วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

5 วัน 4 คืน เปิดโลกทะเลชุมพร

จาก เกาะพะงันเราขอพาท่านเดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังหมู่เกาะต่างๆและชายหาดอัน สวยงามในจังหวัดชุมพรประตูสู่ภาคใต้ จังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติทางการท่องเที่ยวสวยงามมากมายไม่น้อยหน้า จังหวัดใดๆในภาคใต้แต่ตรงกันข้ามกับไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาก นัก จังหวัดชุมพรมีความยาวของชายหาดทั้งหมดตั้งแต่เหนือจดใต้ระยะทางประมาณ 222 กิโลเมตรความงดงามของชายหาดไม่น้อยหน้าหาดใดๆในภาคใต้พื้นที่ชายหาดบางแห่ง ยังคงความสวยงามทางธรรมชาติปราศจากผู้คนอาศัยอยู่ อาทิเช่นหาดบางเบิดหาดซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการพระราชดำริที่มีพื้นที่ชาย หาดติดต่อกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หาดทุ่งวัวแล่นอันงดงามและหาดทรายรีที่ตั้งของศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชบิดาแห่งกองทัพเรือไทย ตลอดจนเกาะแก่งน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะในหมู่เกาะทะเลชุมพรเช่นเกาะง่ามน้อยง่ามใหญ่แหล่งดำน้ำชมปะการังยอดนิ ยมเกาะมัตราหรือเกาะตังกวยแหล่งที่อยู่อาศัยของปูไก่จำนวนมากและ เกาะลังกะจิวเกาะสัมปทานรังนกนางแอ่นที่ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ ขึ้นไปเที่ยวชมได้แล้วและเกาะพิทักษ์เกาะที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเกาะแห่ง การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์จนได้รับรางวัลดี เด่นมากมาย นอกจากนี้แล้วจังหวัดชุมพรยังเป็นเส้นทางลัดประตูสู่เกาะเต่า เกาะพะงันและเกาะสมุยในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีกด้วย
ครับ....เปิดโลก ทะเลชุมพรในฉบับนี้จะมีชายหาดใดที่น่าสนใจเกาะไหนที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยว ในหมู่เกาะทะเลชุมพรก็ลองคลิ๊กเข้าไปเยี่ยมชมกันได้เลยครับ.

วันแรกของการเดินทาง
เช้า วันแรกของเราสองคนที่ M.T. RESORTในอ่าวทุ่งมะขามน้อยในจังหวัดชุมพร เราสองคนตื่นนอนตอนเช้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่อ่าวทุ่งมะขามน้อยอากาศในเช้า วันนี้สดชื่นเหลือเกินท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศแจ่มใสเหมาะกับการท่องเที่ยวทาง ทะเล ดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้าเหนือเกาะลังกะจิวที่ตั้งอยู่ทางทิศ ตะวันออกห่างจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยระยะทางประมาณ 5 กม.


เสียงวูดของเรือเร็วลมพระยาเป็นสัญณานบอกให้เราทราบว่าเรือกำลังออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เกาะเต่าแล้ว ใกล้กับM.T. RESORT เป็นที่ตั้งของท่าเรือเร็วลมพระยานักท่องเที่ยวที่ออกเดินทางมาจากถนนข้าว สารจะต้องมาลงเรือที่ท่าเรือเร็วลมพระยาอ่าวทุ่งมะขามน้อยที่อยู่ห่างจากตัว เมืองชุมพรระยะทาง 22 กม.จากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปยังเกาะเต่า เกาะพะงันและเกาะสมุยต่อไปหลังจากเก็บภาพดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลชุมพรจน เป็นที่พอใจแล้วจากนั้นเราสองคนจึงมานั่งรับประทานอาหารเช้าร่วมกับคุณสุวา รินทร์ มายาเศส หรือชื่อเล่นว่าคุณชายเจ้าของ M.T. RESORT รีสอร์ทแห่งเดียวบนอ่าวทุ่งมะขามน้อยแห่งนี้


เรา สองคนนั่งรับประทานอาหารเช้าพร้อมพูดคุยสนทนาไปตามประสาเพื่อนเก่าแต่ไม่แก่ ที่นานๆครั้งถึงจะได้มีโอกาสมาพบหน้าค่าตากันสักครั้งหนึ่ง


สำหรับ ในส่วนของ...แห่งนี้คุณชายได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของรีสอร์ทแห่งนี้ให้ เราสองคนฟังว่าคำว่าM.T. RESORTมาจากคำว่าMOTHER RESORTซึ่งแปลเป็นไทยว่า “บ้านแม่รีสอร์ท”เพื่อระลึกถึงบุญคุณของคุณแม่ที่เป็นเจ้าของผืนนี้ละเป็น มรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษสืบทอดมาจนกระทั่งตกมาเป็นของคุณชาย สำหรับM.T. RESORTสร้างขึ้นมาครั้งแรกเมื่อประมาณปีพ.ศ 2535 หลังมหันตภัยจากพายุเกย์ผ่านพ้นไปประมาณ3ปีโดยเริ่มแรกด้วยบังกะโลหลังคา มุงจาก 5 หลังราคา 300 บาทต่อคืน จากนั้นก็สร้างต่อมาเรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันมีบ้านพักทั้งหมด 9 หลังพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิเช่น แอร์ พัดลม ทีวี ตู้เย็นและเครื่องเล่นDVDในราคาที่เริ่มต้น750-1,250บาทต่อคืน


