งมีลักษณะเป็นทอเรสหลังคาเปิดกว้างติดกับทะเลและเต่าทะเลหินตัวนี้อย่างชัดเจน


ส่วน ห้องอาหารกลางวันมีชื่อว่า Elvis bar บนหาดจันทร์สมที่บรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางสวนมะพร้าวและกลิ่นไอของชายทะเลสุด ท้ายก็คือ ห้องอาหารค่ำ Chaba&Starlight Restaurant ที่เราสองคนกำลังยืนอยู่ขณะนี้ สามแบบสามสไตล์ไม่ซ้ำบรรยากาศกันในส่วนของเรื่องเมนูอาหารก็ไม่ซ้ำกันทั้ง สามแห่งอีกด้วย พระอาทิตย์ดวงกลมโตใกล้จะลาลับขอบฟ้าลงไปแล้วช่างเป็นภาพที่สวยงามเสียยิ่ง กระไร


เราสองคนกดซัตเตอร์ถ่ายภาพจนหนำใจ จากนั้นจึงหันกลับมาจัดการกับอาหารค่ำเมนูฝรั่งภายใต้บรรยากาศแสงสียามดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

อิ่ม หนำสำราญจนพุงกางคล้ายสามล้อถูกหวย จากนั้นจึงเดินทางกลับเข้าสู่ห้องพักปฎิบัติภารกิจส่วนตัวเสร็จสรรพล้มตัว ลงนอนเอาแรงไว้เที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น พรุ่งนี้เราสองคนจะนั่งเรือไปเที่ยวรอบเกาะเต่ากันและจะแวะชมความงามของเกาะ นางยวนกัน เกาะที่ได้รับการVote จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนว่าสวยงามจนติดอันดับเกาะที่สวยงาม หนึ่งในสิบของโลก คืนนี้เราสองคนขอราตรีสวัสดิ์กับท่านผู้อ่านแต่เพียงเท่านี้นะครับ
วันที่สองของการเดินทาง


เช้า ของวันที่อากาศแจ่มใสบนเกาะเต่าหลังจากปฎิบัติภารกิจส่วนตัวเป็นที่เรียบ ร้อยแล้ว เราสองคนเดินออกกำลังกายพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์จากนั้นจึงเดินลงมารับประทาน อาหารเช้ากันที่ห้องอาหารเช้าของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ท ซึ่งจัดเป็นบุฟเฟต์อาหารเช้ามากมายไปด้วยเมนูอาหารเช้าหลากหลายชนิดให้ลือ กรับประทานอย่างจุใจสำหรับเมนูของเราในเช้าวันนี้ก็คือ ผัดไทไข่ดาวผลไม้รวมคืออาหารเช้าของเราทั้งสองคนในเช้าวันนี้


เรา สองคนนั่งรับประทานอาหารเช้าไปชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงของห้องอาหารสามารถมอง เห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะนางยวนที่เราสองคนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในวันนี้ได้ อย่างชัดเจน


เรา สองคนนั่งรอเวลารถของบริษัททัวร์มารับเดินทางไปลงเรือที่ท่าเรือเกาะเต่า จนในที่สุดเวลา 08.30 น. รถปิคอัพของบริษัทTurtle Welcome Tours ก็มารับเราสองคนเดินทางสู่ท่าเรือเกาะเต่าเพื่อไปลงเรือดำน้ำชมปะการังรอบ เกาะเต่ากัน


บรรยากาศ ที่บริเวณท่าเรือเกาะเต่าในยามเช้ากำลังพลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ เดินทางมาเพื่อลงเรือเที่ยวและดำน้ำชมปะการังรอบเกาะเต่า


นัก ท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่าและมีความประสงค์จะเดินทางไปดำ น้ำชมปะการังรอบเกาะเต่าเหมือนเราทั้งสองคนสามารถติดต่อขอใช้บริการจองเพ็ค เกจทัวร์ได้ที่บริเวณเคานเตอร์ของรีสอร์ททุกแห่งที่ท่านเดินทางเข้าพักจาก นั้นในเช้าของวันรุ่งขึ้นจะมีรถปิคอัพของบริษัททัวร์เดินทางมารับท่านถึง รีสอร์ทที่ท่านพักไม่ว่าท่านจะพักอยู่แห่งหนตำบลใดบนเกาะเต่าก็ตามไม่ต้อง เสียสตังค์และเสียเวลาค่ารถเดินทางมายังท่าเรือเกาะเต่าเพื่อจองเพ็คเกจ ทัวร์ด้วยตนเองสำหรับในเรื่องราคาเพ็คเกจทัวร์เที่ยวรอบเกาะเต่าจองที่ รีสอร์ทที่ท่านพักกับที่บริษัททัวร์บริเวณท่าเรือเกาะเต่ามีราคาเดียวกันคือ 550 บาทต่อคน จองได้ที่รีสอร์ทที่ท่านเข้าพักสะดวกกว่ากันเยอะเลย
 สำหรับโปรแกรมของการดำน้ำชมปะการังรอบเกาะเต่าของบริษัททัวร์ทุกแห่งบนเกาะ เต่าจะเหมือนกันทุกบริษัทคือพาไปดำน้ำชมปะการังยังจุดดำน้ำยอดนิยมรอบเกาะ เต่าซึ่งทางบริษัททัวร์จะจัดเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำ เช่นสน็อคเกิ้ลและชูชีพไว้ให้พร้อมเสร็จสรรพ จากนั้นแวะท่องเที่ยวบนเกาะนางยวนรับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิคบนเรือกลับ สู่ท่าเรือเกาะเต่าเวลา 16.00 น.จากนั้นรถปิคอัพก็จะพาท่านเดินทางกลับสู่ที่พักเป็นอันสิ้นสุดของเพ็คเกจ ทัวร์รอบเกาะเต่าในทริปนี้


บน เรือทัวร์โดยสารรอบเกาะเต่าเราสองคนสังเกตุว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียเป็นส่วนใหญ่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเพียงเราสองคนเท่านั้นในเรือลำนี้ เนื่องจากเป็นวันธรรมดาจึงไม่ค่อยจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางมาท่อง เที่ยวสักเท่าไหร่นักท่องเที่ยวชาวไทยจะเดินทางมาท่องเที่ยวเฉพาะในช่วงวัน เสาร์อาทิตย์และในช่วงเทศกาลซึ่งมีวันหยุดยาวๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่และวันสงกรานต์เท่านั้นส่วนในวันธรรมดาก็จะคับคั่งไปด้วย นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะที่เดินทางหนีหนาวมาจากประเทศในแถบสแกนดิเน เวียในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก เป็นพิเศษยิ่งย่างเข้าสู่คริสต์มาสหรือปีใหม่อากาศในยุโรปหนาวเย็นลงนักท่อง เที่ยวต่างชาติจึงหอบลูกจูงหลานหนีอากาศหนาวมาท่องเที่ยวเมืองไทยนอนอาบแดด ผึ่งพุงโชว์เต้ากันตามชายหาดคับคั่งเป็นพิเศษ แต่พอย่างเข้าสู่เดือนเมษายนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็จะเป็นทีของนักท่อง เที่ยวชาวไทยที่จะหนีอุณหภูมิความร้อนอบอ้าวของเดือนเมษายนมาพักผ่อนนอนรับ ลมทะเลและเล่นน้ำกันตามหมู่เกาะต่างๆทั้งในอ่าวไทยและอันดามัน และเมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนพร้อมเรือดำน้ำก็เริ่มต้นออกเดินทางจากท่าเรือ เกาะเต่าพานักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะเต่าในทันที นึกถึงคำว่าเรือดำน้ำแล้วมีเรื่องตลกจะเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังถึงคำว่า “เรือดำน้ำ”โดยเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณเกือบสิบปีที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่ เราสองคนเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่าครั้งแรกในชีวิตได้ยินคนเกาะเต่าคุย กันถึงเรื่องเรือดำน้ำ เราสองคนนึกว่าเป็นเรือดำน้ำที่ใช้ในราชกาลสงครามเช่นเรือดำน้ำอูของเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเราสองคนนึกในใจว่าคนเกาะ เต่าคงรวยกันมากถึงขนาดมีเงินเป็นร้อยๆล้านซื้อเรือดำน้ำพานักท่องเที่ยวดำ น้ำรอบเกาะเต่าแต่เมื่อได้มาเห็นเรือดำน้ำของจริงแล้วทำเอาเราสองคนหน้าแตก หมอไม่รับเย็บไปตามๆ กันเพราะเรือดำน้ำที่ว่านั้นก็คือเรือทัวร์โดยสารธรรมดาที่พานักท่องเที่ยว ไปดำน้ำรอบเกาะเต่านั่นเองคนเกาะเต่าจึงกันสั้นๆว่า เรือดำน้ำ เล่าให้คนเกาะเต่าฟังขำกันกลิ้งมาจนทุกวันนี้ เรือทัวร์ดำน้ำแล่นผ่านหาดแม่หาดซึ่งเป็นที่ตั้งของเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ท หาดจันทร์สมซึ่งเป็นที่ตั้งของจามจุรีวิลล่ารีสอร์ท


หาด ทรายนวลและSIAMCOOKIEบังกะโลอันเป็นที่ตั้งของBANANAROCKซึ่งถ้ามองจากเรือ ทัวร์ดำน้ำเข้ามาคล้ายกับฉากภาพยนต์ฮอลีวู้ดเรื่องWATERWORLD


เรือ ทัวร์ดำน้ำพาเราสองคนเดินทางมาถึงอ่าวโฉลกบ้านเก่าซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ เกาะเต่าอ่าวโฉลกบ้านเก่ามีลักษณะพิเศษกว่าอ่าวใดๆบนเกาะเต่าเพราะมีลักษณะ โค้งเว้าลึกเข้าไปในเกาะเต่าเป็นที่หลบลมมรสุมของชาวประมงเกาะเต่าได้เป็น อย่างดีในช่วงของฤดูมรสุมอ่าวโฉลกบ้านเก่ายังเป็นที่ตั้งของเกาะเต่ารีสอร์ท รีสอร์ทระดับหรูบนเกาะเต่าซึ่งมีบ้านพักให้เลือกสองแบบในสไตล์
SEAVIEWและ MOAUNTAINVIEWจากเรือทัวร์ดำน้ำเราสองคนสามารถมองเห็นบ้านพัก แบบMOAUNTIANVIEWที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงได้ในระยะไกลๆนอกจากนั้นบริเวณหน้า อ่าวโฉลกบ้านเก่ายังเป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังอีกด้วย

จาก นั้นเรือทัวร์โดยสารก็พาเราผ่านมายังแหลมตาโต๊ะซึ่งมีลักษณะเป็นแหลมหินยื่น ออกมาในทะเลบริเวณปลายแหลมมีแท่งหินขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายหลวงจีนวัดเส้าหลิน นั่งขัดสมาธิ


เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านบนเกาะเต่าตลอดจนชาวประมงที่เดินเรือออกหาปลาในน่านน้ำย่านนี้

เลย แหลมตาโต๊ะไปเล็กน้อยเป็นที่ตั้งของอ่าวเทียนออกตรงข้ามก็คือเกาะฉลามหรือกง ทรายแดงเกาะเล็กๆเกาะหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ห่างจากอ่าวเทียนออกระยะทางประมาณ หนึ่งกิโลเมตรเป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังที่สวยงามแห่งหนึ่งของเกาะเต่าและยัง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าฝูงฉลามหูดำ(bull shark)จำนวนมากและในทุกๆวันฝูงฉลามหูดำใจดีเหล่านี้มักจะว่ายน้ำมาทักทาย เซย์ ฮัลโล กับนักท่องเที่ยวที่มาน้ำดำชมปะการังกันที่บริเวณอ่าวเทียนออกแห่งนี้เป็น ประจำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตื่นเต้นร้องวิ๊ดว๊าย โอ้ มายก็อด กันพอสมควร


แต่ ก็ไม่เคยมีข่าวว่าฉลามหูดำที่อ่าวเทียนออกและเกาะฉลามแห่งนี้ทำร้ายไล่กัดคน จะมีก็แต่ว่ายน้ำหนีคนเท่านั้นเพราะกลัวว่าจะเอาหูของมันไปทำหูฉลามน้ำแดง หรือผัดฉ่าปลาฉลามเมนูเด็ดมากกว่า

พอ เรือทัวร์ดำน้ำถึงบริเวณอ่าวเทียนออกบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็พากัน กระโดดลงไปในน้ำดำน้ำดูปะการังและบางคนก็ตามดูฝูงฉลามหูดำกันเป็นที่สนุก สนานสำราญใจ


ส่วน เราสองคนนั่งอยู่บนดาดฟ้าเรือคอยถ่ายรูปนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาว่ายน้ำ ชมปะการังอวดทรวดทรงองค์เอวของแต่ละคนเนื้อนมไข่เป็นบุญตาของเราทั้งสองคนใน ครั้งนี้สวยงามยิ่งกว่าการดำน้ำดูปะการังเยอะเลย แฮ่ะๆ

เรือ ทัวร์ดำน้ำลอยลำให้นักท่องเที่ยวได้ดำน้ำทักทายกับฉลามหูดำและดำดูปะการังจน สมควรแก่เวลาจากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปยังอ่าวลึก อ่าวโตนด อ่าวม่วง อ่าวหินวงและอ่าวลึกทุกๆอ่าวเป็นแหล่งดำน้ำดูปากะรังและฝูงปลาทะเลสีสันสวย งามนานาชนิดวันดีคืนดีอาจจะได้เห็น ปลาฉลามวาฬพระเอกของเกาะเต่า มาว่ายวนเวียนหาอาหารตามอ่าวต่างๆรอบเกาะเต่าให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่น ใจกันพอหอมปากหอมคอ


ส่วน ผู้ใดได้เห็นก็ถือว่าโชคดีไปนักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนลงทุนเดินทางข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาแสนไกลฝึกเรียนดำน้ำลึกหมดเงินไปเป็นแสนเสียเวลาไปเป็นอาทิตย์แต่ ก็ยังไม่สามารถเห็นตัวจริงๆของเจ้าฉลามวาฬได้ตรงกันข้ามกับนักท่องเที่ยวบาง คนที่เดินทางมาดำน้ำชมปะการังเพียงแค่ครั้งเดียวเสียเงินไม่ถึงพันบาทก็ได้ เห็นเจ้าฉลามวาฬออกมาว่ายเพล่นพล่านหาอาหารเป็นบุญตาก็ถือว่าเป็นความโชคดี ไป

สำหรับภูมิ ประเทศทางด้านหลังของเกาะเต่าจะมีลักษณะเป็นโขดหินเสียเป็นส่วนใหญ่อ่าว เกือบทุกอ่าวมีชายหาดน้อยมีโขดหินรูปทรงต่างๆสวยงามแปลกตามากเป็นปฎิมากรรม ที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นของขวัญแก่คนเกาะเต่าและนักท่อง เที่ยวที่ได้มีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่า


อ่าว ทุกอ่าวทางด้านหลังของเกาะเต่าแม้ภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นโขดหินแต่ก็ยัง มีรีสอร์ทบ้านพักที่สร้างอยู่บนโขดหินลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นๆทุกรีสอร์ทมี ถนนเข้าถึงแม้จะเป็นถนนลูกรังค่อนข้างที่จะขรุขระแต่ก็เปิดให้บริการแก่นัก ท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติและบรรยากาศความสงบเงียบในราคาย่อมเยาแถมยังมี บริการรถปิคอัพรับส่งลูกค้าที่เข้าพักจากท่าเรือเกาะเต่าเดินทางถึงรีสอร์ท บ้านพักฟรีอีกด้วย


เรา สองคนรับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิคซึ่งเป็นข้าวผัดที่เย็นชืดรสชาติจืด สนิทตามสไตล์อาหารฝรั่งแถมไม่มีน้ำปลาพริกข้าวผัดก็เลยจืดสนิทกันเข้าไปใหญ่ เรานั่งรับประทานอาหารกันบนเรือทัวร์ดำน้ำ จากนั้นเรือทัวร์ดำน้ำก็พาเราสองคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติแล่นไปตามเกลียว คลื่นที่เงียบสงบในวันที่ฟ้าเป็นใจแดดสวยน้ำทะเลใสมุ่งหน้าสู่เกาะนางยวน เกาะยอดฮิตจนติดอันดับชายหาดที่มีความสวยงามหนึ่งในสิบของโลกมีนักท่อง เที่ยวหลายคนเคยกล่าวไว้ว่าการเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเต่าจะไม่สมบูรณ์ถ้า ไม่ได้มีโอกาสเดินทางมาชมความงามของเกาะนางยวนทุกคนก็เลยลองเดินทางมา พิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเองดูสิว่าหาดทรายบนเกาะนางยวนแห่งนี้ในยามที่ฟ้าสวย แดดใสเช่นนี้จะมีความสวยงามสมกับคำร่ำลือหรือไม่ เรือทัวร์ดำน้ำใช้เวลาไม่กี่นาทีก็พาเราสองคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดิน ทางมาถึงยังเกาะนางยวน เสียงไกด์ประจำเรือแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงใต้ว่า ทางเรือจะให้เวลานักท่องเที่ยวประมาณหนึ่งชั่วโมงในการเดินเที่ยวชมความสวย งามและลงเล่นน้ำบนเกาะนางยวนและห้ามนำขวดน้ำพลาสติคขึ้นไปบนเกาะและจะต้อง เสียค่าธรรมเนียมเหยียบเกาะนางยวนในอัตราค่าธรรมเนืยมชาวต่างชาติคนละ 100 บาท คนไทยคนละ 30 บาทเป็นค่าดูแลความสะอาดและใช้บริการห้องสุขาบนเกาะนางยวน