สำหรับ นักท่องเที่ยวที่ชอบพักแรมในบรรยากาศสไตล์แค้มปิ้งทางM.T. RESORTก็มีบริการเต็นท์พร้อมเครื่องนอนพร้อมห้องสุขาและบริการ ชากาแฟ ฟรีให้บริการท่านละ 150 บาทพร้อมเรือคยัคให้พายเล่นฟรีอีกด้วย


นอก จากนี้แล้วทาง M.T. RESORTยังจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักภายในรีสอร์ทได้ท่องเที่ยว ด้วยความสนุกสนานเช่นกิจกรรมวันเดียวเที่ยวสามเกาะซึ่งทางรีสอร์ทจะพานัก ท่องเที่ยวเดินทางไปดำน้ำชมปะการังกันที่เกาะละวะ เกาะมัตราและเกาะลังกาจิวซึ่งทั้งสามเกาะนี้ตั้งอยู่ในหมู่เกาะทะเลชุมพร พร้อมอาหารกลางวันและอุปกรณ์ดำน้ำครบครันในอัตราค่าบริการจำนวน 5 คนขึ้นไปคนละ 700 บาทแต่ถ้าเดินทางมาแค่ 2 คนๆละ 1,000 บาท นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมตกหมึกในยามค่ำคืนราคาค่าบริการคนละ 500บาท กิจกรรมนั่งรถเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ศาลกรมหลวงชุมพร หาดทรายรี หาดภราดรภาพ สระยักษ์ ฯลฯค่าบริการคนละ 1200 บาทถ้าผู้ใช้บริการมีจำนวนมากราคาสามารถต่อรองลดหย่อนกันได้ท่านผู้อ่านท่าน ใดที่สนใจติดต่อของทราบรายละเอียดได้ที่M.T. RESORT เลขที่ 13หมู่3 อ่าวทุ่งมะขามน้อย ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองจังหวัดชุมพร86120 โทรศัพท์ 077 558 152-3,089 536 6808 หรือที่ http://www.mtresort-chumphon.com/
e-mail : mt-resort@hotmail.com
หลัง จากที่ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยสนทนากับคุณชายอยู่สักครู่ใหญ่จากนั้นคุณชายก็ เอ่ยปากชักชวนเราสองคนนั่งเรือหางยาวออกไปเที่ยวชมความยาวของหมู่เกาะทะเล ชุมพรกันซึ่งในวันนี้อากาศปลอดโปร่งแจ่มใสเป็นใจให้ออกเดินทางท่องเที่ยวทาง ทะเลเป็นอย่างยิ่งเราสองคนตอบตกลงในทันทีหลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้ เหมาะสมเข้ากับบรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเลแล้วจากนั้นเรือหางยาวของM.T. RESORTก็หันหัวเรือมุ่งหน้าออกเดินทางจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยออกสู่หมู่เกาะ ทะเลชุมพรในทันที


สำหรับ เกาะแรกที่คุณชายจะพาเราสองคนเดินทางไปก็คือ เกาะละวะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตรใช้เวลาในการเดินทางด้วยเรือหางยาวประมาณ 30นาที


เกาะ ละวะเป็นเกาะสัมปทานรังนกขนาดกลางตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ลักษณะของภูมิประเทศโดยรอบเกาะมีลักษณะเป็นโขดหินและหน้าผาหินสูงชันไม่มี แหล่งชุมชนและแหล่งน้ำจืดบนเกาะมีก็แต่กระท่อมของคนเฝ้ารังนกบนเกาะปลูก เรียงรายอยู่บนหน้าผาหินบนเกาะ

สำหรับ หาดทรายบนเกาะละวะจะมีให้เห็นในช่วงเวลาน้ำทะเลลดลงมากๆเท่านั้นแต่ไม่ค่อย น่าสนใจเท่าไหร่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะละวะนิยมมาดำน้ำ ชมปะการังที่เกาะละวะกันเป็นจำนวนมาก


เพราะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยดอกไม้ทะเลสีสันสวยงามรวมทั้งปลาทะเลสีสันสวยงามเป็นจำนวนมากเช่นปลาการ์ตูน,ปลาลายเสือ,ปลานกแก้ว ฯลฯ


ใน อดีตที่ผ่านมาก่อนเกิดพายุเกย์พัดผ่านมาในทะเลชุมพรเกาะละวะเป็นเกาะที่มี ชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของปะการังซึ่งมีให้ชมมากมายหลากหลายชนิด ปัจจุบันปะการังเหล่านี้เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาใหม่เพิ่มความสดใสมีสีสันให้กับ ทะเลชุมพรเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังหมู่เกาะทะเลชุมพรจึงไม่ควรพลาดกับ การมาดำน้ำชมปะการังความสวยงามของโลกใต้ทะเลชุมพรบริเวณโดยรอบเกาะละวะแห่ง นี้ เราสองคนใช้เวลาเพลิดเพลินกับการดำน้ำชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลรอบเกาะละวะ อยู่สักครู่ใหญ่จากนั้นจึงออกเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่เกาะมัตราซึ่งตั้งอยู่ ห่างจากเกาะละวะไม่ไกลเท่าใดนัก เรือหางยาวพาเราเดินทางผ่านเกาะแรด เกาะหลักแรด


จน ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเกาะมัตรา สำหรับเกาะมัตราตั้งอยู่ในหมู่ที่1 ตำบลหาดทรายรีตั้งอยู่ห่างจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร


สำ หรับเกาะมัตรามีชื่ออีกชื่อหนึ่งซึ่งชาวประมงในทะเลชุมพรเรียกกันว่า “เกาะตังกวย”เป็นเกาะที่อยู่ในความดูแลและรับผิคชอบของหมู่เกาะทะเลชุมพร บนเกาะมัตราไม่มีแหล่งชุมชนและหมู่บ้านชาวประมงอาศัยอยู่บนเกาะเพราะเป็นเขต อุทยานฯ


จุด เด่นของเกาะมัตราเป็นที่อาศัยของฝูงปูไก่จำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนฝูงปู ไก่จะขึ้นมาหากินบนชายหาดเกาะมัตราแห่งนี้ปูไก่จะมีลักษณะโดดเด่นกว่าปูทะเล ชนิดอื่นเพราะมีเสียงร้องคล้ายลูกเจี๊ยบเมื่อปูไก่โตเต็มทีจะมีขนาดเท่ากับ มือที่นิ้วกางออกทั้งห้านิ้วจากก้ามหนึ่งไปอีกก้ามหนึ่ง ส่วนก้ามจะมีขนาดใหญ่เท่ากับหัวแม่เท้า


บน เกาะมัตราเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯเกาะมัตราซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของ ทางอุทยานฯคอยเข้าเวรยามดูแลความเรียบร้อยอยู่บนเกาะนักท่องเที่ยวจะต้อง เสียค่าบำรุงอุทยานฯคนละ10 บาทและบนเกาะมัตราแห่งนี้มีเฒ่าทะเลนามว่า “ลุงขาว”และภรรยาคอยให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาท่องเที่ยว บนเกาะมัตราโดยลุงขาวและภรรยาเปิดร้านขายอาหารให้กับนักท่องเที่ยวอีก ด้วย


ก้าว แรกที่เราสองคนเหยียบย่างขึ้นมาบนท่าเรือเกาะมัตราจะแลเห็นน้ำทะเลสีเขียว มรกตสลับกับฝูงปลารากกล้วยว่ายวนเวียนกันเป็นกลุ่มใหญ่คล้ายเมฆฝนดำทะมึน อยู่บริเวณโดยรอบใต้สะพานไม้ของท่าเรือเกาะมัตรา


เรา สองคนถึงกับตื่นเต้นในปริมาณอันมากมายมหาศาลของปลารากกล้วยฝูงนี้จากนั้นจึง เดินเท้าไปตามสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวประมาณ 50 เมตรเข้าไปทักทายกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯพร้อมชำระค่าธรรมเนียมบำรุงอุทยานฯคน ละ 10 บาทจากนั้นจึงเดินเท้าเข้าไปยังศาลาพักร้อนบริเวณชายหาดของเกาะมัตราซึ่งมี หาดทรายสีขาวสลับกับโขดหินความยาวประมาณ 60 เมตร


เราสองคนได้พบกับลุงขาวเฒ่าทะเลแห่งเกาะมัตราซึ่งกำลังหยอกล้ออยู่กับสุนัขคู่ใจสามตัวบริเวณชายหาดเกาะมัตรา


เรา สองคนเดินเข้าไปทักทายกับลุงขาวทบทวนถึงความทรงจำในครั้งเก่าๆเมื่อสิบกว่า ปีที่ผ่านมาที่ได้เคยซัดเซพเนจรมานอนหลบลมมรสุมกับลุงขาวบนเกาะมัตราแห่งนี้ ซึ่งลุงขาวก็มีน้ำใจแบ่งปันที่นอนหลบแดดหลบลมแถมต้มหมึกต้มปูให้เราสองคนกิน นระหว่างใช้ชีวิตอยู่บนเกาะมัตราแห่งนี้หลังจากทักทายปราศรัยกับลุงขาวพอหอม ปากหอมคอแล้วจากนั้นลุงขาวก็เข้าครัวปรุงอาหารกลางวันมาให้เราสองคนกินกัน กั้งทอดกระเทียมพริกไทย ปลาทูต้ม ฯลฯซึ่งเราสองคนกินกันด้วยความเอร็ดอร่อย