พอ เรือทัวร์ดำน้ำเทียบท่าเรือเกาะนางยวนบรรดานักท่องเที่ยวต่างก็เดินขึ้นไปบน ท่าเรือของเกาะนางยวนป้าย”ยินดีต้อนรับ”และป้ายบอกเวลาเข้าชมเกาะนางยวน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00น ติดประกาศให้นักท่องเที่ยวได้ทราบโดยทั่วกันที่บริเวณท่าเรือของเกาะนางยวน

เรา สองคนขึ้นไปบนท่าเรือของเกาะนางยวนจากนั้นเดินต่อไปตามสะพานไม้อันคดเคี้ยว ชำระเงินค่าธรรมเนียมการเหยียบเกาะจากนั้นเดินผ่านห้องอาหารและบาร์น้ำจนใน ที่สุดก็เดินเท้ามาถึงบริเวณชายหาดของเกาะนางยวนที่กำลังคับคั่งไปด้วยนัก ท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพักผ่อนหย่อนใจ
นอนอ่านหนังสือบางคนก็นอนอาบแดด โชว์เต้าเล็กเต้าใหญ่กันเป็นจำนวนมากกว่าปกติสาเหตุเพราะวันนี้เป็นวันที่ ท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศแจ่มใสจนเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น อย่างมากพากันออกมานอนอาบแดดโชว์เต้ากันที่หาดทรายและ เล่นน้ำทะเลกันมากเป็นพิเศษ


ซึ่ง โดยปกติบนชายหาดบนเกาะนางยวนนักท่องเที่ยวก็แน่นอยู่แล้ววันนี้นักท่องเทียว กลับแน่นหนัก เข้าไปอีกเราสองคนแยกย้ายกันหามุมถ่ายรูปบนเกาะนางยวนซึ่งเป็นความโชคดีของ เราที่ท้องฟ้าในวันนี้รู้เห็นเป็นใจให้กับเราทั้งสองคน ได้ภาพของเกาะนางยวนสวยๆมาฝากท่านผู้อ่านให้เห็นกับตาว่าเกาะนางยวนนั้นสวย งามสมกับคำร่ำลือหรือไม่ นอกจากความสวยงามที่ติดอันดับโลกแล้วลักษณะโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของสันทราย บนเกาะนางยวนก็คือเม็ดทรายที่ขาวละเอียดกว่าหาดทรายทุกแห่งบนเกาะเต่าสัน ทรายแห่งนี้จะเชื่อมเกาะทั้งสามเกาะเข้าด้วยกันในช่วงเวลาน้ำลดและสันทราย แห่งนี้จะตัดขาดเกาะทั้งสามเกาะออกจากกันในช่วงเวลาน้ำขึ้นแปรเปลี่ยนไปตาม ฤดูกาลและคลื่นลมในทะเลเป็นความมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยธรรมชาติผู้ ยิ่งใหญ่ในทะเลอ่าวไทยมีแห่งเดียวเท่านั้นคือที่เกาะนางยวนแห่งนี้ส่วนใน ทะเลไทยทางด้านฝั่งอันดามันจะเป็นทะเลแหวกในน่านน้ำจังหวัดกระบี่ เมื่อพาท่านผู้อ่านมาเที่ยวยังเกาะนางยวนแล้วก็อยากจะขอเล่าถึงเกร็ดความรู้ เล็กๆน้อยๆของเกาะนางยวนให้ท่านผู้อ่านได้ทราบดังนี้


เกาะ นางยวนเป็นเกาะเล็กๆตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเต่าห่างจากท่า เรือเกาะเต่าใช้เวลาเดินทางประมาณ15 นาที เกาะนางยวนประกอบด้วยเกาะสามเกาะเล็กๆที่ถูกเชื่อมเข้าด้วยกันด้วยสันทรายสี ขาวสะอาดและเป็นหาดทรายที่สวยที่สุดจนติดอันดับความสวยงาม1ใน10ของโลก


บน ยอดเขาของเกาะนางยวนทางด้านทิศใต้ใช้เวลาเดินเท้าไปตามเส้นทางบันไดปูนอันคด เคี้ยวความสูงประมาณ120เมตรใช้เวลาเดินเท้าประมาณสิบนาทีช้าหรือเร็วกว่านี้ ขึ้นอยู่ที่สังขารของแต่ละคนก็จะมาถึงจุดชมวิวที่สามารถชมวิวทิวทัศน์บนมุม สูงมองเห็นสันทรายสวยๆที่เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะนี้เข้าด้วยกันในช่วงเวลาน้ำ ลดช่างภาพหลายคนเรียกจุดชมวิวแห่งนี้ว่ามุมมหาชนเพราะไม่ว่าจะเป็นช่างภาพมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นต้องจะต้องตะเกียดตะกายถ่อสังขารกันขึ้นมา บันทึกภาพบนจุดชมวิวแห่งนี้ทุกคนส่วนจะได้ภาพที่สวยงามน่าประทับใจกลับไป ฝากคนทางบ้านนั้นขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศช่างภาพบางคนมานอนเฝ้าเป็น อาทิตย์เพื่อเก็บภาพประทับใจบนจุดชมวิวแห่งนี้แต่ก็ยังไม่ได้ภาพที่ประทับ ใจกลับไปก็มีสาเหตุเพราะสภาพดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจแต่ในวันนี้สภาพอากาศรู้ เห็นเป็นใจให้กับเราทั้งสองคนจึงได้ภาพที่สวยงามและน่าประทับใจมาฝากท่าน ผู้อ่าน


นัก ท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะจัดรายการท่องที่ยวเกาะเต่าคู่กับ เกาะนางยวนไปพร้อมๆกันเพราะเกาะทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กัน ส่วนเกาะนางยวนนั้นแม้ว่าจะดูเล็กเมื่อเทียบกับเกาะเต่าแต่ทว่ามีธรรมชาติ ที่ยิ่งใหญ่น่าตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะหาดทรายทั้งสามแห่งที่เชื่อมต่อกันใน ช่วงเวลาน้ำลดส่วนบริเวณอ่าวทั้งสามอ่าวที่เกิดจากสันทรายนี้มีแนวปะการัง และฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามมากมายหลากหลายชนิดให้นักท่องเที่ยวได้หยอกล้อเล่น เพลินๆใจอีกด้วย


นัก ท่องเที่ยวท่านใดประทับใจในความสวยงามของเกาะนางยวนยากจะพักค้างแรมบนเกาะ นางยวนก็ได้เพราะบนเกาะนางยวนมีรีสอร์ทแห่งหนึ่งมีชื่อว่า เกาะนางยวนไดว์รีสอร์ทถูกออกแบบมาในลักษณะบ้านพักสไตล์บังกะโลกลมกลืนกับ ธรรมชาติและความเป็นส่วนตัวมีห้องพักทั้งหมดจำนวน 59 ห้องในราคาที่เริ่มต้นตั้งแต่ 1,500-14,000บาทต่อคืนสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ ที่www.nangyuan.com e-mail: info@nangyuan.com สำนักงานกรุงเทพ โทรศัพท์ 02 629 2571-2,02885 9531 สนใจจะพักค้างแรมบนเกาะนางยวนหรืออยากจะพาคนรักมาฮันนีมูนก็ขอเชิญติดต่อไป ได้เลยครับ


หลัง จากเก็บภาพของเกาะนางยวนจนเป็นที่พอใจแล้วจากนั้นเราสองคนจึงมานั่งพักผ่อน กันที่บาร์น้ำบนเกาะนางยวนสั่งน้ำสิงห์หนึ่งขวดแก้วมาดื่มในราคาขวดละ 40 บาท ทางเกาะนางยวนมีกฎระเบียบไว้ว่าห้ามนักท่องเที่ยวนำขวดน้ำพลาสติคขึ้นมาบน เกาะนางยวนโดยเด็ดขาดเราสองคนจึงจำเป็นต้องซื้อน้ำสิงห์มากินเองแก้กระหาย พร้อมกับแอบบันทึกภาพอากัปกิริยาต่างๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มานอนอาบแดดและเล่นน้ำทะเลบริเวณหาดทรายของเกาะ นางยวนกันอย่างสนุกสนาน


เวลา ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงสมควรแก่เวลาตามเวลานัดหมายจากนั้นจึงเดินเท้ากลับมายัง ท่าเรือเกาะนางยวนเพื่อเดินทางด้วยเรือทัวร์ดำน้ำกลับสู่ท่าเรือเกาะเต่า เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะเต่าแต่เพียงเท่านี้


เราสองคนเดินทางถึงท่าเรือเกาะเต่าเมื่อเวลา 16.00น จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับที่พัก
สำหรับในค่ำคืนนี้เราสองคนจะเปลี่ยนรีสอร์ทที่พักใหม่โดยมาพักกันที่ เซนซีพาราไดซ์บีช
รีสอร์ทที่อยู่ติดกับจามจุรีวิลล่ารีสอร์ทบนหาดแม่หาดห่างจากท่าเรือเกาะเต่าระยะทางเพียงแค่ 100เมตรเท่านั้น

หลัง จากเดินเท้าถึงเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทพร้อมกับย้ายสัมภาระเข้าสู่ห้องพัก เป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงออกมาเดินเล่นเที่ยวชมบรรยากาศภายในของเซน ซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทซึ่งแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เป็นส่วนตัวเหมาะแก่การพักผ่อนบ้านพักทุกหลังถูกสร้างขึ้นมาด้วยไม้สไตล์ชาว เกาะเน้นความเป็นเอกลักษณ์แบบไทยๆกลมกลืนกับธรรมชาติโดยมีบ้านพักมากกว่า 50 หลังพัดลมพร้อมแอร์คอนดิชั่นพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกับ
รีสอร์ทระดับ4ดาวพึ่งจะมีโดยบ้านพักถูกแบ่งออกเป็นสองโซนด้วยกัน


โซน แรกบ้านพักทุกหลังจะถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาลดหลั่นกันลงมาเป็นขั้นๆท่ามกลาง สวนมะพร้าวอันร่มรื่นไม่ต้องกลัวลูกมะพร้าวตกใส่ศรีษะเพราะทางรีสอร์ทได้ให้ พนักงานเก็บหมดแล้วเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศความเป็นส่วนตัว และเงียบสงบ ส่วนบ้านพักโซนที่สองอยู่ติดกับบริเวณหาดแม่หาดบ้านพักทุกหลังจะมีระเบียง หน้าบ้านไว้ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจและสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ของเกาะนางยวนและท่าเรือเกาะเต่าได้อย่างชัดเจนในราคาบ้านพักที่เริ่มต้น ตั้งแต่ 1,500- 18,000 บาท


 นอกจากนี้ภายในรีสอร์ทยังมีบริการนวดแผนโบราณ นวดฝ่าเท้าและนวดอโรม่าเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักภายในรีสอร์ทได้นวด ผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางท่องเที่ยวมาตลอดทั้งวันนอกจากนี้ ทางรีสอร์ทยังมีบริการสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาใหม่ภายในรีสอร์ท เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในรีสอร์ท


ได้ พักผ่อนออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำอีกด้วยสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ตาม รีสอร์ทอื่นแต่อยากใช้บริการสระน้ำของเซนซีพาราไดซ์ก็สามารถทำได้โดยเสียค่า ใช้บริการสระน้ำคนละ 500บาท
 สำหรับห้องอาหารของเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทซึ่งอยู่ติดกับหาดแม่หาดนั้น พรั่งพร้อมไปด้วยเมนูอาหารมากมายหลากหลายชนิดทั้งไทยและเทศและเมนูอาหารทะเล สดๆอีกด้วย


ใกล้ กับระเบียงห้องอาหารของเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทที่ยื่นออกมามีก้อนหินขนาด ใหญ่ก้อนหนึ่งลักษณะเป็นวงรีคล้ายไข่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตามธรรมชาติบนโขด หินริมหาดแม่หาดภายในรีสอร์ทซึ่งนับว่าเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติลักษณะคล้ายกับก้อนหินรูปเต่าทะเลภายในจามจุรีวิลล่ารีสอร์ท และด้วยความมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินี้เองทางเซนชีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทจึงนำหิน รูปไข่ก้อนนี้มาเป็นโลโก้สัญญลักษณ์อันโดดเด่นของเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทใน เวลาต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้


เรา สองคนสอบถามความเป็นมาของหินก้อนนี้จากคนเกาะเต่าหลายคนบอกเราว่าเกิดมาก็ เห็นหินก้อนนี้ตั้งอยู่ตรงจุดนี้แล้วไม่ทราบว่าใครยกมาวางไว้ เพี่อจุดประสงค์อันใดอาจกล่าวได้ว่าหินก้อนนี้เป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดจาก ฝีมือของธรรมชาติมากกว่าฝีมือของมนุษย์


เรา สองคนเดินเที่ยวชมความบรรยากาศภายในเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทและความสวยงาม ของหาดแม่หาดจนดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าจากนั้นเราสองคนจึงมานั่งพักผ่อนหย่อน ใจพร้อมรับประทานอาหารค่ำกันภายในห้องอาหารของเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ ทพร้อมกับชมแสงสียามราตรีของท่าเรือเกาะเต่าที่ตั้งอยู่เบื้องหน้ามองเห็น ได้ในระยะไม่ไกลเท่าใดนัก


นัก ท่องเที่ยวที่สนใจรายละเอียดและสำรองห้องพักของเซนซีพาราไดซ์สามารถคลิกเข้า ไปเยี่ยมเยียนเว็บไซด์ของเซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ทหรืออีเมล์เข้าไปสำรองห้อง พักได้ที่ www.SensiParadiseBeachResort.com
E-mail: sensiparadise@hotmai.com E-mail 
info@kohtaoparadise.com
เซนซีพาราไดซ์บีชรีสอร์ท
27 หมู่2 บ้านแม่หาด ต.เกาะเต่า อ. เกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี 84280
โทรศัพท์ 077 456244 แฟกซ์ 077 456245


หลัง อาหารค่ำเราสองคนเดินเท้ากลับสู่บ้านพักเพื่อพักผ่อนหลังจากที่เหน็ดเหนื่อย กับการล่องเรือเที่ยวรอบเกาะเต่าและเกาะนางยวนมาทั้งวัน พรุ่งนี้เราสองคนจะขับรถท่องเที่ยวบนเกาะเต่าและร่วมงานเปิดโลกทะเลเกาะเต่า กันครับ คืนนี้ขอกล่าวค่ำว่า “ราตรีสวัสดิ์”ครับ
วันที่สามของการเดินทาง


เรา สองคนรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของ เซนซีพาราไดซ์บีช รีสอร์ท จากนั้นจึงเช่ารถมอเตอร์ไซด์ในราคาค่าเช่าวันละ 250 บาท น้ำมันเติมเองออกเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะเต่า


สถาน ที่แห่งแรกที่เราสองคนจะเดินทางไปก็คือหาดทรายรี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่2ทางทิศตะวันตกของเกาะเต่าเป็นสถานที่ประดิษฐาน ของพระบรมรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่5และสวนหินจปร.เพื่อกราบสักการะบูชารูป หล่อของพระองค์ท่านจากการที่เราทั้งสองได้มีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมเยือนเกาะ เต่าอีกครั้งหนึ่ง


เรา สองคนขับรถไปตามถนนเลียบชายหาด ทรายรีอันร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวและสนทะเลที่ขึ้นเรียงรายไปตามความยาวของ ชายหาด เหนือแนวชายหาดขึ้นมาจะหนาแน่นไปด้วยรีสอร์ทบ้านพักซึ่งมีให้เลือกพักมากมาย หลายระดับราคาโดยเริ่มต้นตั้งแต่ราคาคืนละไม่กี่ร้อยบาทจนถึงราคาเป็นหมื่นๆ บาทต่อคืนตลอดจน ร้านอาหาร โรงเรียนสอนดำน้ำ ร้านสะดวกซื้อ ธนาคารรับแลกเปลี่ยนเงินตราและร้านขายของที่ระลึกฯลฯ หาดทรายรีจึงเป็นชายหาดที่คับคั่งและคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ มากกว่าชายหาดอื่นๆทั้งหมดบนเกาะเต่าตลอดทั้งกลางวันเกาะกลางคืนหาดทรายรี ไม่เคยหลับใหลเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบแสงสีความบันเทิงเริงรมย์บน เกาะเต่าสามารถหาได้ที่หาดทรายรีแห่งนี้ และด้วยชายหาดที่มีความโค้งเว้ายาวกว่าสองกิโลเมตรจึงเหมาะกับการพักผ่อน หย่อนใจนอนอาบแดดและลงเล่นน้ำทะเล


หาดทรายรีในทุกๆวันจึงคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อพักผ่อนหย่อนใจบนหาดทรายรี แห่งนี้