พอ หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนประกอบกับลมทะเลพัดเย็นๆจนเกือบจะทำให้เราสอง คนเกือบเข้าสู่ภวังค์แห่งการหลับใหล เสียงตะโกนเรียกเราสองคนจากคุณชายเจ้าของเรือให้เราสองคนเตรียมตัวออกเดิน ทางได้แล้ว จากนั้นเราสองคนจึงล่ำลาลุงขาวเฒ่าทะเลแห่งเกาะมัตราออกเดินทางต่อมุ่งหน้า สู่เกาะลังกาจิวต่อไป


เรือ หางยาวใช้เวลาเดินทางไม่นานนักก็เดินทางมาถึงเกาะลังกาจิวซึ่งตั้งอยู่ห่าง จากอ่าวทุ่งมะขามน้อยที่ตั้งของM.T. RESORTที่พักของเราระยะทางประมาณ 5 กม. ซึ่งถ้ามองมาจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยจะสามารถมองเห็นเกาะลังกาจิวได้ในระยะไม่ ไกลเท่าใดนัก


สำหรับ เกาะลังกาจิวเป็นเกาะเล็กๆในทะเลชุมพรเป็นเกาะสัมปทานรังนกซึ่งแต่เดิมเป็น ของบริษัทรังนกแหลมทองแต่ต่อมาถูกเปลี่ยนสัมปทานมาเป็นของบริษัทรังนกซีโฟร์ บริเวณปากน้ำชุมพร เนื่องจากเป็นเกาะสัมปทานรังนกบนเกาะลังกาจิวจึงไม่มีบ้านเรือนผู้คนอาศัย อยู่บนเกาะนอกจากกระท่อมของคนเฝ้ารังนกของบริษัทซีโฟร์เท่านั้นซึ่ง


ใน อดีตเมื่อประมาณ 5ปีที่ผ่านมาเกาะลังกาจิวไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาท่องเที่ยวบนเกาะ นอกจากอนุญาตให้มาดำน้ำชมปะการังโดยรอบเกาะลังกาจิวเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเกาะลังกาจิวได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวสามารถ ขึ้นไปท่องเที่ยวบนเกาะได้แล้วแต่ต้องขออนุญาตจากคนเฝ้ารังนกเสียก่อนและ อนุญาตให้เดินเที่ยวได้เฉพาะบริเวณชายหาดเท่านั้นห้ามเข้าไปเที่ยวในถ้ำอัน เป็นที่อยู่ของนกนางแอ่น
โดยเด็ดขาด


บริเวณ ด้านหน้าของเกาะทางด้านทิศตะวันตกมีหาดทรายขาวยาวประมาณ 100เมตรเม็ดทรายค่อนข้างหยาบแต่น้ำใสสะอาดราวมรกต และเหนือบริเวณหาดทรายขึ้นมาเป็นกระท่อมของคนเฝ้ารังนกถัดขึ้นมาอีกหน่อย เป็นศาลาพักร้อนและห้องสุขาไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย


เกาะ ลังกาจิวเป็นเกาะหินปูนที่มีโตรกหินสูงชันเต็มไปด้วยโพรงถ้ำน้อยใหญ่มากมาย ซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรดานกนางแอ่นมากมายหลายแสนตัว ตลอดจนค้างคาวสมุนของแบทแมน แต่จุดเด่นที่สำคัญทางประวัติศาตร์อย่างหนึ่งบนเกาะลังกาจิวนี้ก็คือลายฝี พระหัตถ์จารึก จปร และรศ จำหลักอยู่บนแผ่นหินบริเวณด้านหน้าปากทางเข้าถ้ำนกนางแอ่น


จึง เป็นที่สันนิษฐานกันว่าในอดีตเมื่อ100กว่าปีที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5เคยเสด็จประพาสผ่านมายังเกาะลังกาจิวแห่งนี้ เมื่อปี ร.ศ.108 นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาท่องเที่ยวบนเกาะลังกาจิวจะต้องเชื่อฟังคำแนะ นำของคนเฝ้ารังนกโดยเคร่งครัดและจะต้องไม่เดินเข้าไปท่องเที่ยวในโพรงถ้ำอัน เป็นที่อยู่ของนกนางแอ่นโดยเด็ดขาด เกาะลังกาจิวเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปท่องเที่ยวบนเกาะได้ตั้งแต่ เวลา08.00-17.00 น. หลังจากนั้นจะไม่อนุญาตให้ขึ้นไปท่องเที่ยวบนเกาะโดยเด็ดขาดนอกจากนี้ในบาง เดือนที่อยู่ในฤดูที่นกนางแอ่นกำลังทำรังหรืออยู่ในระหว่างการเก็บรังนกซึ่ง ในช่วงเวลานี้อาจจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปท่องเที่ยวบนเกาะเพราะทำ ให้เจ้านกนางแอ่นตกใจกลัวทำให้กิดความเสียหายต่อผู้เช่าสัมปทานได้ บริเวณโดยรอบของเกาะลังกาจิวยังมีแนวปะการังและดอกไม้ทะเลสีสันสวยงามตลอดจน ฝูงปลาทะเลมากมายหลากหลายชนิดอาทิเช่นปลานกแก้ว ปลาการ์ตูนและปลาลายเสือฯลฯ
รูปปลาทะเล 4-5 รูป
วัน ดีคืนดีอาจจะได้เห็นฝูงปลาโลมาว่ายวนเวียนหาอาหารอยู่บริเวณโดยรอบของเกาะ ลังกาจิวก็ได้ เราสองคนใช้เวลาเดินเที่ยวเล่นบนหาดทรายพร้อมนั่งรับลมทะเลเย็นๆบริเวณศาลา พักร้อนบนเกาะลังกาจิวอยู่สักครู่ใหญ่


จาก นั้นจึงออกเดินทางต่อด้วยเรือหางยาวไปยังเกาะทองหลางซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก อ่าวทุ่งมะขามน้อยระยะทางประมาณ 2 กม.และระหว่างเดินทางสู่เกาะทองหลางเราสองคนเดินทางผ่านเกาะแรด และเกาะหลักแรดหาที่หลบแดดนั่งตกหมึกกับคุณชายรอบเกาะแรดเป็นที่สนุกสนานจน สมควรแก่เวลา


จาก นั้นจึงออกเดินทางมุ่งหน้าต่อไปยังเกาะทองหลางสำหรับเกาะทองหลางเป็นอีกเกาะ หนึ่งที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร


บน เกาะทองหลางไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะไม่มีนกนางแอ่นมาทำหลังอยู่บนเกาะ จึงไม่เป็นเกาะสัมปทานรังนกเหมือนเกาะลังกาจิวบริเวณด้านหน้าของเกาะทองหลาง ที่อยู่ตรงข้ามกับอ่าวทุ่งมะขามน้อยมีแนวหาดทรายขาวยาวประมาณ100เมตรบนชาย หาดร่มรื่นไปด้วยพืชพันธุ์ไม้นานาชนิดบรรยากาศเหมาะสำหรับตั้งเต็นท์พักแรม แบบแค้มปิ้งบนเกาะแต่มีข้อเสียตรงที่ว่าไม่มีแหล่งน้ำจืดนักท่องเที่ยวที่ เดินทางมาตั้งเต็นท์พักแรมแบบแค้มปิ้งจึงจะต้องเตรียมน้ำและเสบียงอาหารมา เองเพราะบนเกาะทองหลางไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น


เราสองคนลงไปเดินเล่นบริเวณหาดทรายของเกาะทองหลางจนสมควรแก่เวลาจากนั้นจึงออกเดินทางกลับมายังอ่าวทุ่งมะขามน้อยเมื่อเวลาแดดลมลมตก


จาก นั้นจึงมานั่งตกปลาพักผ่อนหย่อนใจกันที่หาดทรายอ่าวทุ่งมะขามน้อยเสียงวูด จากเรือเร็วลมพระยาเข้าเทียบท่าเรือบรรดานักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาจากเกาะเต่า พะงันและสมุยต่างขนสัมภาระขึ้นจากเรือหน้าเมืองจากนั้นจึงเดินเท้าตามสะพาน ไม้มาขึ้นรถโดยสารเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ


หลัง ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้วเราสองคนกลับเข้าสู่ห้องพักจัดการอาบน้ำชำระ ล้างคราบเกลือที่เกาะติดตัวมาตลอดทั้งวันจนสบายเนื้อสบายตัว


จาก นั้นจึงออกมานั่งรับประทานอาหารค่ำบริเวณห้องอาหารของM.T. RESORTที่ตั้งอยู่ติดกับชายหาดอ่าวทุ่งมะขามน้อยพร้อมชมความสวยงามของทะเล ชุมพรในยามค่ำคืนซึ่งในท้องทะเลเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับจากเรือไดหมึกที่ ลอยลำอยู่กลางทะเลเราสองคนนั่งชมความสวยงามยามค่ำคืน จนสมควรแก่เวลาได้เวลานอนหลับพักผ่อนกันแล้วครับขอกล่าวคำว่าราตรีสวัสดิ์ แต่เพียงเท่านี้ครับ....