เรา สองคนเดินทางมาถึงพระบรมรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับสวนหิน จปร.สัญลักษณ์อันโดดเด่นบนหาดทรายรีซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนหินกลุ่มใหญ่อยู่ บริเวณหาดทรายรีคล้ายสวนหินขนาดย่อมที่สร้างสรรขึ้นโดยสถาปนิกนามว่า ธรรมชาติเป็นผู้ออกแบบให้


โดย มีแท่งหินขนาดใหญ่อยู่แท่งหนึ่งสูงท่วมศีรษะจำหลักรอยจารึก จปร.ของล้นเกล้ารัชกาลที่5เมื่อคราวทรงเสด็จประพาสเกาะเต่าเมื่อประมาณร้อย กว่าปีที่ผ่านมา


นอก จากนั้นบริเวณนี้ยังถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านบนเกาะเต่าทุกคนต่าง เดินทางมาสักการะบูชาพระบรมรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5ไม่ขาดสายในทุกๆวัน


หลังจากเราสองคนกราบสักการะพระบรมรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


จาก นั้นจึงเดินทางมาร่วมงาน”เปิดโลกทะเลเกาะเต่า”ที่ถูกจัดขึ้นกลางเดือนมีนาคม เป็นประจำทุกปีซึ่งในปีนี้งานเปิดโลกทะเลถูกจัดขึ้นในระหว่างวันที่21-21 มีนาคมพ.ศ.2552ผู้จัดงานได้แก่ชมรมคนรักษ์เกาะเต่า องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเต่า ร้านดำน้ำและชุมชนคนเกาะเต่าซึ่ง ภายในงานจะคับคั่งไปด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเช่นผู้ ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเดนทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน นายอำเภอ นายกอบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านบนเกาะเต่าและเกาะพะงัน ผู้บังคับการเรือ นายทหารเรือ ชาวบ้านบนเกาะเต่าตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวบน เกาะเต่าและนักเรียนดำน้ำที่จบหลักสูตรการดำน้ำจากโรงเรียนสอนดำน้ำบนเกาะ เต่าไปแล้วแต่ก็เดินทางข้ามน้ำข้ามทะลมาร่วมในงานเปิดโลกทะเลเกาะเต่ากัน อย่างคับคั่ง


โดย พิธีเปิดในช่วงเช้าจะมีการเชิญพระสงฆ์จากสำนักสงฆ์บนเกาะเต่ามาเจริญพระพุทธ มนต์จากนั้นจะมีการเสาวนาเรื่อง”อนุรักษ์เกาะเต่าอย่างไรให้ยั่งยืนต่อจาก นั้นก็จะเป็นการปล่อยลูกเต่าทะเล ปล่อยลูกหอยมือเสือ การดำน้ำเชิงอนุรักษ์เก็บขยะใต้ทะเล การแข่งขันกีฬาชายหาด การจัดทัวร์ดำน้ำชมปะการังรอบเกาะเต่าฯลฯ


ส่วน ในช่วงเวลากลางคืนจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกการละเล่นต่างๆและการ ประกวดขวัญใจเกาะเต่าซึ่งแต่ละรีสอร์ทจะส่งสาวงามต่างชาติแต่งชุดไทยขึ้น ประกวดบนเวที เราสองคนร่วมในงานพิธี”เปิดงานโลกทะเลเกาะเต่า”ในช่วงเช้าบรรยากาศภายในงาน เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเองจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายคล้อย
จาก นั้นเราสองคนจึงขอตัวประธานจัดงานขับรถท่องเที่ยวบนเกาะเต่าต่อในช่วง บ่าย ส่วนงานในช่วงค่ำนี้เราสองคนสัญญาว่าจะกลับมาร่วมงานใหม่ จากหาดทรายรีเราสองคนขับรถไปตามถนนคอนกรีตเส้นทางเที่ยวรอบเกาะขึ้นไปทางตอน เหนือของเกาะเต่าซึ่งในปัจจุบันถนนหนทางบนเกาะเต่าได้รับการพัฒนาปรับปรุงจน ดีขึ้นแตกต่างจากเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมากเราสองคนขับรถเลยหาด ทรายรีขึ้นไปทางทิศเหนืออีกเล็กน้อยจากนั้นเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางถนนคอนกรีต ขึ้นเขาไปอีกระยะทางประมาณ150เมตรก็จะถึง “ทรายรีวิวรีสอร์ท”ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงกระดูกของปลาลามวาฬขนาดใหญ่ถูกจัด แสดงเอาไว้ภายในรีสอร์ทแห่งนี้


ซึ่ง แต่เดิมรีสอร์ทแห่งนี้มีเจ้าของเป็นคนไทยต่อมาได้ให้ฝรั่งชาวต่างชาติเช่า ช่วงทำธุรกิจรีสอร์ทต่อ รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาบรรยากาศจึงเงียบสงบเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวสำหรับบ้านพักมีจำนวน 12 หลังราคาเริ่มต้นที่800-1200 บาทต่อคืนสนใจติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 077 456251 บริเวณด้านหลังของรีสอร์ทแห่งนี้มีจุดชมวิวทิวทัศน์ของหาดทรายรีบนมุมสูงได้ อย่างชัดเจนและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย สำหรับโครงกระดูกของปลาฉลามวาฬที่นำมาจัดแสดงไว้ภายในให้นักท่องเที่ยวได้ ชมนั้นเจ้าของรีสอร์ทคนเดิมคือคุณอุ้นได้ขอซื้อมาจากชาวประมงที่อ่าวโตนดโดย ฉลามวาฬตัวนี้ได้มานอนตายเกยตื้นที่บริเวณอ่าวโตนดเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นเกาะเต่ายังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเหมือนเช่นทุก วันนี้

จากทรายรีวิวรีสอร์ท ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงกระดูกปลาวาฬเราสองคนใช้เส้นทางถนนหาดทรายรีผ่าน สำนักสงฆ์ที่มีแห่งเดียวบนเกาะเต่าก่อนถึงซอย หาดทรายรี1 จะมีทางแยกซ้ายมือถนนคอนกรีตสูงชันซึ่งต้องขับรถมอเตอร์ไซด์ขึ้นไปด้วยความ ระมัดระวัง


เลย ขึ้นไปยังเสารับ-ส่งสัญญาน ของGSM ระยะทางประมาณ 200เมตรก็จะมาถึงจุดชมวิว “Sunset View Point” ซึ่งเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่บนเกาะเต่า


และบนจุดชมวิวแห่งนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร”Sunset View Bar “ซึ่งดำเนินงานโดยคุณหนุ่ม
หนุ่ม ใหญ่ใจดีเจ้าของร้านจำหน่ายอาหารไทย-ฝรั่งมากมายหลากหลายชนิดรสชาติอร่อย ราคาถูกจนเป็นที่นิยมของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบ เดินทางขึ้นมาพักผ่อนหย่อนใจนั่งจิบเบียร์ชมพระอาทิตย์ตกกันเป็นประจำทุก เย็นบนจุดชมวิวแห่งนี้ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของท่าเรือเกาะเต่าบนหาด แม่หาดต่อไปยังหาดทรายรีได้หมดทั้งอ่าวรวมทั้งวิวทิวทัศน์ของเกาะนางยวนได้ อย่างชัดเจน

นัก ท่องเที่ยวชาวไทยที่สนใจจะเดินทางมารับประทานอาหารไทยสไตล์พื้นบ้านหรือนั่ง พักผ่อนหย่อนใจจิบเบียร์เย็นๆกินลมชมวิวบนจุดชมวิวแห่งนี้ในยามเย็น สามารถติดต่อได้ที่คุณหนุ่ม โทรศัพท์ 087 279 2611 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.ทุกวัน เราสองคนนั่งพักผ่อนหย่อนใจจนสมควรแก่เวลาจากนั้นจึงออกเดินทางท่องเที่ยว ต่อไปยังอ่าวโฉลกบ้านเก่าซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่2 อ่าวโฉลกบ้านเก่า ทางทิศใต้ของเกาะเต่า ห่างจากท่าเรือเกาะเต่าระยะทางประมาณ 5 กม.


เรา สองคนใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีก็เดินทางมาถึงอ่าวโฉลกบ้านเก่าซึ่งมีลักษณะโค้งเว้าลึกเข้าไปในแผ่นดิน มากกว่าอ่าวทุกๆอ่าวบนเกาะเต่าในช่วงฤดูมรสุมอ่าวโฉลกบ้านเก่าถูกใช้เป็นที่ หลบลมมรสุมของชาวประมงได้เป็นอย่างดี ชายหาดโค้งเว้ามีความยาว 250 เมตร เหนือบริเวณแนวชายหาดขึ้นมาเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทมากมายหลากหลายรีสอร์ทหลาย ระดับและหลายราคาซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือเกาะเต่ารีสอร์ทที่พักของเราสอง คนในคืนนี้ ในทุกๆวันบริเวณชายหาดของอ่าวโฉลกบ้านเก่าจะคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวต่าง ชาติเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจลงเล่นน้ำทะเลนั่งอ่านหนังสือนอนอาบแดดกันเป็น ประจำ


บาง คนก็มาดำน้ำชมปะการังที่มีอยู่อย่างมากมายบริเวณหน้าอ่าวโฉลกบ้านเก่าบางคน ก็พายแคนนูเที่ยวชมรอบเกาะในวันที่ท้องฟ้าใสหาดทรายสวยเช่นในวันนี้


จาก อ่าวโฉลกบ้านเก่าเราสองคนขับรถผ่านเกาะเต่ารีสอร์ทขึ้นมาเล็กน้อยจะมีทางแยก ซ้ายมือขึ้นเนินเขาจะเป็นเส้นทางไปหาดทรายแดงส่วนทางแยกขวามือจะไปศาลเจ้า พ่อตาโต๊ะและเหนือขึ้นมาเพียงเล็กน้อยก็จะเป็นที่ตั้งของจุดชมวิว จอห์น-สุวรรณเราสองคนขับรถเลี้ยวขวาไปกราบสักการะบูชาศาลเจ้าพ่อตาโต๊ะที่ เคารพบูชาของชาวบ้านบนเกาะเต่า


ใน ทุกๆวันจะมีชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเที่ยนมาสักการะบูชากันเป็นประจำจากนั้นจึง เดินเท้าขึ้นเขาใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็มาถึงบนจุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ จุดชมวิวแห่งนี้ถูกค้นพบขึ้นโดย ฝรั่งชาวอังกฤษชื่อนายจอห์นและคุณสุวรรณชาวบ้านบนเกาะเต่าเมื่อหลายสิบปีที่ ผ่านมาปัจจุบันคุณสุวรรณได้อำลาจากโลกนี้ไปแล้วทิ้งให้คุณจอห์นอยู่เปลี่ยว เดียวดายคนเดียวบนเกาะเต่า


บน จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณอากาศเย็นสบายสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่าวโฉลกบ้าน เก่าและอ่าวเทียนออกที่มีลักษณะโค้งเว้าเข้าหากันได้อย่างชัดเจนโดยมีจุดชม วิวจอห์นสุวรรณอยู่ระหว่างกลางลักษณะคล้ายกับจุดชมวิวของพีพีดอนในทะเล กระบี่และใต้จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณลงมาเล็กน้อยก็คือหัวแหลมตาโต๊ะที่เคารพ บูชาของชาวบ้านเกาะเต่าและในวันที่ท้องฟ้าสวยแดดใส สามารถมองเห็นเกาะพะงันที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะเต่าระยะทาง 45 กม.และเกาะ สมุยได้อย่างชัดเจนอีกด้วยเราสองคนนั่งพักผ่อนหย่อนใจรับลมทะเลเย็นๆ บนจุดชมวิวจอห์น-สุวรรณจนสมควรแก่เวลาจากนั้นจึงเดินทางกลับลงมายังเบื้อง ล่างหาเส้นทางถนนเดินทางลงมายังอ่าวเทียนออกปรากฏว่าเส้นทางถนนที่เคยลงไป สู่อ่าวเทียนออกได้นั้นปัจจุบันถูกปิดตายหนทางเดียวที่จะเดินทางลงไปยังอ่าว เทียนออกได้นั่นคือจะต้องขับรถอ้อมไปเข้าทางหาดทรายแดงแต่เส้นทางถนนเส้นนี้ ลาดชันอาจเป็นอันตรายกับเราสองคนที่ไม่เคยชินกับถนนบนเกาะเต่าใกล้กับทาง ขึ้นศาลเจ้าพ่อตาโต๊ะ
มีร้านอาหารร้านหนึ่งมีชื่อว่าNEW HEAVENซึ่งภายในร้านมีระเบียงไม้เป็นลานกว้างขนาดใหญ่เพื่อให้นักท่อง เที่ยวได้นั่งชมวิวทิวทัศน์พร้อมรับประทานอาหารเราสองคนขออนุญาตเจ้าของร้าน ผู้ใจดีเข้าไปถ่ายรูปบริเวณจุดชมวิวภายในร้านซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ของอ่าวเทียนออกได้หมดทั้งอ่าวรวมทั้งเกาะฉลามหรือกงทรายแดงด้วยจากจุดชมวิว เรามองเห็น


บรรยากาศ บริเวณชายหาดของอ่าวเทียนออกแห่งนี้เงียบสงบร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวที่ขึ้น เรียงรายอยู่บริเวณชายหาดที่มีเม็ดทรายขาวละเอียดกว่าทุกๆอ่าวบนเกาะเต่ามี ความยาวประมาณ 150 เมตร
บนชายหาดเทียนออกปราศจากรีสอร์ทที่พักมีก็แต่ ร้านขายอาหารและเครื่องดื่มและให้เช่าสน็อคเกิ้ลของชาวบ้านที่มาเฝ้าชายหาด เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำทะเล พักผ่อนหย่อนใจและดำน้ำชมปะการังและปลาฉลามหัวหูดำที่ว่ายวนเวียนคอยทักทาย นักท่องเที่ยวอยู่บริเวณด้านหน้าชายหาดของอ่าวเทียนออก จากอ่าวเทียนออกสามารถมองเห็นเกาะฉลามแหล่งดำน้ำชมปะการังที่ตั้งอยู่ห่าง จากชายหาดของอ่าวเทียนออกระยะทางประมาณ 500 เมตรได้อย่างชัดเจนและถ้ามองออกไปจะแลเห็นเกาะพะงันอีกด้วย

สำหรับ ร้าน New Heaven เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวพร้อมบ้านพักไล่ระดับตามไหล่เขาลงมายังบริเวณ ชายหาดอีกด้วยรายละเอียดโทรศัพท์ติดต่อสอบถามได้ที่ 077 456 462 เราสองคนนั่งพักผ่อนหย่อนใจพร้อมรับประทานอาหารกลางวันกันที่ Newheaven จนสมควรแก่เวลา


พอ ได้เวลาบ่ายคล้อยแดดร่มลมตกพอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนเราสองคนขี่รถ มอเตอร์ไซด์มาหากาแฟกินกันที่ริมถนนอ่าวโฉลกบ้านเก่าตรงข้ามกับร้านสอนดำ น้ำNEWHEAVEN DIVING SHOPร้านกาแฟแห่งนี้มีชื่อว่า KOPPEE เจ้าของมีชื่อว่าคุณแก่นประธานชมรมคนรักษ์เกาะเต่าและเป็นแม่งานในการจัดงาน เปิดโลกทะเลเกาะเต่าในวันนี้และยังเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำที่ตั้งอยู่ ตรงข้ามร้านกาแฟแห่งนี้ด้วยคุณแก่นแกกำลังสาละวนอยู่กับการจัดงานเปิดโลก ทะเลในค่ำคืนนี้แกเลยไม่ค่อยมีเวลามาพูดคุยกับเราสองคนมากนักเราสั่งกาแฟมา รับประทานแกล้มด้วยขนมเค้กกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นรสชาติเยี่ยมถูกใจคอกาแฟเช่นเรา ทั้งสองคน


แถม ราคาก็ยุติธรรมอีกด้วยจนต้องสั่งมาอีกเป็นแก้วที่สองนักท่องเที่ยวที่เป็นคอ กาแฟมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่าแล้วนึกอยากกาแฟขึ้นมาก็ขอเชิญได้ที่ร้าน KOPPEE น่ะครับเจ้าของร้านใจดีแต่พูดมากไปหน่อยเมื่อจัดการกับกาแฟจนตาแข็งลมออกหู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


จาก นั้นเราทั้งสองคนจึงออกเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะเต่ากันต่อไปยังบริเวณด้าน หลังเกาะ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเต่าในอดีตเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาเมื่อ ครั้งเกาะเต่ายังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนักการเดินทางไปยัง อ่าวต่างๆโดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกของเกาะเต่าเช่น อ่าวโตนด อ่าวลึก อ่าวหินวง ฯลฯเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับต้องชำนาญ เส้นทางพอสมควรเพราะเส้นทางถนนบนเกาะเต่าคดเคี้ยววกวนขึ้นลงเขาโดยเฉพาะอ่าว ลึกซึ่งไม่มีเส้นทางถนนไปถึงต้องเดินทางไปโดยทางเรือเท่านั้น ตัวอย่างเส้นทางถนนบนเกาะเต่าในอดีตเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาเรานำมาให้ท่าน ผู้อ่านได้ชมดังในรูปนี้น่ะครับ


แต่ ในปัจจุบันนี้เส้นทางถนนดังในรูปนี้แทบจะไม่มีให้เห็นบนเกาะเต่าอีกต่อไป แล้ว ปัจจุบันเส้นทางถนนคอนกรีตเชื่อมโยงไปยังอ่าวต่างๆบนเกาะเต่าเกือบทั้ง 11 อ่าวนั้นสะดวกสบายกว่าในอดีตที่ผ่านมามากแต่คนขับก็ยังต้องขับรถด้วยความ ระมัดระวังยิ่งกว่าเดิมอีกเพราะเมื่อถนนหนทางสะดวกคนขับรถบางคนก็เกิดความ ประมาทขับรถด้วยความเร็วจากถนนตีโค้งพุ่งลงเหวไปก็มีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ฝรั่งชาวต่างชาติที่นิยมชมชอบกับการขับรถมอเตอร์ไซด์เที่ยวรอบเกาะและด้วย ความที่ไม่ชำนาญเส้นทางประกอบกับขับรถด้วยความประมาทเกิดอุบัติเหตุตีโค้ง พลัดตกลงไปในเหวข้างทางกลับบ้านเก่าไปเข้าเฝ้าพระเจ้าก่อนเวลาอันสมควร อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางนั่งเครื่องบินมาตั้งหลายพันไมล์เสียทั้งเวลาทั้ง เงินทองตั้งใจจะเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเต่าให้สมใจอยากกลับเดินทางเอาชีวิต มาทิ้งที่เกาะเต่าปีละหลายๆราย


ก็ ขอเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมขับรถมอเตอร์ไซด์เที่ยวรอบเกาะเต่าขอให้ ขับรถท่องเที่ยวด้วยความระมัดระวังให้มากน่ะครับและถ้าขับรถยังไม่แข็งและ ไม่ชำนาญเส้นทางจ้างรถปิคอัพรับจ้างของเจ้าถิ่นให้ขับรถพาเที่ยวรอบเกาะดี กว่าครับห่วงชีวิตตัวเองดีกว่าห่วงสตังค์เล็กๆน้อยๆส่วนรถปิคอัพรับจ้างก็มี ให้บริการอยู่ทั่วไปบริเวณท่าเรือเกาะเต่าส่วนเรื่องสนนราคาต่อรองกันได้ เพราะคนไทยด้วยกันราคาค่ารถอาจจะแพงกว่าบนฝั่งบ้างเล็กน้อยก็เห็นใจคนขับเขา บ้างเถอะน่ะครับเพราะค่าขนส่งน้ำมันจากฝั่งมายังเกาะเต่านั้นค่าขนส่งแพงเอา การอยู่ราคาก็ตกประมาณวันละ2000-2500 บาทถ้ามาเที่ยวกันหลายๆคนหารค่ารถกันก็ถือว่าคุ้มครับ แต่ถ้ามาเที่ยวกันสองคนเช่ารถมอเตอร์ไซด์วันละ 250บาทน้ำมันเติมเองประหยัดกว่าครับแต่ต้องขับด้วยความระมัดระวังหาเช่าได้ ตามรีสอร์ททั่วไปบนเกาะเต่าหรือที่ร้านJune อยู่ติดกับด้านหน้าของเกาะเต่ารีสอร์ท อ่าวโฉลกบ้านเก่าเจ้าของร้านใจดีเช่าเกินเวลานิดๆหน่อยก็ไม่คิดสตังค์ เพิ่ม หรือจะเช่ารถATVไอ้ตีนโต สามล้อก็มีให้เช่าที่ร้านบริเวณท่าเรือเกาะเต่าครับส่วนเรื่องราคาไม่ทราบ ครับเพราะขับไม่เป็น


เรา สองคนขับรถไปตามถนนคอนกรีตสู่อ่าวต่างๆทางด้านทิศตะวันออกของเกาะเต่าโดย เริ่มตั้งแต่ อ่าวลึก อ่าวโตนด อ่าวหินวง จนไปสิ้นสุดที่อ่างม่วง


ซึ่ง อ่าวแต่ละอ่าวจะมีความสวยงามตามธรรมชาติแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่อ่าวทุก อ่าวมีความเหมือนกันหมดก็คือความใสของน้ำทะเลใสจนสามารถแลเห็นตัวปลาว่ายวน เวียนไปมาได้อย่างชัดเจนสาเหตุเพราะเกาะเต่านั้นอยู่ห่างจากฝั่งระยะทาง ประมาณ 80 กม.มลสภาวะจากฝั่งจึงเดินทางมาไม่ถึงประกอบกับบริเวณโดยรอบเกาะเต่าไม่มี ป่าชายเลนจึงทำให้น้ำทะเลไม่ขุ่น อ่าวต่างๆทางทิศตะวันออกของเกาะเต่าจะมีลักษณะเป็นหาดหินมากกว่าหาดทรายไม่ เหมือนกับบริเวณทางทิศตะวันตกของเกาะเต่าที่เรียกกันว่าหน้าเกาะจะมีหาดทราย มากกว่าหาดหินโดยเฉพาะหาดทรายรีที่มีความยาวหาดหลายร้อยเมตรตลอดจนบ้านพัก และรีสอร์ทสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมายนักท่องเที่ยวก็เลยนิยมที่จะพัก ผ่อนหย่อนใจกันบริเวณด้านหน้าของเกาะมากกว่า ส่วนด้านหลังทางทิศตะวันออกของตัวเกาะจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบ ความสงบเงียบบรรยากาศเป็นส่วนตัวเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจนอนอาบแดดฟังเสียง คลื่นกันเต็มชายหาดไปหมด ซึ่งแต่ละอ่าวก็มีบ้านพักรีสอร์ทหลายระดับหลายราคาตั้งแต่ราคาคืนละไม่กี่ ร้อยบาทจนถึงหลายพันบาทต่อคืนเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทุกอ่าวชอบใจ บรรยากาศแบบไหนก็เลือกพักกันเองตามใจชอบทุกๆรีสอร์ทมีบริการรถรับส่งจากท่า เรือเกาะเต่าถึงรีสอร์ท เราสองคนขับรถตะเวนเที่ยวทุกอ่าวจนได้เวลาแดดร่มลมตกขับรถไปนั่งชมพระ อาทิตย์ตกที่บริเวณหาดทรายรีกันดีกว่าพร้อมกับร่วมงานวัน”เปิดโลกทะเลเกาะ เต่า”ในยามค่ำคืนด้วย บริเวณหาดทรายรีในยามแดดร่มลมตกกำลังคับคั่งไปด้วยบรรดานักท่องเที่ยวชาว ต่างชาติที่กำลังเดินเล่นและนั่งพักผ่อนหย่อนใจบริเวณชายหาดเพื่อรอชมพระ อาทิตย์ตก


ดวง อาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าเรือหาปลากำลังกลับเข้าสู่ฝั่ง แสงไฟสปอรต์ไลท์จากเรือไดหมึกถูกเปิดขึ้นส่องแสงระยิบระยับไปทั่วน่านน้ำ เมื่อยามดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ได้เวลาอาหารค่ำแล้วเราสองคนเดินเท้าไปหาอาหารค่ำรับประทานกันที่บริเวณท่า เรือเกาะเต่าที่อยู่ห่างจากหาดทรายรีไม่กี่ร้อยเมตรแสงไฟบริเวณท่าเรือเกาะ เต่าอยู่ติดกับหาดแม่หาดถูกเปิดให้ความสว่างไสวไปทั่วทั้งท่าเรือ

บริเวณ ท่าเรือเกาะเต่ามีร้านอาหารให้เลือกมากมายหลากหลายชนิดตั้งแต่ข้าวราดแกง พิซซ่า ข้าวเหนียวไก่ย่างส้มตำยันหมูกระทะมีหมด เรียกว่ามาเที่ยวเกาะเต่าแล้วไม่ต้องกลัวอดถ้ามีสตังค์ในกระเป๋าส่วนเรื่อง ของราคาก็แพงกว่าร้านอาหารบนฝั่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง เราสองคนจัดการกับอาหารค่ำจนอิ่มหนำสำราญ


จาก นั้นจึงเดินเท้าเข้าไปภายในงาน”เปิดโลกทะเลเกาะเต่า”ภายในงานกำลังคับคั่ง ไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บรรยากาศภายในงานคล้ายกับงานวัดตามต่างจังหวัดแต่บนเกาะเต่าเป็นงานวัดแบบ ฝรั่งเพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนแลเห็นฝรั่งหัวดำหัวแดงหัวทองอุ้มลูกจูงหลาน เดินเที่ยวภายในงานกันเต็มไปหมด


ส่วน บนเวทีก็มีการแสดงศิลปะร่ายรำแบบไทยๆ จากนั้นก็เป็นการประกวดนางงามขวัญใจเกาะเต่าซึ่งนางงามส่วนใหญ่จะเป็นนัก ท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่าพักอยู่ตามรีสอร์ท ต่างๆบนเกาะเต่าเจ้าของรีสอร์ทเห็นว่าหุ่นดีมีแววเข้าประกวดได้จากนั้นจึง จับฝรั่งมาแต่งชุดไทยจัดแจงแต่งหน้าทาปากเขียนคิ้วส่งเข้าประกวดนางงามขวัญ ใจเกาะเต่าในนามรีสอร์ท ของตน


ฝรั่ง บางคนแก่บ้างสาวบ้างอายุมากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไปตามแต่ละรีสอร์ทจะคัด เลือกส่งเข้าประกวด ส่วนเรื่องของรางวัลก็มีเงินเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยแล้วยังมีบัตรกำนัลเป็น รีสอร์ทที่พักห้าดาวบนเกาะเต่าฟรีอีกด้วยเรียกว่าใครได้ตำแหน่งนางงามเกาะ เต่าก็ได้พักฟรีเที่ยวฟรีไป


ส่วน บรรยากาศภายในงานก็สร้างความครึกครื้นแป็นกันเองได้พอสมควร เราสองคนเดินเที่ยวชมบรรยากาศภายในงานจนสมควรแก่เวลาจนขาแข้งเริ่มล้า จากนั้นจึงเดินทางกลับเกาะเต่ารีสอร์ทที่อ่าวโฉลกบ้านเก่าเพื่อพักผ่อน


แต่ ก่อนที่จะเข้านอนเราสองคนลองเดินมาเที่ยวชมบรรยากาศแสงสียามราตรีภายในเกาะ เต่ารีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ริมหาดอ่าวโฉลกบ้านเก่าที่มีทั้งร้านอาหารและบาร์เหล้า ซึ่งกำลังคับคั่งไปด้วยลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเรา สองคนนั่งดื่มเบียร์กันคนละแก้วพอหลับสบายจากนั้นจึงเดินทางกลับเข้าห้องพัก พักผ่อนเอาแรงไว้เดินทางต่อสู่เกาะพะงันในวันรุ่งขึ้น
วันที่สี่ของการเดินทาง


เช้า อันสดใส ภายในเกาะเต่ารีสอร์ท อ่าวโฉลกบ้านเก่าเราสองคนนั่งรับประทานอาหารเช้าภายในห้องอาหารของเกาะเต่า รีสอร์ทพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ของอ่าวโฉลกบ้านเก่าในวันที่ฟ้าสวยแดดใส


ปราศจาก คลื่นลมในทะเลพร้อมกับได้มีโอกาสนั่ง คุยกับผู้จัดการของเกาะเต่ารีสอร์ทซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมิตรสหายร่วม ผจญภัยด้วยกันมาบนเกาะเต่าในสมัยที่เกาะเต่ายังไม่มีชื่อเสียงโด่งดังเช่น ทุกวันนี้พร้อมกับ เล่าถึงเรื่องราวของเกาะเต่ารีสอร์ทให้เราสองคนฟังว่าเกาะเต่ารีสอร์ทเดิม ใช้ชื่อว่าเกาะเต่าคอทเทจเป็นรีสอร์ทยุคแรกๆของเกาะเต่าโดยมีบ้านพักเปิดให้ บริการแก่นักท่องเที่ยวอยู่เพียงไม่กี่หลังในราคาหลังละไม่กี่ร้อยบาทซึ่งมี ทั้งบ้านพักบนเนินเขาและริมชายหาดต่อมาได้เริ่มพัฒนาปรับปรุงยกระดับขยาย จำนวนห้องพักให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ว่างบนภูเขาซึ่งเดิมทีใช้เป็น ลานจอดเฮลิคอปเตอร์และบาร์เหล้า ต่อมาปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงให้เป็นบ้านพักระดับห้าดาวในรูป แบบMouantainviewบนภูเขา


ห้อง พักขนาดใหญ่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายพร้อมสระว่ายน้ำขนาด ใหญ่เบื้องหน้าเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์อ่าวโฉลกบ้านเก่าและจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยงามแห่งหนึ่งบนเกาะเต่าบรรยากาศเป็นส่วนตัวเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบความเงียบสงบ ส่วนด้านล่างเป็นบ้านพักระดับSeaviewใกล้ชิดติดกับชายหาดโฉลกบ้านเก่าลงเล่น น้ำและทำกิจกรรมบริเวณชายหาดได้อย่างสบาย สำหรับบ้านพักในบรรยากาศแบบ Seaviewและบ้านพักบรรยากาศบนภูเขาในแบบ Mouantainviewมีให้นักท่องเที่ยวได้เลือกหลายระดับและหลายราคา


ตั้งแต่ ราคาคืนละไม่กี่พันบาทจนถึงราคาเป็นหมื่นๆบาทต่อคืนสนใจติดต่อสอบถามราย ละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 077 456 133หรือคลิ๊กเข้าไปที่เว็บไซด์www.kotaoresort.com หรือที่ info@kotaoresort.com หลังจากนั่งคุยกันจนสมควรแก่เวลาจากนั้นเราสองคนจึงขออนุญาตเดินทางขึ้นไป เที่ยวชมจุดชมวิวบนภูเขาของเกาะเต่ารีสอร์ท เราสองคนใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ขึ้นมายืนบนจุดชมวิวบริเวณระเบียงห้อง อาหารบนภูเขาของเกาะเต่ารีสอร์ทเบื้องหน้ามองเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่าวโฉลก บ้านเก่าได้อย่างสุดสายตาพานอราม่า ส่วนซ้ายมือคือจุดชมวิวจอห์นสุวรรณ อ่าวเทียนออกและเกาะฉลามตามลำดับ ส่วนด้านหลังก็คือห้องอาหารและบ้านพักของเกาะเต่ารีสอร์ทที่ถูกตกแต่งไว้ อย่างสวยงามอลังกางานสร้างจนคิดว่าน่าจะหาเวลามานอนพักชมเดือนชมดาวสักคืน สองคืนบนบ้านพักในแบบMouantainviewของเกาะเต่ารีสอร์ทแห่งนี้
เราสองคน รับประทานอาหารกลางวันกันก่อนที่จะเดินทางไปยังเกาะพะงันที่ห้องอาหารบ้าน เก่าภายในเกาะเต่ารีสอร์ทเมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยและเมนูเด็ดที่จะ พลาดไม่ได้ก็คือแกงส้มหัวปลาหมอทะเลแกล้มด้วยปลาเค็มที่ทำมาจากปลาสีเสียด รสชาติอาหารเข้มข้นจัดจ้านตามสไตล์ของอาหารใต้ถ้าท่านผู้อ่านเดินทางมาพัก ที่เกาะเต่ารีสอร์ทก็ลองสั่งมารับประทานดูว่าจะอร่อยสมกับคำร่ำลือหรือไม่ เจ้าของเกาะเต่ารีสอร์ทขอการันตีในเรื่องรสชาติของอาหารโดยเฉพาะอาหารไทย รับรองในเรื่องรสชาติแล้วไม่อายใครบนเกาะเต่าถ้าไม่อร่อยสมกับที่โม้ไว้ ยินดีให้ต่อว่าแต่ไม่ยินดีคืนตังค์ให้


หลัง จากอาหารกลางวันเราสองคนเก็บสัมภาระออกเดินทางไปยังบริษัทเรือเร็วลมพระยา ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือเกาะเต่ากำลังคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวที่กำลัง เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯหรือเดินทางไปท่องเที่ยวต่อยังเกาะพะงันและ เกาะสมุย


เรา สองคนนั่งรอเวลาไม่นานนักจากนั้นเรือเร็วลมพระยาก็ออกเดินทางพาเราทั้งสองคน เดินทางต่อไปยังเกาะพะงันตั้งอยู่ห่างจากเกาะเต่าระยะทาง ประมาณ 45 กม.


สุดท้ายนี้ขอนอนหลับพักผ่อนเอาแรงบนเรือเร็วลมพระยาก่อนพบกันใหม่ที่เกาะพะงันในฉบับหน้าน่ะครับ สวัสดีครับ.........