พรุ่ง นี้เราสองคนจะพาท่านผู้อ่านขับรถเดินทางท่องเที่ยวเลียบชายหาดทะเล ชุมพรที่นักท่องเที่ยวหลายคนชมกันนักกันหนาว่าสวยงามเหลือเกินกันครับ.....
วันที่สองของการเดินทาง


 เช้าวันที่สองของการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดชุมพรเราสองคนนั่งรับประทาน อาหารเช้าพร้อมกับชมดวงอาทิตย์ที่กำลังค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า บริเวณแหลมสนปลายสุดของอ่าวทุ่งมะขามน้อยชึ่งสามารถมองเห็นเงาดำๆของเกาะลัง กาจิวตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก สำหรับแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกที่คุณชายจะพาเราสองคนเดินทางไปก็คืออุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะชุมพรซึ่งตั้งอยู่หางจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยระยะทางประมาณ 2 กม. คุณชายขับรถพาเราสองคนออกจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยผ่านอ่าวทุ่งมะขามใหญ่จากนั้น ขับรถตรงไปอีกเล็กน้อยก็เดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรซึ่งตั้ง อยู่ในตัวอำเภอเมืองลงไปทางทิศใต้ระยะทางประมาณ 22 กม.ชำระค่าธรรมเนียมคนละ10บาท


จาก นั้นจึงขับรถเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถของทางอุทยานฯ จากลานจอดรถพวกเราเดินเท้าไปตามสะพานไม้ที่ทอดยาวตรงไปยังอาคารศูนย์บริการ นักท่องเที่ยว


ซึ่ง ทางอุทยานฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งบอร์ดนิทรรศการแสดงถึงประวัติความเป็นมาของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ


สำหรับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวัน ที่24 กุมภาพันธุ์ พ.ศ 2542โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งสิ้น 198,125ไร่โดยมีเนื้อที่ตั้งแต่เกาะจระเข้ ในเขตอำเภอปะทิวเรื่อยไปยังเกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ เกาะเสม็ด เกาะมะพร้าว เกาะมัตรา เกาะทองหลาง เกาะลังกาจิว บริเวณอ่างทุ่งคาในเขตอำเภอเมืองและหมู่เหาะต่างในอำเภอสวีอำเภอทุ่งตะโก จนถึงอ่าวทองครกในอำเภอหลังสวน


พื้นที่ ของอุทยานฯครอบคลุมป่าชายเลน ภูเขา ท้องทะเล และหมู่เกาะต่างๆในทะเลชุมพรดังนั้นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรจึงหลากหลาย ไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวตลอดจนกิจกรรมที่น่าสนใจอาทิเช่นกิจกรรมดูนกบริเวณป่า ชายเลนเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ ฯลฯ


สำหรับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรมีชายหาดที่ทอดตัวยาวระยะทางมากกว่า100กม.ครอบ คลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลเกือบครึ่งหนึ่งของจังหวัดชุมพรมีชายหาดที่สวยงามน่า ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจเช่นหาดทุ่งวัวแล่นในอำเภอปะทิว หาดอรุโณทัยในอำเภอทุ่งตะโก หาดทรายรีอันเป็นที่ตั้งของศาลกรมหลวงชุมพรฯและจุดชมวิวบนเขาเจ้าเมืองที่ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหมู่เกาะชุมพรได้อย่างชัดเจน ซึ่งสภาพโดยรวมแล้วอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็น แหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและระบบนิเวศวิทยาสำหรับนักเรียนนักศึกษาและนัก ท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยบริเวณที่ทำการอุทยานได้จัดทำสะพานทางเดินศึกษา ธรรมชาติป่าชายเลนไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


โดย เริ่มต้นตั้งแต่บริเวณที่จอดรถทอดตัวผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยวผ่านแปลง ปลูกป่าโกงกางที่ทางอุทยานฯร่วมมือกันกับนักเรียนนักศึกษาและประชาชนชาว จังหวัดชุมพรร่วมแรงร่วมใจกันปลูกไว้


สะพาน จะทอดตัวยาวลดเลี้ยวไปตามป่าชายเลนตามธรรมชาติซึ่งอยู่เลียบลำคลองโดยมี สะพานลวดสลิงความยาว 72 เมตร ทอดข้ามเชื่อมไปยังอีกฝั่งหนึ่งของป่าชายเลนเพื่อนำทางเข้าสู่เส้นทางศึกษา ธรรมชาติโดยมีป้ายบอกเส้นทางและป้ายสื่อความหมายเกี่ยวกับสภาพป่าและสิ่งมี ชีวิตที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนแสดงเป็นระยะตลอดเส้นทางนอกจากนั้นตามโพรงถ้ำ บนเกาะต่างๆในเขตพื้นที่ของอุทยานฯหมู่เกาะชุมพรยังเป็นที่อยู่อาศัยและทำ รังของบรรดานกนางแอ่นอีกด้วยเช่นบนเกาะละวะและลังกาจิวที่เราสองคนเดินทางไป ท่องเที่ยวมาเมื่อวานนี้


สำหรับ พื้นที่ของอุทยานฯประกอบไปด้วยเกาะต่างๆมากกว่า40เกาะโดยเฉพาะเกาะบางเกาะมี จุดดำน้ำตลอดจนหาดทรายอันสวยงามน่าพักผ่อนหย่อนใจเช่นเกาะจระเข้ที่ตั้งอยู่ ทางตอนเหนือสุดของพื้นที่อุทยานฯสำหรับเกาะง่ามน้อยและเกาะง่ามใหญ่เป็นเกาะ สัมปทานรังนกนางแอ่นบริเวณโดยรอบเกาะมีแนวปะการังอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งดำน้ำ ตื้นและดำน้ำลึกที่น่าสนใจแห่งหนึ่งส่วนเกาะไข่ก็เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวย งามเป็นสุสานของปะการังจำนวนมากที่ถูกทำลายด้วยพายุเกย์เมื่อปีพ.ศ 2532นอกจากนี้แล้วภายในอุทยานฯหมู่เกาะชุมพรยังประกอบไปด้วยสังคมป่าบก อันได้แก่ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าชายหาดฯลฯและสังคมพื้นตามภูเขาและหน้าผาหินซึ่งสามารถจะพบพืชพรรณไม้ ทั้งหมดมากกว่า 145 ชนิด นอกจากนี้ยังมีสังคมป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์


สำหรับ ทรัพยากรสัตว์ป่าภายในเขตอุทยานฯจะพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่บนบก ถึง 20 ชนิดที่สำคัญได้แก่เลียงผาและค่างแว่นถิ่นใต้และนกต่างๆมากมายหลากหลายชนิด เช่นนกเหยี่ยว นกกก นกกลุ่มพูแดง ฯลฯส่วนสัตว์เลื้อยคลานพบทั้งหมด 26 ชนิดในจำนวนนี้มีเต่าทะเลเช่นเต่าตนุและเต่ากระ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรทางอุทยานฯได้ จัดเตรียมบ้านพักรับรองไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวหลายหลังรวมทั้งสถานที่ กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบแค้มปิ้ง รายละเอียดสอบถามได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ตู้ป.ณ. 8 ปากน้ำชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร86120 หรือโทรศัพท์โทรสาร 077 558 144 เราสองคนเดินเที่ยวชมความสวยงามตามธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะ ชุมพรจนสมควรแก่เวลาจากนั้นคุณชายก็พาพวกเราออกเดินทางต่อไปตามเส้นทางหลวง หมายเลข4001จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4098 จนมาถึงหาดทรายรี


สำหรับ หาดทรายรีแห่งนี้นับได้ว่าเป็นหาดยอดนิยมแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร งานเปิดโลกทะเลชุมพรที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีก็จะมาจัดกันบนหาดทรายรีแห่ง นี้ซึ่งนอกจากจะเป็นหาดที่สวยงามและยอดนิยมแล้วบริเวณหาดทรายแห่งนี้ยังเป็น ที่ตั้งของอนุสรณ์สถานของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดม ศักดิ์ พระราชบิดาแห่งกองทัพเรือไทย



ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของชาวชุมพรตลอดจนประชาชนชาวไทยทั่วไปบริเวณหาดทรายรีแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ของพระองค์
ตัว ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ตั้งอยู่บนเรือรบหลวงพระร่วงจำลองตั้งเด่นเป็น สง่าอยู่บนเนินเขาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสู่ท้องทะเลอ่าวไทย

ภายใน ประดิษฐานพระบรมรูปของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์และถูกจัดให้เป็น พิพิธภัณฑ์แสดงถึงพระราชประวัติความเป็นมาของพระองค์ท่านรวมทั้งจัดแสดง ข้าวของเครื่องใช้ของพระองค์ในขณะที่ยังคงดำรงพระชนม์ชีพอยู่และบริเวณก่อน ถึงอนุสรณ์สถานของกรมหลวงชุมพรฯมีทางเดินเท้าขึ้นไปยังสวนสมุนไพรของหมอพร เป็นแหล่งรวบรวมสมุนไพรไทยมากมายหลากหลายชนิดเพื่อเป็นการสืบทอดเจนตารมณ์ ของกรมหลวงชุมพรฯที่ทรงใช้ในการแพทย์รักษาประชาชนทั่วไป


เสียง จุดประทับจากประชาชนที่เดินทางมากราบสักการบูชาพระบรมรูปของพระองค์ท่านดัง สนั่นหวั่นไหวบริเวณด้านหน้าของอนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นระยะตั้งแต่เช้าจรด ค่ำคือพลังแห่งศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระองค์ท่าน


กล่าว กันว่ากรมหลวงชุมพรฯท่านทรงโปรดปรานเสียงปืนเมื่อครั้งที่พระองค์ท่านยังคง ดำรงพระชนม์ชีพอยู่ ซึ่งแสดงถึงความเป็นชายชาติทหารของท่าน


และ จากจุดชมวิวบนอนุสรณ์สถานของพระองค์ท่านสามารถมองเห็นแนวชายหาดทรายรีโค้ง เว้ายาวเป็นอ่าวสวยหาดทรายกว้างเป็นแนวยาวสุดสายตาพานอราม่าหาดทรายยาวไปจน ถึงที่ศาลปู่โสมความยาวประมาณ3กม.