เกาะเต่า เกาะสวรรค์ กลางทะเล อ่าวไทย


เกาะ เต่า สถานที่ท่องเที่ยว และ แหล่งดำน้ำชมความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเล ที่ สวยงาม แห่งหนึ่งใน ท้องทะเล อ่าวไทย ที่พึ่งจะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ แล้ว ชื่อเสียงของ เกาะเต่า กล่าวได้ว่าเป็นสวรรค์ของการดำน้ำ ที่นักดำน้ำทั่วโลกรู้จักดีในเรื่องของความงดงาม และความมีสีสันของโลกใต้ทะเลที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่แห่งใดในโลก เกาะเต่าประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะ คือ เกาะเต่า และ เกาะนางยวน


พื้นที่ เกือบทั้งหมดเป็น ภูเขา มีพื้นที่ราบอยู่เพียง 30%ของตัวเกาะ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 17.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 12,225 ไร่ กว้าง 3.4 กิโลเมตร ยาว 7.6 กิโลเมตร มีด้วยกัน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านหาดทรายรี บ้านแม่หาด และ บ้านโฉลกบ้านเก่า และด้วยระยะห่างจาก ปากน้ำชุมพร 85 กิโลเมตร ห่างจาก อ่าวบ้านดอน สุราษฎร์ธานี 120 กิโลเมตร และห่างจากเกาะพะงัน ซึ่งถือเป็นเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด 45 กิโลเมตร นั่นก็ทำให้เกาะเต่ากลายเป็นเกาะกลางทะเลอ่าวไทยที่ค่อนข้างจะอยู่อย่างโดด เดี่ยว


ส่วน รูปลักษณะของเกาะเต่า นั้นหลายท่านมองว่าตัวเกาะมีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว แต่บางคนก็ว่ามีลักษณะคล้ายตัวเต่าโดยมีเกาะนางยวนเป็นหาง จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะเต่า ลักษณะของเกาะเต่าจะมีความเว้าแหว่งของอ่าวต่างๆอยู่อย่างมากมาย และมีความงดงามตามธรรมชาติ ด้วยอ่าวที่มีถึง 11 อ่าว และ แหลม ที่มีถึง10 แหลม ตลอดแนวชายฝั่งของเกาะ ซึ่งมีความยาว 28.6 กิโลเมตร รวมทั้งเป็นเกาะที่มีแนวปะการัง ยาวถึง 8 กิโลเมตรอยู่โดยรอบเกาะเต่าแม้จะอยู่ในทะเลด้านที่รับลมมรสุมตะวันออกเฉียง เหนือ ซึ่งพัดผ่านมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมีนาคม แต่ก็มีเกาะน้อยใหญ่ช่วยกำบังคลื่นลมให้อยู่บ้าง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางไปเกาะเต่าได้ตลอดทั้งปี บนเกาะเต่ามีรีสอร์ท บ้านพักหลายระดับหลายราคากระจายอยู่ตามชายหาด ต่างๆ


ทัวร์เกาะมีบริการ รถATV รถมอเตอร์ไซต์ และ จักรยานเสือภูเขาให้เช่า รวมทั้งบริการเรือหางยาวให้เช่าตกปลา เที่ยวรอบเกาะ

อุปกรณ์ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกตลอดจนโรงเรืยนสอนดำน้ำที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากPADI


ใน ตอนกลางวันจะไม่ค่อยพบเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะส่วนใหญ่จะนั่งเรือออกไปดำน้ำชมปะการังกันตั้งแต่เช้ายันเย็นซึ่ง กว่าจะเดินทางกลับสู่เกาะเต่าก็จวนเจียนเวลาที่ดวงอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้า ลงไปแล้วซึ่งเป็นเช่นนี้เกือบทุกวันที่ท้องทะเลรอบเกาะเต่าปราศจากลมมรสุม


สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยว และจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะเต่าจะเป็นจุดดำน้ำชมปะการังเสียเป็นส่วน ใหญ่ ซึ่งจะมีทั้งจุดดำน้ำตื้นและจุดดำน้ำลึก ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวต้องการนั่งเรือชื่นชมธรรมชาติรอบเกาะเต่าและแวะลง ดำน้ำ ชมปะการังน้ำตื้น นักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกโปรแกรมนั่งเรือท่องเที่ยวรอบเกาะได้ภายในหนึ่ง วัน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือหางยาวให้เช่า หรือ เรือแท็กซี่ ซึ่งมีอยู่มากมายบริเวณหาดแม่หาดอยู่ใกล้กับท่าเรือเกาะเต่า


แต่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำลึก(SCUBA)แล้ว ระยะเวลาเพียง 1-2 วัน คงไม่พอที่จะให้นักท่องเที่ยวได้ดำน้ำค้นหาความงามของโลกใต้ทะเลรอบเกาะเต่า ได้ เพราะโดยรอบ เกาะเต่า จะมีจุด ดำน้ำลึก (SCUBA) ให้นักท่องเที่ยวได้ดำน้ำชมความแตกต่างของโลกใต้ทะเลรอบเกาะเต่าซึ่งนักท่อง เที่ยวจะได้พบกับความแตกต่างของโลกใต้ทะเลรอบเกาะเต่าที่มีอยู่อย่างมากมาย


สำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศความสวยงามของหาดทรายและทะเลโดยรอบเกาะเต่าระยะเวลา 3-4 วัน คงจะทำให้ท่านได้ชื่นชมความสวยงามได้อย่างเต็มอิ่ม ส่วนเรื่องของ การเรียนดำน้ำลึก(SCUBA) สำหรับผู้ที่ไม่เคยเรียนดำน้ำจากที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต สำหรับที่เกาะเต่าแล้วอุปสรรคเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะบนเกาะเต่าจะมีโรงเรียนสอนดำน้ำและร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ อยู่มากมายให้คุณได้เลือกเรียนหลากหลายหลักสูตรจนจบโดยได้ใบรับรองจาก PADI ซึ่งเป็นสถาบันสอนดำน้ำเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เมื่อคุณเรียนจบหลักสูตรดำน้ำเบื้องต้นจากที่นี่แล้วคุณก็สามารถจะไป ดำน้ำในทะเลแห่งใดก็ได้ทั่วโลกใบนี้


นัก ท่องเที่ยชาวต่างชาติ ที่นิยมเดินทางมาเกาะเต่านั้นบางคนตั้งใจที่จะมาเรียนดำน้ำกันโดยตรงเลยที เดียว เนื่องจากใช้ค่าใช้จ่ายในการเรียนดำน้ำที่เกาะเต่านั้นถูกกว่าประเทศอื่นมาก อีกทั้งยังได้เดินทางท่องเที่ยวไปในตัวอีกด้วย สำหรับจุดดำน้ำชมปะการังสีสันของโลกใต้ทะเลรอบเกาะเต่า มีอยู่หลายจุดด้วยกัน ซึ่งแต่ละจุดก็มีโลกใต้ทะเล ที่มีความงดงาม แตกต่างกันออกไปไม่ว่าเป็นที่อ่าวลึก แหลมเทียน อ่าวม่วง กงทรายแดง หรือ เกาะฉลาม ซึ่งถ้าวันใดโชคดีนักดำน้ำก็สามารถได้พบกับฉลามวาฬ ขนาด 4-5 เมตร เป็นฝูงๆละประมาณ 7-8 ตัว ว่ายวนเวียนหาอาหารอยู่รอบเกาะเต่าและบริเวณกองหินชุมพร


ส่วน แหล่งท่องเที่ยวทางบก นอกจากหาดทรายมากมายที่มีอยู่รอบเกาะเต่าแล้ว ก็ยังมีจุดท่องเทียวที่น่าสนใจและถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุด แห่งหนึ่งของเกาะเต่า นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปสักการะบูชาก็คือ สวนหิน จปร. บนหาดทรายรีทางด้านตะวันตกของ เกาะเต่า


มี สวนหินมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และรอยจารึกทางประวัติศาสตร์แสดงให้ทราบถึงการเสด็จประพาสเกาะเต่า ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ด้วยการจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้บนแท่งหินขนาดใหญ่


ให้ เป็นที่ปรากฏอยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้ และรวมถึง จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ ที่โฉลกบ้านเก่าด้านทิศใต้ จะเห็นอ่าวโฉลกบ้านเก่า และ อ่าวเทียนออก ซึ่งมีลักษณะโค้งเว้าจนแทบจะติดกันแต่ถูกกั้นด้วยจุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ ลักษณะคล้ายกับจุดชมวิว ที่เกาะพีพีดอนจังหวัดกระบี่ นักท่องเที่ยวหากมีโอกาสเดินทางมาเกาะเต่าแล้วควรหาโอกาสเดินเท้าขึ้นไป เที่ยวชมบนจุดชมวิวแห่งนี้ และเกาะที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงนั่นคือเกาะนางยวนเกาะ เล็กๆ เกาะหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ด้วยธรรมชาติความสวยงามติดอันดับ1ใน10 ของโลกเกาะนางยวนตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะเต่า


เกาะ นางยวน ประกอบด้วย เกาะเล็กๆ 3 เกาะ ที่เชื่อมต่อกันด้วยสันทรายสีขาวจนบางครั้งยามน้ำทะเลลดลงมากสามารถเดินเท้า เชื่อมถึงกันได้ จนกลายเป็นเกาะเดียวกัน สำหรับสภาพธรรมชาติโดยรอบของเกาะนางยวน ประกอบด้วยปะการังอันอุดมสมบูรณ์อยู่ใต้ท้องทะเลสีเขียวมรกต เหมาะกับการเล่นน้ำ และดำน้ำดูปะการังเป็นยิ่งนัก นอกจากนี้บนเกาะนางยวนยังมีจุดชมวิว ที่สวยงามและคุ้มค่าเหนื่อยกับการเดินเท้าระยะทางประมาณ 120 เมตร ขึ้นไปชมอีกด้วยโดยจุดชมวิวนี้อยู่บนยอดเขาบนเกาะทางด้านซ้ายมือเมื่อมองมา จากบริเวณท่าเรือขึ้นเกาะนางยวน ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นลำดับสองในจำนวน สามเกาะของเกาะนางยวน โดยใช้เวลาในการเดินขึ้นไปราว 20 นาที ซึ่งเมื่อเดีนเท้าขึ้นไปถึงบนจุดชมวิวแล้วจะมี ลานหินไม่กว้างมากนัก สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักเหนื่อยชมวิวทิวทัศน์สุดสายตาพานอราม่าได้ เป็นอย่างดี จุดชมวิวแห่งนี้นับได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สวยที่สุดของเกาะนางยวน และเมื่อมองจากจุดชมวิวลงมาก็จะเห็นสันทรายสีขาวที่ทอดตัวยาว เชื่อมเกาะสามเกาะนี้ เข้าไว้ด้วยกันท่ามกลางน้ำทะเลใสราวแผ่นกระจก


ด้วย ความงดงามของธรรมชาติหาดทรายบนเกาะเต่า และโลกใต้ทะเลของเกาะเต่าแล้ว อีกทั้งระยะทางที่ห่างจากฝั่งมากพอสมควร จึงเปรียบเสมือนกำแพงแห่งธรรมชาติช่วยรักษาความเป็นธรรมชาติให้กับเกาะนาง ยวนตราบเท่านาน ความห่างไกลจากฝั่งนี้เองจึงที่เป็นมนต์เสน่ห์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวผู้ รักธรรมชาติและความสงบเงียบต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือนเกาะแห่งนี้สักครั้งหนึ่ง ในชีวิตให้จงได้


ข้อมูลทั่วไปของเกาะเต่าเกาะ เต่า เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่ในอ่าวไทยห่างจากอำเภอเกาะพะงัน ระยะทาง45 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในอดีตเมื่อประมาณ 50 กว่าปีท่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์บน เกาะเต่ามีชาวบ้านอาศัยอยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 เป็นเกาะที่มีธรรมชาติและความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล สวยงามมากด้วยแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ปลาทะเลสีสันสวยงามมากมายหลากหลายชนิดที่นักดำน้ำต้องการจะพบมากที่สุดก็คือ ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งเกาะเต่านั้นคือฉลามวาฬ และชายหาดที่มีหาดทรายขาวสวยสงบเงียบน่าพักผ่อนหย่อนใจอยู่หลายหาด มีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายโรงเรียนที่มักจะมีนักดำน้ำหน้าใหม่แวะเวียนมาเรียน ดำน้ำกันอยู่เสมอตลอดทั้งปีเกาะเต่าและเกะนางยวนสามารถเดินทางมท่องเที่ยว ได้เกือบตลอดทั้งปีแต่ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะมาท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน บนเกาะเต่ามีรีสอร์ทบังกะโลหลายระดับหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพัก สำหรับการเดินทางบนเกาะเต่าสามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีบริการ 2 เส้นทาง คือ จากท่าเทียบเรือไปทางทิศเหนือถึงหาดทรายรี และไปทางทิศใต้ถึงอ่าวลึกสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเต่าและใกล้ ๆ เกาะเต่า ซึ่งมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจดังนี้


อ่าวม่วง
เป็น หาดที่มีน้ำทะเลสวยและใสมากระดับความลึกไม่มาก หาดทรายขาวสะอาดอ่าวม่วงเป็นอ่าวที่สอนการดำน้ำลึกจะสังเกตได้ว่ามีนักเรียน ดำน้ำล้อมวงอยู่กลางน้ำหลายวงโดยมีครูที่สอนส่วนใหญ่ป็นฝรั่ง สำหรับใครที่ไม่ได้เรียนดำน้ำสามารถดำน้ำเล่นแบบผิวน้ำก็ได้ ลองสังเกตดูที่ชายหาดจะเห็นซากปะการังตลอดแนวหาด

อ่าวหินวง อ่าว นี้มีหาดทรายเล็กๆ ลักษณะอ่าวโค้งไม่มากแต่กว้าง เป็นหาดหินก้อนใหญ่เป็นอ่าวที่มีน้ำทะเลใสมาก ขนาดยืนไกลจากข้างบนอ่าวยังเห็นความใสของน้ำที่สำคัญบริเวณนี้เป็นจุดดำน้ำ ชมปะการังที่ดีที่สุดของเกาะเต่า ลักษณะอ่าวที่แหว่งเว้าเข้ามาเหมือนปิดตัว จึงน่าจะเป็นเหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้ช่วยรักษาปะการังที่นี่เอาไว้จาก คลื่นลมและสิ่งรบกวนทั้งหลาย จุดเด่นของอ่าวนี้คือเป็นอ่าวที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกและเป็นจุดที่ชม อาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของเกาะเต่าก็ว่าได้


อ่าวเทียนออก
อ่าว นี้อยู่ถัดจากอ่าวโฉลกบ้านเก่ามาเล็กน้อยเท่านั้นทางลงอ่าวในปัจจุบันนี้ถูก ปิดตายต้องข้ามเขาไปเข้าอีกฟากหนึ่งของชายหาดโดยมีหาดทรายแดงอยู่ทางปลาย แหลม ถ้าอยากเห็นอ่าวเทียนออกแบบเต็มๆ ตาต้องขึ้นไปดูที่ร้านอาหาร NEW HEAVEN มีถนนคอนกรีต ตรงไปแยกขวามือไปศาลเจ้าพ่อตาโต๊ะเมื่อเดินลงมาที่ระเบียงของร้านอาหาร NEWHEAVEN จากนั้นให้มองลงมาจะเห็นอ่าวโค้งเป็นรูปครึ่งวงกลมสวยงามมากรวมทั้งเกาะฉลาม ด้วย


อ่าว เทียนออกเป็นอ่าวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูฉลามหูดำกันเป็นประจำฉลามหู ดำยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งอ่าวเทียนออกคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับนักท่องเที่ยวและไม่ เคยมีข่าวว่าทำร้ายหรือกัดนักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำดูพวกมัน ริมหาดเทียนออกมีร้านให้เช่าหน้ากากดำน้ำ ชูชีพราคาชิ้นละ 50 บาท ชายหาดที่อ่าวเทียนออกมีความลาดเอียงต่ำหากว่ายน้ำออกไปสัก 20 เมตรก็จะได้เห็นฉลามหูดำว่ายวนเวียนคอยทักทายหยอกล้อกับนักท่องเที่ยวให้ ตื่นเต้นเร้าใจเมื่อได้พบกับพวกมัน สำหรับเรือทัวร์โดยสารดำน้ำรอบเกาะก็จะมาแวะลอยเรือที่อ่าวเทียนออกนี้เพื่อ ให้นักท่องเที่ยวได้ว่ายน้ำดำดูฉลามหูดำ

หาดทรายแดงเป็น หาดที่มีจุดเด่นที่สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของหาดนี้ก็คือหาดทรายนี้มีทรายสี แดง น้ำไม่ลึกมากนักบริเวณ หัวหาดมีกองหินขนาดใหญ่ เป็นหาดที่มีเศษซากปะการังพัดขึ้นมากองบนหาดทรายจำนวนมากหาดทรายแดงนี้ตั้ง อยู่ใกล้กับเกาะกงทรายแดงหรือบางคนเรียกว่าเกาะฉลามเป็นเกาะเล็กๆ อุดมเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาปลาฉลามหูดำ และจากหาดทรายแดงมองออกไปในทะเลระหว่างเกาะเต่ากับเกาะกงทรายแดงหรือเกาะ ฉลามจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า


อ่าวลึก
อ่าว ลึกนั้นลึกสมชื่อ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเต่าชาวบ้านเรียกว่าหลังเกาะสำหรับอ่าวลึก เป็นอ่าวที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดบนหาดทรายของอ่าวลึกเรียงรายไปด้วยต้น มะพร้าวไม่หนาแน่นมากนัก หาดทรายขาวสะอาดโดยเฉพาะบริเวณหัวหาดเป็นหาดหินล้วนๆ อ่าวลึกเอ่าวที่มีหินสวย ทรายงาม น้ำใส อุดมไปด้วยฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามจำนวนมากสมบูรณ์ไปด้วยเหล่าปะการังมากมาย หลากหลายชนิด และเป็นอ่าวที่ครูสอนดำน้ำจะพานักเรียนมาฝึกดำน้ำกันที่บริเวณนี้ก่อนที่จะ ออกสู่ทะเลลึกต่อไป
อ่าวโตนด
ตั้ง อยู่ทางทิศตะวันออกชองเกาะเต่าใกล้กับอ่าวลึกอ่าวโตนดมีหาดทรายขาว หากเดินขึ้นไปบนเนินเขาหลังชายหาดมองลงมา จะเห็นโค้งอ่าวสวยงามมากและสิ่งที่แปลกที่สุดของอ่าวนี้คือเป็นอ่าวเดียวบน เกาะเต่าที่มีต้นโตนดขึ้นอยู่จึงเป็นที่มาของชื่อว่าอ่าวโตนด


บริเวณ อ่าวโตนดมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำหลายอย่าง มีปะการังที่สมบูรณ์ในระดับน้ำตื้น ฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามว่ายวนเวียนอยู่ริมชายหาดมากมาย นักท่องเที่ยวนิยมมาให้อาหารปลากันเป็นประจำฝูงปลาทะเลที่นี่ชาวบ้านและเจ้า ของรีสอร์ทช่วยกันอนุรักษ์เอา ไว้

แหลมหิน จปร.
อยู่ บริเวณหาดทรายรีมีลักษณะเป็นสวนหินธรรมชาติขนาดใหญ่จำหลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร.ของล้นเกล้ารัชกาลที่๕บนแท่งหินพร้อมรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงยืนหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์การเสด็จประพาสทางทะเลของพระองค์และเสด็จประพาส เกาะเต่าเมื่อปีพ.ศ.2442 สวนหินจปร.แห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านบนเกาะเต่าและประชาชนทั่วไปใน ทุกๆ วันจะแลเห็นชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะบูชาพระบรมรูปของล้นเกล้า รัชกาลที่๕ไม่ขาดสายในแต่ละวันตั้งแต่เช้ายันค่ำนอกจากนั้นบริเวณโดยรอบของ สวนหินจปร.ยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆเช่น วันที่ 5 ธันวาคมวันพ่อแห่งชาติเป็นต้น

หาดแหลมเทียน
หาด แหลมเทียนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเต่ามีลักษณะเป็นแหลมหินยื่นออกมาใน ทะเลบนแหลมหินมีต้นเทียนทะเลขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากจึงเป็นที่มาของชื่อว่า แหลมเทียนมีหาดทรายขาวต่อจากแหลมเทียนไปทางเหนือจดกับหาดฝั่งแดงที่มีหน้าผา สูงชันเป็นดินแดงบริเวณช่องกลางของหาดแหลมเทียนมีทรายสีชมพูเม็ดละเอียด ชายหาดมีบรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัวมาก น้ำทะเลไม่ลึกมากนัก เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย


อ่าวโฉลกบ้านเก่าตั้ง อยู่ทางทิศใต้ของเกาะเต่าห่างจากท่าเรือเกาะเต่าระยะทางประมาณ5กมอ่าวโฉลก บ้านเก่ามีลักษณะเป็นโค้งอ่าวเว้าเข้าไปในตัวเกาะมากกว่าอ่าวใดๆ บนเกาะเต่า ใช้เป็นที่หลบลมมรสุมของบรรดาชาวประมงบนเกาะเต่าที่มาหาปลากันในบริเวณนี้ ในช่วงฤดูมรสุม


ชาย หาดอ่าวโฉลกบ้านเก่ามีความยาว 300 เมตรในทุกๆวันจะแลเห็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจและลงเล่นน้ำ ทะเลกันบริเวณชายหาดกันเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากชายหาดมีความลาดเอียงต่ำจึงสามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ด้วยความ ปลอดภัย บริเวณด้านหน้าของอ่าวโฉลกบ้านเก่ามีแนวปะการังสีสันสวยงามตลอดแนว เหนือหาดทรายขึ้นมาเป็นที่ตั้งรีสอร์ทที่พักมากมายหลายสิบรีสอร์ทมีให้เลือก หลายระดับและหลายราคา เช่นเกาะเต่ารีสอร์ทนอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านสอนดำน้ำและเคาเตอร์ทัวร์เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย


นอก จากนี้หากนั่งเรือออกมาจากอ่าวโฉลกบ้านเก่าเพียงแต่หนึ่งร้อยเมตร ท่านจะได้เห็นแหลมตาโต๊ะ ซึ่งมีแท่งหินรูปตาโต๊ะเด่นเป็นสง่า ซึ่งแหลมตาโต๊ะนี้ ด้านบนจะเป็นสถานที่ซึ่งเป็นจุดชมวิวชื่อดัง คือ จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ


จุดชมวิวจอห์น – สุวรรณ จุด ชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาบริเวณอ่าวโฉลกบ้านเก่า อยู่ทางตอนใต้ของเกาะเต่าสำหรับ ที่มาของชื่อจอห์น-สุวรรณเกิดขึ้นจากคนไทยชื่อว่าสุวรรณและฝรั่งชาวอังกฤษ ชื่อว่าจอห์นอาศัยอยู่บนเกาะเต่าว่างงานไม่มีอะไรจะทำวันๆหนึ่งได้แต่ตะลอนๆ หาเรื่องเที่ยวกันไปบนเกาะเต่าตามประสาคนไม่มีอะไรจะทำวันหนึ่งให้บังเอิญ เดินลัดเลาะซอกแซกขึ้นเขาไปพบกับจุดชมวิวแห่งนี้เข้าก็เลยตั้งชื่อจุดชมวิว แห่งนี้ว่า จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ ตามชื่อของผู้ค้นพบ ปัจจุบันคุณสุวรรณได้ลาอีตาจอห์นกลับบ้านเก่าไปแล้วยังคงเหลือแต่อีตาจอห์น คนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ยอมกลับบ้านเก่าไปเจอกับ คุณสุวรรณ เพื่อนรักสักที สำหรับจุดเด่นของจุดชมวิวแห่งนี้ก็คือสามารถมองเห็นอ่าวโฉลกบ้านเก่าและอ่าว เทียนออกได้ในจุดเดียวกันเหมือนกับจุดชมวิวที่พีพีดอนในทะเลกระบี่อย่างไง อย่างงั้นแต่เส้นทางเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวแห่งนี้ค่อนข้างจะลำบากหน่อย น่ะเพราะทางรกเหลือเกิน


อ่าวแม่หาด และหาดทรายรี เกาะเต่า ศูนย์กลางของเกาะ และหาดยอดนิยม


ชาว เกาะเต่าแนะนำว่าหาดด้านนี้เหมาะจะเล่นน้ำในช่วงเดือน พ.ค.-ต.ค. เนื่องจากมีระดับน้ำกำลังเหมาะสม ส่วนช่วงเดือนที่เหลือน้ำจะแห้ง มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับข้างขึ้นข้างแรม ศูนย์กลางของความเจริญของ เกาะด้านนี้คือ อ่าวแม่หาด ซึ่งเป็นท่าเรือและที่ตั้งของศูนย์ราชการ มีคิวรถสองแถวและเรือหางยาวไปหาดต่าง ๆ


อ่าว นี้เป็นที่รวมของบริษัททัวร์ ร้านดำน้ำ ร้านให้เช่ารถ ร้านค้า และร้านขายอาหารตามสั่งที่ราคาถูกกว่าย่านอื่น ๆ ถนนทุกสายบนเกาะต่างมุ่งตรงสู่อ่าวแม่หาด ที่นี่จึงพลุกพล่านสักหน่อย ส่วนหาดทรายรีเป็นหาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีร้านดำน้ำ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอินเทอร์เน็ตมากมาย อ่าวแม่หาดและหาดทรายรีเป็นหาดทรายยาวต่อเนื่องกัน


จัด เป็นหาดที่ยาวและสวยที่สุดของเกาะเต่า สามารถเดินจากท่าเรือไปได้ โดยใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาที สำหรับหาดเล็ก ๆ ทางเหนือและใต้ของเกาะ ต้องนั่งรถหรือเหมาเรือไป อ่าวแม่หาด และหาดทรายรี มีที่พักให้เลือกหลายระดับราคา


ทั้ง บังกะโลหลังเล็ก ๆ หลักร้อยต้น ๆ จนถึงห้องพักปรับอากาศราคาหลักพัน ที่พักทุกแห่งมีร้านอาหารบริการหรือจะเดินไปกินที่ตลาดแม่หาดก็ได้ในราคา ย่อมเยา


ยาม เย็นเจ้าของ บังกะโลบางแห่งย่านหาดทรายรีและหาดแม่หาดยังจัดบุฟเฟต์ซีฟู้ด ย่างหอย ปู ปลาสด ๆ ให้ดินเนอร์กันริมหาดแบบได้บรรยากาศ คิดราคาหัวละ 150-200 บาท เป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือตอนโพล้เพล้ หากอากาศดีไร้เมฆหมอก จะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยงามมากหากพักที่แม่หาดจะสะดวกในการต่อรถสองแถวหรือ เหมาเรือ ไปดำน้ำ ตกปลา เที่ยวรอบเกาะเต่า หรือจะเลยไปถึงเกาะนางยวน ก็สามารถทำได้โดยสะดวก
หาดจันทร์สมและหาดทรายทอง
ตั้ง อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเต่าอยู่ห่างจากท่าเรือเกาะเต่าระยะทาง ประมาณ300เมตรเป็นหาดส่วนตัวเล็กๆตั้งอยู่ในจามจุรีวิลล่าแอนด์สปารีสอร์ท


รีสอร์ท ระดับหรูบนเกาะเต่าหาดจันทร์สมมีความยาวประมาณ 80เมตรบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่นด้วยต้นมะพร้าวที่ขึ้นเรียงรายอยู่เหนือ บริเวณชายหาดจากชายหาดจันทร์สมสามารถมองเห็นเกาะนางยวนที่ตั้งอยู่เบื้อง หน้าได้อย่างชัดเจนอ่าวจันทร์สมมีน้ำทะเลใสบรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวจึง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความเป็นส่วนตัวหรือเดินทางมาพักผ่อนเป็น ครอบครัว


น้ำ ทะเลบริเวณด้านหน้าชายหาดของอ่าวจันทร์สมเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาทะเล สีสันสวยงามนานาชนิดเช่นปลานกแก้ว ปลาลายเสือ เจ้าของรีสอร์ท อนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมให้อาหารและหยอกล้อกับฝูงปลาทะเลเป็นที่ สนุกสนาน


และ จากอ่าวจันทร์สมมีเส้นทางเดินเท้าลัดเลาะไปตามไหล่เขาระยะทางประมาณ800เมตร ไปยังหาดทรายนวลหาดทรายส่วนตัวของทรายทองรีสอร์ทๆที่มีอยู่แห่งเดียวบนหาด ทรายนวล


หาด ทรายนวลมีความโค้งเว้ายาวประมาณ200เมตรบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่นด้วยสวน มะพร้าวเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศความเป็นส่วนตัวเงียบสงบส่วน น้ำทะเลก็ใสสะอาดราวแผ่นกระจกบริเวณชายหาดเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามแห่ง หนึ่งบนเกาะเต่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสงบเงียบจึงไม่ควรพลาดเป็นอย่าง ยิ่ง


จุดชมวิว BANANAROCKตั้ง อยู่ใกล้หาดทรายนวล ทางทิศตะวันตกของเกาะเต่า ห่างจากท่าเรือของงเกาะเต่า 1.5 กม และห่างจากหาดจันทร์สม 800 เมตร มีเส้นทางเดินเท้าจากหาดแม่หาดผ่านอ่าวจันทร์สม ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ผ่านหาดทรายนวล ก็จะถึง BANANAROCK


หาด นี้นอกจากจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามแล้วยังมีบังกะโล ชื่อ SIAM COOKIE ซึ่งเป็นที่พักราคาไม่แพง ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่พักที่เป็นส่วนตัว อีกทั้งราคายังประหยัดกระเป๋าสตางค์อีกด้วย
หาดทรายรี
อยู่ห่างจาก ท่าเรือเกาะเต่าไปทางซ้ายมือระยะทางประมาณ 200 เมตรเป็นหาดที่มีลักษณะโค้งเว้าเป็นแนวยาวประมาณ 2 กม. เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดบนเกาะเต่า ตลอดแนวชายหาดคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ นอนอาบแดดโชว์เต้าเล่นกีฬาทางน้ำและลงเล่นน้ำทะเลกันตลอดวันไม่ว่าน้ำจะลง หรือขึ้น เหนือหาดทรายขึ้นมามีถนนเล็กๆเหมาะสำหรับขี่รถมอเตอร์ไซด์เลียบชายหาด


ตลอด แนวสองข้างถนนเต็มไปด้วยรีสอร์ทที่พักหลายระดับหลายราคา เป็นหาดที่มีที่พักให้เลือกมากที่สุดบนเกาะเต่านอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยร้าน สอนดำน้ำ ร้านอาหาร เอเย่นต์ทัวร์ บาร์เบียร์ ผับ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของที่ระลึกเรียงรายตลอดแนวจากหัวหาดสู่ท้ายหาดจะเห็นฝรั่งหัวดำ หัวแดง หัวทองเดินพลุกพล่านอยู่เต็มไปหมดบรรยากาศคล้ายกับถนนข้าวสารไม่มีผิดยิ่งตก ค่ำด้วยแล้วแสงสีจากร้านรวงต่างๆเปิดให้แสงสว่างกันเต็มไปหมด


เสียง เพลงจากศิลปินเร็กเก้ นามว่าบ๊อบเมอร์เร่ย์และเพลงแร็พเปิดให้กระหึ่มดังลั่นชายหาดเหมาะสำหรับนัก ท่องเที่ยววัยรุ่นที่ชอบแสงสีชีวิตยามราตรีไม่ควรพลาดเพราะหาดทรายรีไม่เคย หลับไหล


จุด เด่นที่สำคัญที่ สุดบนหาดทรายรีก็คือสวนหินธรรมชาติที่จำหลักคำว่า จปร.อยู่บนแท่งหินขนาดใหญ่บนชายหาดเมื่อคราวล้นเกล้ารัชกาลที่๕คราวเสด็จ ประพาสเกาะเต่าเมื่อปี พ.ศ. 2442 หรือเมื่อประมาณ 100 ปีที่ผ่านมาพร้อมรูปหล่อเท่าองค์จริงของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัวรัชกาลที่5 ถือได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะเต่านำดอกไม้ธูปเทียน เดินทางมาสักการะบูชาพระบรมรูปของพระองค์ท่านทุกวันไม่ขาดสายและชาวบ้านจะ คับคั่งเป็นพิเศษในวันสำคัญต่างๆเช่นวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวามหาราช เป็นต้น ชาวบ้านบางคนเรียกหาดแห่งนี้อีกชื่อหนึ่งว่า หาดจปร.เหนือชายหาดขึ้นมาเป็นศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเช่น หอยมือเสือและสัตว์น้ำอื่นๆอีกหลายชนิด


และจากหาดทรายรีสามารถมองเห็นเกาะนางยวนได้อย่างชัดเจนและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามแห่งหนึ่งบนเกาะเต่าอีกด้วย
จุดชมวิว SUNSET VIEW
 ตั้งอยู่ด้านหลังหาดทรายรีห่างจากท่าเรือเกาะเต่าระยะทางประมาณ500เมตร เยื้องกับสำนักสงฆ์เกาะเต่าให้สังเกตุทางด้านขวามือมีซอยทรายรี1ลักษณะเป็น ถนนคอนกรีตสูงชันต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง ความสูงประมาณ 200 เมตร เลยเสาส่งสัญญาณของGSMไปเล็กน้อยมีลานกว้างเป็นร้านอาหารมีชื่อว่า SUNSET VIEWให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาท่อง เที่ยวบนจุดชมวิวแห่งนี้


จาก จุดชมวิวแห่งนี้สามารถมองเห็นท่าเรือเกาะเต่าได้ในมุมสูงและวิวทิวทัศน์ทั้ง หมดของหาดทรายรีและเกาะนางยวนได้ในแบบสุดสายตาพานอราม่าอีกด้วยนอกจากนี้ แล้วจุดชมวิวแห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งที่พึ่งถูก ค้นพบขึ้นใหม่บนเกาะเต่าอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศความเงียบสงบเป็นส่วนตัวไม่ควรพลาดแวะเวียนมา เยี่ยมเยียนบนจุดชมวิวแห่งนี้ในยามพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าพร้อมดินเนอร์ รับรองว่าไม่ผิดด้วยประการทั้งปวงครับ
เกาะนางยวนเป็น เกาะหนึ่งในจำนวนร้อย เกาะของจังหวัดสุราษฏร์ธานี อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่าหตั้งอยู่ห่างจากเกาะเต่าในส่วนที่ แคบที่สุดระยะทางห่างกันประมาณ200เมตรเท่านั้นและตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือ เกาะเต่าระยะทางประมาณหนึ่งกิโลเมตรใช้เวลาเดินทางด้วยเรือยาวประมาณ 15 นาทีเท่านั้น


เกาะ นางยวนมีลักษณะเป็นเกาะเล็กๆ สามเกาะเชื่อมต่อกันด้วยสันทรายสีขาวเป็นแนวยาวเมื่อเวลาน้ำทะเลลดลงมากๆ หาดทรายที่ขาวสะอาดน้ำทะเลที่ใสราวกระจกจนสามารถมองเห็นตัวปลาที่ว่ายวน เวียนไปมาคือเสน่ห์ของเกาะนางยวนจนติดอันดับ1ใน10ของเกาะ ที่สวยที่สุดในโลก


เกาะ นางยวนเป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่ยังคงความสมบูรณ์และสวยงาม เป็นอย่างยิ่งและเป็นที่ซึ่งนักดำน้ำมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนรอบๆเกาะนาง ยวนอยู่เสมอ ๆนอกจากนี้บนเกาะนางยวนยังมีจุดชมวิวบนภูเขาที่มีความสูงไม่มากนักสามารถ มองเห็นหาดทรายสามหาดเชื่อมต่อกันด้วยสันทรายสีขาวได้อย่างสวยงามจนกล่าวขาน เลื่องลือกันไปทั่วโลกถึงความสวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติบนเกาะนาง ยวนแห่งนี้นักท่องเที่ยวเมี่อเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่าแล้วไม่ควรพลาด โอกาสเดินทางมาเยี่ยมเยียนเกาะนางยวนเป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวชาวไทยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะคนละ30บาทชาวต่างชาติคน ละ100บาทเป็นค่าเข้าชมเกาะและห้ามนำขวดน้ำพลาสติดขึ้นไปบนเกาะโดยเด็ดขาด
ประวัติ และเรื่องราวความเป็นมาของ เกาะเต่า
อดีตเกาะนรก ที่ไม่น่าจดจำ ปัจจุบันเป็นเกาะสวรรค์ที่น่าไปท่องเที่ยวเกาะ เต่า เป็นเกาะเล็กๆ อยู่โดดเดี่ยวกลางอ่าวไทย ห่างไกลจากผืนแผ่นดินใหญ่ โดยรอบเกาะเป็นหาดทรายที่ซึ่งเต่าตนุขึ้นไปวางไข่ และไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย ประวัติศาสตร์ของเกาะเต่าถูกบันทึกไว้ว่าเกาะเต่า คือ เกาะแห่งความโหดร้ายเพราะใช้เป็นที่คุมขังของนักโทษการเมือง ครั้งเมื่อเกิดสงครามแปซิฟิกขึ้น รัฐบาลเกรงว่าอังกฤษอาจจะมาช่วงชิงตัวนักโทษการเมืองหนีไปจากเกาะตะรุเตา ซึ่งอยู่ชายแดนฝั่งมหาสมุทรอินเดียได้ จึงได้ตั้งงบประมาณก้อนใหญ่สำหรับทำการหักร้างถางป่าโดยมีเป้าหมายที่จะ สร้าง เกาะเต่า ให้เป็นเป็นสถานกักกันนักโทษการเมืองโดยเฉพาะ นักโทษทุกคนจะถูกตีตรวน ส่งขึ้นโบกี้รถไฟจากสถานีรถไฟกันตังตอนเช้าไปถึงสถานีท่าข้ามจังหวัดสุรา ษฏร์ธานีในตอนเย็น และจากสถานีท่าข้ามก็ลงเรือไปยังบ้านดอน เพื่อพักแรมที่คุกสุราษฏร์ธานี พักผ่อนกันไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องนำตัวไปลงเรือเชวงศักดิ์สงครามผ่านเกาะสมุย เกาะพะงัน มุ่งต่อไปเกาะเต่า มีการสันนิษฐานกันว่า อันที่จริงแล้วโทษของนักโทษการเมืองนั้น ทางการตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่เมื่อได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษในวาระพิเศษต่างๆ เหลือโทษอีกเพียงสองปีเศษๆ ซึ่งหากพ้นโทษมีชีวิตรอดกลับไปได้ อาจเป็นเสี้ยนหนามรัฐบาลจึงหาเหตุให้ตายที่เกาะเต่าด้วยการทำงานหนัก ขณะที่เป็นไข้จับสั่น ยามีน้อย อดอยากอาหาร ส่วนนักโทษสามัญมีแต่พวกที่มาช่วยเจ้าหน้าที่เรือนจำ ทำงานหุงต้มในครัวทำความสะอาด และรับใช้ครอบครัวพัศดี และเจ้าหน้าที่เรือนจำเท่านั้น โรงขังได้สร้างอย่างแน่นหนาอยู่ ภายในรั้วรอบขอบชิด ส่วนบ้านพักของผู้อำนวยการเกาะ เจ้าหน้าที่เรือนจำและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สร้างอย่างสวยงามทันสมัย มีถังเก็บน้ำใหญ่จุน้ำได้ ถึง 3,000 แกลลอน. แต่ขณะที่นักโทษการเมืองไปถึงนั้นปรากฏว่าถังน้ำใหญ่นี้ได้พังทลายลง จนใช้การไม่ได้นั่นแสดงให้เห็นชัดว่า เกาะเต่า ไม่มีแหล่งน้ำ และนักโทษการเมืองจะต้องประสพกับปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ทางการค่ายคุมขังได้ขุดบ่อเล็กๆขึ้นแทนเมื่อนักโทษการเมือง 54 คน ต้องใช้น้ำพร้อมกันในเวลาจำกัด น้ำไหลซึมออกมาไม่พอที่จะใช้ได้ทั่วถึง นักโทษการเมือง จึงต้องซื้อน้ำอาบน้ำกินด้วยราคาแพง. ในระยะเดือนแรกที่ไปถึงที่นั่น พัศดีเพี้ยน อนุโรจน์ ผู้อำนวยการเกาะได้ให้เกียรติ และปฏิบัติต่อนักโทษการเมืองอย่างดี ตามแบบฉบับที่ควรปฏิบัติต่อนักโทษการเมือง คือ ในตอนกลางวันอนุญาตให้นักโทษการเมืองออกจากบริเวณรั้วท่องเที่ยวไปตกปลาหา พืชผักเป็นอาหารได้โดยเสรี ทั้งนี้โดยถือว่า เกาะเต่า เป็นเกาะซึ่งอยู่โดดเดี่ยวไม่มีเกาะอะไรอยู่ใกล้เคียง และมีทะเลเป็นรั้วรอบอยู่แล้ว ในเวลากลางคืนจึงได้จำกัด ให้นักโทษการเมืองอยู่ในบริเวณรั้วกั้น แต่เพียงชั่วเวลาไม่นาน การปฏิบัติต่อนักโทษการเมืองดีเกินไป ยังผลให้พัศดีเพี้ยน ผู้นี้ต้องถูกสั่งย้ายจาก เกาะเต่า โดย พันตำรวจเอกพระกล้ากลางสมร (มงคล หงสไกร) อธิบดีกรมราชทัณฑ์ขณะ นั้นเห็นว่า เป็นการปล่อยปละนักโทษการเมืองเกินไป ร้อยตรีพยอม เปรมเดชา ได้มาเป็นพัศดีแทน โดยมี จ่าผ่อน หนูรักษา เป็นผู้ช่วย ในทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง เขาก็สั่งกักขังนักโทษการเมืองไว้ในเรือนขังในเวลา กลางคืน และกักให้อยู่ในบริเวณรั้วในเวลากลางวัน นักโทษการเมืองจึงหมดโอกาสที่จะไปตกปลา หาหอย หาปู และพืชผักมาเป็นอาหาร จำต้องกินอาหารอันแร้นแค้น และขาดคุณภาพซึ่งทางเรือนจำจัดหาให้ ร่างกายจึงขาดอาหาร และผ่ายผอมอ่อนแอ จนไม่อาจต้านทานต่อเชื้อไข้จับสั่นที่เป็นมาแล้วจากเกาะตะรุเตา เมื่อได้รับ เชื้อใหม่อันร้ายแรงของเกาะเต่า ซึ่งเป็นที่ๆ เพิ่งหักร้างถางพงใหม่ๆ และฝนตกชื้นเสมอ นักโทษการเมืองจึงเป็น ไข้จับสั่นกันแทบทุกคน ความคับแค้นประการสำคัญที่สุดก็คือการติดต่อส่งข่าวคราวทางจดหมายกับญาติ เป็นไปด้วยความลำบากอย่างยิ่ง เพราะเรือไม่มีเชื้อเพลิงทั้งเรือดำน้ำทางฝ่ายสัมพันธมิตรก็ยุ่มย่ามมากขึ้น อีกทั้งเรือเสบียงที่จะเดินทางมาเกาะเต่าก็มาเพียงเดือนละครั้ง แต่มีน้อยครั้งที่จะมีจดหมายถึงนักโทษการเมือง ทั้งนี้จะเป็นเพราะเหตุใดก็สุดจะเดา พัศดีพยอมได้ชี้แจงว่าจดหมายต่างๆ ที่ส่งไปถึงญาตินั้นจะต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่เรือนจำเสียก่อน อย่างไรก็ตาม นักโทษการเมืองแทบจะไม่ได้รับจดหมายหรือข่าวคราวตอบจากญาติเลย. นั่นหมายถึงการขาดแคลนเงินทอง เครื่องอุปโภคบริโภค และที่ร้ายที่สุดคือการขาดแคลนยาที่จะใช้บำบัดรักษาโรค ทางการเรือนจำก็ไม่ยอมจ่ายยาหรือดูแลรักษาแต่ประการใด ข้าวของเงินทองที่ญาติส่งไปให้ ก็หายตกหล่นเสียเป็นส่วนใหญ่ นักโทษการเมืองแทบไม่ได้รับเครื่องอุปโภคบริโภค และยาที่ทางบ้านส่งไปเลย มารดาของสอ เสถบุตร ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะส่งของไปให้บุตรชาย แต่ของเหล่านั้นก็ไปไม่ถึง ยาเท่าที่จะหาได้นั้นได้จากการต้องซื้อจากเจ้าหน้าที่เรือนจำด้วยราคาแพง ลิบลิ่ว ซึ่งยานั้นอาจเป็นยาซึ่งญาติของ นักโทษการเมืองนั่นเองที่ส่งไปให้ ต่อมาพระกล้ากลางสมร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ขณะนั้น ได้มีคำสั่งให้นักโทษการเมืองที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ทั้งหมด ทำงานกรรมกรเช่นเดียวกับนักโทษสามัญ ทั้งนี้เป็นการทำผิดกฎของเรือนจำที่ว่า นักโทษการเมือง ซึ่งถือกันว่าเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ย่อมได้รับการยกเว้นมิให้ต้องทำงานกรรมกร หากให้ทำงานช่วยเจ้าหน้าที่ ควบคุมงาน หรือทำงานกี่ยวกับหนังสือหรือการบัญชีเท่านั้น เบื้องหลังของคำสั่งนี้ก็คือ การทำงานกรรมกร จะทำให้นักโทษการเมืองได้มีโอกาสออกกำลังกาย อันเป็นการต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บให้เบาบางลง ในการทำงาน กรรมกรนั้น นักโทษการเมืองได้ถูกเกณฑ์ให้ออกไปทำงานในป่า โดยแบ่งออกเป็นหมู่ๆ หมู่ละ 5 คนบ้าง 6 คนบ้าง งานที่ถูกกำหนดให้ทำนั้นมีทั้ง ทำถนน ถางป่า โค่นต้นไม้ ดายหญ้า ปราบที่สำหรับทำไร่ถั่ว และไร่มันสำปะหลังซึ่งผลิตผลทางการเกษตรเหล่านี้เป็นสมบัติของค่ายคุมขัง ทั้งสิ้น.
อันการกลั่นแกล้งให้นักโทษการเมืองต้องทำงานหนัก กรำแดดกรำฝนในขณะที่เป็นไข้จับสั่น ตลอดจน การตัดหนทางมิให้ญาติได้มีโอกาสส่งเครื่องอุปโภคบริโภค และยารักษาโรคไปให้นักการเมืองนั้น เป็นเสมือน คำสั่งประหารชีวิตนักโทษการเมืองโดยแท้ เพราะการขาดแคลนเงิน อาหาร ยารักษาโรคในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งเต็มไปด้วยเชื้อไข้จับสั่นอันร้ายแรง ย่อมหมายถึงความตาย อันที่จริงแล้ว นักโทษการเมืองเท่าที่เหลืออยู่นี้ ล้วนเป็นผู้ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่เมื่อได้รับการลดหย่อนโทษในวาระพิเศษต่างๆ ประกอบกับเป็นผู้ ประพฤติตนดี โทษที่ได้รับจึงเหลือเวลาอีกเพียงสองปีเศษๆ เท่านั้น ดังนั้นหากพวกนักโทษการเมืองรุ่นนี้ได้รับ การปลดปล่อยให้พ้นโทษ ก็อาจจะกลับมาเป็นเสี้ยนหนามของรัฐบาลขณะนั้นได้ วิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดไฟแต่ต้นลม ก็คือ กลั่นแกล้งและบีบคั้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้นักโทษการเมืองรุ่นนี้ ต้องมีอันเป็นไป จนสูญสิ้นชีวิตที่ เกาะเต่า ด้วยพิษไข้จับสั่น และความอดอยาก
ผลของการออกไปกรำแดดกรำฝนทำงานหนักในป่า ในระหว่างฤดูฝนของปี พ.ศ.2486 นั้นเอง ทำให้นักโทษการเมืองซึ่งไม่เคยกับการทำงานหนัก ร่างกายขาดอาหารผ่ายผอมอ่อนแอ และมีเชื้อไข้จับสั่นอยู่แล้ว และได้รับเชื้อไข้ป่า หรือไข้จับสั่นอย่างร้ายแรงเข้าอีกจึงกำเริบหนัก และระบาดแพร่หลายไปอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ชีวิตของนักโทษการเมืองต้องสูญ สิ้นไปถึงหกคน ในช่วงระยะเวลาเพียงหกสัปดาห์ คนแรกที่ต้องสิ้นชีวิต บน เกาะเต่า ด้วยพิษไข้จับสั่นขึ้นสมอง คือ ร้อยเอกหลวงจักรโยธิน (ม.ล.บุษ อิศรางกูร ณ อยุธยา) ขณะที่ หลวงจักรโยธินไข้ขึ้นสูง ดิ้นทุรนทุรายพร่ำเพ้อเรียกหาแต่ลูกเมีย อาการหนักอยู่ในขั้นอันตราย พระยาจินดา จักรรัตน์ ได้บริจาคยาฉีดแอตตาบรินให้หนึ่งหลอด อาการก็ยังไม่ทุเลาลง หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร จึงประทานยาแคมเฟอร์ให้อีกหนึ่งหลอดก็หาประโยชน์อะไรมิได้ ด้วยหลวงจักรฯ ได้สิ้นชีวิตลงในเวลาอีกไม่กี่ ชั่วโมงต่อมา พระแสงสิทธิการติดตามหลวงจักรฯ ไปเป็นคนที่สองด้วยไข้จับสั่นอีกเช่นกัน ต่อมา อ่ำ บุญไทย นักหนังสือพิมพ์ เจ้าของนามปากกา “แม่น้ำโขง” ก็ได้จบชีวิตลงเป็นคนที่สาม ด้วยโรคท้องมาน โรคนี้ได้ก่อความทุกข์ทรมานให้แก่อ่ำ บุญไทย อย่างยิ่งเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม นายแพทย์ซึ่งเป็นนักโทษต้องคดีฆ่าภรรยาตายได้เดินทางไป เกาะเต่า พร้อมกับเรือเชวงศักดิ์สงคราม เพื่อทำการเจาะท้องให้ อ่ำ บุญไทยจนท้องยุบเป็นปกติ แต่เพียงระยะเวลาไม่กี่วันท้องของอ่ำ กลับโตใหญ่ขึ้นอีกเมื่อไม่มีนายแพทย์เจาะท้องให้อ่ำจึงใช้ตะปูซึ่งฝน จนแหลมเจาะท้องของตนเองอีกหลายครั้งหลายหน จนในที่สุดเขาก็สิ้นสุดชีวิตและสิ้นความทรมานทั้งปวง คนที่สี่ที่สิ้นชีวิตด้วยไข้จับสั่นในเวลาไล่เลี่ยกับอ่ำ บุญไทย ก็คือ สิบโทศาสตร์ คชกุล ศาสตร์เป็นคนตัวคนเดียว ไม่เคยมีญาติพี่น้อง หรือผู้หนึ่งผู้ใดส่งเสียเขา ตลอดเวลาที่เขาต้องโทษ ภรรยาของเขาได้ทอดทิ้งเขาไปในทันที ที่เขาต้องถูกจำคุก สอ เสถบุตร ได้ให้ความอุปการะช่วยเหลือแก่ศาสตร์ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องเงิน เสื้อผ้า อาหารการกินและยา “ไทยน้อย” ได้เขียนไว้ในหนังสือเรื่องค่ายคุมขังนักโทษการเมืองว่า “ความเป็นอยู่ของเราในค่าย ได้มีพื้นฐานอยู่ในคติที่ว่า ตัวใครตัวมัน เพราะทุกคนเท่ากับลอยคออยู่ในห้วงมหาสมุทร อีเมตินเม็ดหนึ่งหรือควินินเม็ดหนึ่ง หมายถึงชีวิต ในที่นี้เราน่าจะอนุโมทนาแก่น้ำใจอันงดงามของ หลวงมหาสิทธิโวหาร (สอ เสถบุตร) ซึ่งช่วยทั้งยา เงินและอาหารแก่ศาสตร์ เพื่อจะประคับประคองชีวิตของเขา ไว้จนสุดความสามารถ ตลอดจนเสื้อผ้าก็พยายามว่าจ้างคนซักฟอกให้ตามสมควร แต่ในที่สุด ศาสตร์ก็ต้อง จากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ ” สอ เสถบุตร เล่าว่าในสภาพแวดล้อมอันคับแค้น ซึ่งขาดทั้งยา และอาหารเช่นนั้น การให้ยาแก่เพื่อนซึ่ง กำลังจะตาย อาจหมายถึงความตายของตัวเองในเวลาต่อไปเมื่อหมดยา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องของการตัดสินใจ ที่ยากยิ่งระหว่างมนุษยธรรมกับสัญชาตญาณของการอยู่รอด นักโทษการเมืองทุกคนต้องระวังสุขภาพ และใช้วิธีบำบัดรักษาโรคด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่เรือนจำมิได้ เหลียวแลหรือให้การบำบัดรักษาแต่อย่างใด ยาควินิน แอตตาบริน หรืออิเมตินแต่ละเม็ดมีความหมายต่อชีวิต ของแต่ละคน การมียาโดยจำกัดทำให้แต่ละคนใช้วิธีบำบัด รักษาตนเองด้วยวิธีต่างๆ กัน บางคนแบ่งยากิน ทีละน้อยแต่กินเรื่อยๆ จึงเกิดอาการดื้อยา และยาก็มีไม่มากพอที่จะบำบัดโรคซึ่งเป็นอยู่อย่างร้ายแรงให้หาย ขาดได้ บางคนเวลาที่เป็นน้อยอยู่ ถนอมยาไว้ไม่ยอมกิน พอเป็นมากถึงขั้นเพ้อคลั่ง ยาก็เอาไว้ไม่อยู่ เช่นในราย ของพระแสงสิทธิการ เมื่อพระแสงฯ สิ้นชีวิตลงนั้น มียาแอตตาบรินและควินิน ซ่อนอยู่ใต้หมอนและใต้ที่นอน เป็นจำนวนมาก ส่วน สอ เสถบุตร นั้นได้ใช้วิธีที่ว่า โดยปกติเขาจะไม่กินยาป้องกันไว้ก่อน แต่ถ้าโรคไข้จับสั่น กำเริบขึ้นเมื่อใด เขาก็รีบกินยาอย่างเต็มที่ เพื่อให้หายจากโรคโดยเร็วที่สุด ด้วยวิธีการเช่นนี้ สอ เสถบุตร ทั้งที่ตัวเล็กบอบบางจึงรอดชีวิตจากไข้จับสั่นของ เกาะเต่า มาได้ ในระหว่างที่ความตายกำลังคุกคามนักโทษการเมืองบน เกาะเต่า อยู่นั้น หม่อมราชวงศ์นิมิตรมงคล นวรัตน์ และดร.โชติ คุ้มพันธ์ ซึ่งต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตอยู่ในเรือนจำบางขวางในคดีพยายามก่อการกบฏ พ.ศ.2481 ถูกทางการรัฐบาลขณะนั้น เห็นว่าเป็นบุคคลประเภทหัวแข็ง ไม่เข็ดหลาบ อันจะเป็นเสี้ยนหนาม แก่รัฐบาลได้ ทางราชการจึงได้มีคำสั่งเนรเทศบุคคลทั้งสอง ให้มาร่วมความทุกข์ทรมาน และความตายกับนักโทษการเมืองที่ เกาะเต่า ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน์ อดีตนายทหารอากาศผู้นี้ท่านผู้อ่านคงจะจำได้ว่า ได้เคยต้องโทษในคดี กบฏบวรเดช พ.ศ.2476 มาแล้ว และได้รับการปลดปล่อยให้พ้นโทษไปในปี พ.ศ.2480 และต่อมา ม.ร.ว.นิมิตรมงคล ก็ถูกจับกุมอีก ถูกฟ้องร้องและต้องคำพิพากษาของศาลพิเศษให้จำคุกตลอดชีวิต ในคดี พยายามก่อการกบฏ พ.ศ.2481 อันเป็นคดีเดียวกันกับร้อยโทเณร ตาละลักษณ์ และนักโทษการเมืองอีก 17 คน ต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิตในเรือนจำบางขวาง ภาพที่ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน์ และดร.โชติ คุ้มพันธ์ ประสพเมื่อแรกไปถึง เกาะเต่า นั้น ทำให้เขา ตกใจแทบสิ้นสติ เพราะมันเป็นภาพของเมืองนรกบนโลกมนุษย์อย่างแท้จริง แทบทุกคนผอมจนมีแต่หนัง หุ้มกระดูก หน้าซีดเซียว แววตาแห้งแล้งอิดโรย บางคนนั่งกอดเข่าห่มผ้าตัวสั่นสะท้าน บางคนก็ดิ้นทุรนทุราย ผ้าผ่อนหลุดรุ่ย ปากก็พร่ำเพ้อตะโกนโวยวายด้วยพิษไข้ขึ้นสมอง บางคนก็อาเจียนเปื้อนเปรอะบริเวณที่นอนอยู่ บางคนก็นั่งซึมดวงตาเหม่อลอย บางคนก็นอนขดห่มผ้าตัวสั่นราวกับลูกนก ผู้มาใหม่ทั้งสองสำนึกทันทีว่า ตนถูกส่งเข้ามาอยู่ในแดนแห่งความตายร่วมกับนักโทษการเมืองในคดีกบฏ พ.ศ.2476.
ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน์เองในเวลาต่อมาก็เกือบจะสูญสิ้นชีวิตด้วยพิษไข้ขึ้นสมองถ้าหากมิได้ รับพระกรุณาอย่างใหญ่หลวงจากหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร พระองค์ท่านได้ทรงเสียสละอย่างยิ่ง โดยประทานยาฉีดซึ่งมีเหลืออยู่เพียงสองสามหลอดสุดท้ายของพระองค์ เพื่อช่วยชีวิตของ ม.ร.ว.นิมิตรมงคลไว้ต่อมาไม่นาน หลวงโจมพลล้าน อดีตผู้บังคับการตำรวจจังหวัดเพชรบุรี ผู้มีน้ำใจโอบอ้อมอารีก็มีอาการเพียบหนักเขาพร่ำเพ้อดิ้นทุรนทุรายด้วยพิษ ไข้จับสั่นขึ้นสมอง และเฝ้าแต่พร่ำรำพันเรียกหาลูกเมียตลอดเวลาจนสิ้นใจไปในตอนพลบค่ำวันหนึ่ง หลังจากนั้นไม่กี่วัน เผื่อน ปุณฑนิก ก็ตายลงโดยกะทันหันเป็นคนที่หก
การ ที่เพื่อนนักโทษการเมืองต้องสูญสิ้นชีวิตไปถึงหกคนในชั่วระยะเวลาเพียงหก สัปดาห์ ทำลายขวัญนักโทษการเมือง ที่เหลืออยู่อย่างยิ่ง เมื่อถึงที่สุดแห่งความคับแค้น คนบางคนก็ทิ้งศักดิ์ศรีของตน ลืมยศถาบรรดาศักดิ์ และเกียรติยศหมดสิ้น เผยให้เห็นถึงแก่นแท้อันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว และรู้จักแต่การรักษาตัวรอดเป็นยอดดีการศึกษาที่ได้รับมาอย่างดี ไม่อาจจะช่วยกล่อมเกลาจิตใจของคนบางคนได้ นักโทษการเมืองบางคนถึงกับยอมลดตัวลงมาประจบประแจงกราบกรานขอความกรุณาต่อ ผู้คน เพื่อให้ได้มาซึ่ง อภิสิทธิ์และความสะดวกสบายต่างๆ เหนือคนอื่น ด้วยการเป็นสายให้เจ้าหน้าที่คอยสอดแนมความเป็นไปตลอดจนนำเรื่องราวที่ เพื่อนนักโทษการเมืองคุยกัน ไปฟ้องเจ้าหน้าที่เพื่อหาความดีความชอบ ซึ่งบางทีก็เป็น เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างก่อให้เกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน จนแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่าขึ้น นักโทษการเมืองคนใดหรือหมู่ใดคณะใดวางตัวเฉย ไม่ยอมประจบประแจงหรือให้สินจ้างแก่เจ้าหน้าที่ จึงดูเหมือนว่าเป็น พวกหัวแข็งไม่ยอมอ่อนน้อม ก็ได้รับความบีบคั้นกลั่นแกล้งให้ต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น เมื่อเรือเชวงศักดิ์สงคราม ซึ่งเคยเป็นเรือเสบียงเดินระหว่างสุราษฎร์ธานีกับ เกาะเต่า ต้องหยุดเดิน เพราะขาดน้ำมัน ทางการเรือนจำจึงได้นำเรือไชโยซึ่งต้องใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงมาเดินแทน นักโทษการเมืองชุดที่ได้ รับคำสั่งให้ไปโค่นต้นไม้ตัดฟืนเตรียมไว้ป้อนเรือไชโยมี สอ เสถบุตร หม่อมหลวงทวีวงศ์ วัชรีวงศ์ ปรุง สุเสวี ประเสริฐ คชมหิทธิ์ และแผ้ว แสงส่งสูง ด้วยเหตุที่ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของ เกาะเต่า เป็นภูเขา ต้นไม้ใหญ่จึงขึ้น อยู่ตามไหล่เขา เมื่อนักโทษการเมืองช่วยกันโค่นต้นไม้ลงแล้ว ก็ต้องช่วยกันงัดให้ไม้กลิ้งลงมาตามไหล่เขา จนถึงชายทะเล แล้วจึงผ่าออกเป็นดุ้นฟืนขนาดยาวประมาณ 65 ซม. นักโทษการเมืองคณะนี้ จึงได้รับสมญา ว่า “กลุ่มช้าง”.
ครั้นแล้ว ในระหว่างระยะเวลาแห่งความลำบากยากแค้นแสนสาหัสนั้นเอง วันหนึ่งก็ได้มีเครื่องบินลำหนึ่งมาบินทักษิณาวรรตอยู่เหนือ เกาะเต่า ขณะที่บินวนอยู่นั้น นักบินก็โบกมือให้นักโทษการเมืองเสมือนจะเป็นสัญญาณบอกกล่าวอะไรสักอย่าง หนึ่ง นักโทษการเมืองพากันถกเถียงถึงเรื่องเครื่องบินลำนั้นอยู่เป็นเวลากว่าสาม สัปดาห์จึงได้ความจริงที่นักบินใจบุญผู้นั้นได้มาบอกใบ้ให้ทราบความจริงอัน นั้นก็คือนักโทษการเมืองได้รับพระราชทาน อภัยโทษ เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ โดยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม จำต้องลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุที่แพ้คะแนนเสียงในรัฐสภาเรื่องการสร้าง นครเพชรบูรณ์ ให้เป็นเมืองหลวงของประเทศ และสร้างพุทธบุรี ที่จังหวัดสระบุรี นายควง อภัยวงศ์ ได้มาเป็นรัฐมนตรีแทน และคณะรัฐมนตรีใหม่ได้มีมติให้ กราบบังคับทูลขอพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษการเมืองทั้งในคดีกบฏบวรเดช พ.ศ.2476 และคดีกบฏ พ.ศ.2481 ทางการกำหนดให้มีการปลดปล่อยนักโทษการเมืองที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2487 ความหวังและกำลังใจก็พลันบังเกิดขึ้นทันทีนักโทษการเมือง ดูเต็มไปด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และมีชีวิตชีวาความเจ็บไข้ได้ป่วยก็ดูจะหายไปราวปลิดทิ้ง บรรดาเจ้าหน้าที่เรือนจำต่างๆ ก็ดูเปลี่ยนท่าทีไปโดยฉับพลันกิริยาท่าทางตลอดจนถ้อยคำพูดจาก็ดูเต็มไปด้วย ความเคารพนบนอบ เสียงเรียกขานคุณหลวงคุณพระท่านเจ้าคุณใต้เท้าขอรับกระผมดังอยู่ทั่วไป แทนถ้อยคำเสียดสีเกรี้ยวกราด ผู้คุมบางคนก็ขอฝากเนื้อฝากตัวประจบประแจงท่านนักโทษการเมือง ที่มีหวังว่าจะได้กลับไปเป็นใหญ่เป็นโต.
นักโทษการเมืองได้รับคำสั่ง ให้เตรียมตัวออกเดินทางจาก เกาะเต่า ไปยังคุกเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อรอเวลาปลดปล่อยที่นั่นปัญหามีอยู่ว่า เมื่อได้รับการปลดปล่อยแล้วนักโทษการเมืองจะเอาเงินที่ไหน ซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายใหม่แทนเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอันขาดกะรุ่ง กะริ่งใกล้สภาพอนาจารของตน นักโทษการเมืองจะเอาเงินที่ไหนหาอาหารรับประทานระหว่างการเดินทาง และจะเอาเงินที่ไหน เป็นค่ารถจากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปบ้านของตนมิหนำซ้ำบางคนก็ยังไม่แน่ใจว่า บ้านที่ตนเคยอยู่นั้น จะถูกลูกระเบิดไปหรือเปล่า ที่คุกเมืองสุราษฎร์ธานีผู้คุมได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางนำสินค้าซึ่งเป็นของ เก่าติดตัวนักโทษการเมือง ไปขายให้แก่ประชาชนด้วยเหตุที่ขณะนั้นเป็นเวลาสงครามเครื่องอุปโภคต่างๆ ขาดแคลน และราคาแพงอย่างยิ่งเมื่อนักโทษการเมืองซึ่งหูหนวกตาบอดต่อภาวะความเป็นไป ของโลก ภายนอกขายของในราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อประชาชนจึงพากันหลั่งไหลเบียดเสียด ไปซื้อของดีราคาถูกที่ประตูเรือนจำราวกับตลาดนัด ปรุงสุเสวีขายสายสร้อยทอง หนักหนึ่งบาท ไปด้วยราคา 40 บาทก็ดีใจว่าตั้ง 18 บาท เพราะเมื่อซื้อมานั้นซื้อด้วย ราคาเพียง 22 บาท อันที่จริงราคาทองขณะนั้น บาทละ 400 กว่าบาท สอ เสถบุตรและแผ้ว แสงสูงส่ง ขายมุ้งไปในราคาหลังละ 40 บาทส่วนหม่อมเจ้า สิทธิพรกฤดากรทรงขายผ้าห่มสักหลาดอย่างดีใหม่เอี่ยมไปในราคา 80 บาท ก็ดีพระทัยว่าขายได้ราคา แต่พอหนึ่งชั่วโมง ให้หลังจีนเจ้าของร้านตัดเสื้อกางเกงก็วิ่งมาขอซื้ออีกโดยเสนอให้ ราคาถึงผืนละ1,000 บาท แต่พระองค์ท่าน ก็ไม่มีจะขายให้. แล้วในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2487 อันเป็นวันที่นักโทษการเมืองได้รับปลดปล่อยนั้นทั่วทั้งตลาดเมืองสุราษฎร์ ธานีขวักไขว่ไปด้วยอดีตนักโทษการเมือง ในสภาพเครื่องแต่งกายอันน่าขันระคนน่าสงสารบางคนสวมเสื้อขาดกะรุ่งกะริ่ง บางคนสวมรองเท้าซึ่งเกือบจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นรองเท้า โดยที่พื้นข้างล่างโหว่จนแทบจะรองรับเท้าไว้ไม่ได้ บางคนสวมหมวกซึ่งเป็นรูพรุนไปหมด สมัยนิยมของเครื่องแต่งกายได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงการนุ่งผ้าม่วง หรือนุ่งกางเกงแพร แล้วใส่เสื้อนอกคอปิดกระดุมห้าเม็ดได้หายไปหมดสิ้นจากสมัยนิยม อดีตนักโทษการเมือง ตัดสินใจไม่ถูกว่าตนควรจะซื้อเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่อย่างไรดี ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน์ และขุนศิริโยธิน ได้ไปซื้อกางเกงขาสั้นตัดเย็บด้วยผ้าทอด้วยใยสังเคราะห์ โดยเห็นว่ามีลวดลายสวยเหมือนผ้าสักหลาด และซื้อเสื้อโปโลกับหมวกกันแดดแต่เมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเสร็จแล้ว และเดินฝ่าแสงแดดอันร้อนแรงจะไปขึ้นรถไฟก็เกิดอาการคันไปทั้งตัวจนทนไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย กลับไปสวมชุดนักโทษ ตามเดิม ที่สถานีเพชรบุรี ได้มีประชาชนเป็นจำนวนมากนำข้าวห่อ และขนมหม้อแกงหลายสิบถาดมาเลี้ยงต้อนรับพร้อมกับอวยชัยให้แก่อดีตนักโทษการ เมืองทุกคน ในระหว่างทางได้มีเพื่อนผู้อารีคนหนึ่งนำเสื้อนอก แบบสากลมาให้ สอ เสถบุตร สวมใส่ สอ เสถบุตรเล่าว่า เขามีความรู้สึกเคอะเขินชอบกลหลังจากที่มิได้สวมใส่ เสื้อนอกมาเป็นเวลากว่าสิบปี ณ สถานีรถไฟบางกอกน้อย ธนบุรี คุณมานิต วสุวัต เป็นมิตรคนแรกที่รอรับ สอ เสถบุตรอยู่ พร้อมกับ เสนอให้ตำแหน่งผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ “ศรีกรุง” แก่สอ เสถบุตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น