สามารถ ลงเล่นน้ำและเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างปลอดภัย เบื้องหน้าของหาดทรายรีมองเห็นเกาะๆหนึ่งซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง เท่าใดนักก็คือ เกาะมะพร้าวเป็นเกาะสัมปทานรังนกนางแอ่นของบริษัทรังนกซีโฟร์ ตั้งอยู่ห่างจากหาดทรายรีระยะทางประมาณหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้นเองริมชายหาดมี เขื่อนปูนซีเมนต์เป็นแนวยาวตลอดแนวชายหาดกำบังคลื่นมีบันไดปูนสามารถเดินลง มาบริเวณชายหาดร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวที่ขึ้นเรียงรายตลอดแนวชายหาดบริเวณ สองฟากฝั่งถนนเลียบชายหาดเรียงรายไปด้วยเพิงขายอาหารของชาวบ้านเรียงรายไปจน ถึงสุดปลายถนน ในทุกๆวันหยุดสุดสัปดาห์มักจะมีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านเดินทางมาพักผ่อน หย่อนใจชมวิวทิวทัศน์นอนรับลมทะเลและรับประทานอาหารทะเลสดๆกันเป็นจำนวนมาก เราสองคนกราบนมัสการพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์เป็นที่เรียบร้อย แล้ว จากนั้นจึงลงมาเดินเที่ยวชมเรือรบลวงชุมพรเป็นเรือตอร์ปิโดขนาดใหญ่โดยมี ความยาว 68 เมตร กว้าง6.5เมตรได้ถูกขึ้นระวางประจำการเมื่อปีพ.ศ.2481


ใน อดีตเรือรบตอร์ปิโดลำนี้จะมีหน้าที่คอยคุ้มกันเรือลำเลียงพลในขณะทำการยกพล ขึ้นบกและทำการลาดตระเวนตามชายฝั่งป้องกันการโจมตีของข้าศึกต่อมาได้ทำการ ปลดประจำการเมื่อวันที่26พฤศจิกายน พ.ศ2518 อ จากนั้นทางกองทัพเรือได้ทำการมอบเรือรบหลวงชุมพรให้ทางจังหวัดชุมพรนำมาจอด ทอดสมอบกไว้ชั่วนิรันดร์ที่บริเวณหาดทรายรีเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และพระเกียรติคุณของพระองค์ที่ทรงทำคุณประโยชน์นานานับประการให้กับประชาชน ชาวไทยและกองทัพเรือไทยสำหรับบริเวณสถานที่จัดแสดงเรือรบหลวงชุมพรลำนี้เท ด้วยพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นลานกว้างโดยรอบลำเรือสามารถเดินเที่ยวชมได้ โดยสะดวกนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการบูชาศาลกรมหลวงชุมพรฯเสร็จมักจะ เดินทางมาเที่ยวชมเรือรบหลวงชุมพรลำนี้กันเป็นประจำหลังจากนั้นคุณชายก็พา เราสองคนเดินทางต่อไปยังเขาเจ้าเมืองซึ่งใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางหาด ทรายรีโดยมีถนนเลียบชายหาดหาดทรายรีจากนั้นจะมีเส้นทางถนนแยกขวามือเป็นถนน ขึ้นเขาระยะทางประมาณ1กม.ตลอดเส้นทางมีป้ายแสดงทางขึ้นเขาเจ้าเมืองอยู่ตลอด เส้นทางจนถึงลานจอดรถ คุณชายจอดรถไว้ที่ลานจอดรถจากนั้นพาเราสองคนเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวบนเขา เจ้าเมือง


สำหรับ จุดชมวิวบนเขาเจ้าเมืองแห่งนี้มีลักษณะเป็นเนินเขาสูงตั้งอยู่ริมทะเลบริเวณ หาดทรายรีบนเขาเจ้าเมืองมีจุดชมวิวนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์เกาะ แก่งต่างๆในหมู่เกาะทะเลชุมพรได้อย่างชัดเจนสุดสายตาพานอราม่าโดยฉพาะเกาะ จระเข้เกาะสัมปทานรังนกที่ตั้งอยู่ห่างจากหาดทรายรีระยะทางเพียง1 กม.ได้อย่างชัดเจน


นอก จากนี้บนจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีการปรับแต่งภูมิทัศน์ให้นักท่องเที่ยวชมวิว ทิวทัศน์ได้อย่างสะดวกสบายและยังมีศาลาพักร้อนและร้านจำหน่ายอาหารเครื่อง ดื่มให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจพร้อมรับประทานอาหารอีกด้วยนอก จากนี้ทางอุทยานฯหมู่เกาะชุมพรยังได้จัดทำเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติบน เขาเจ้าเมืองโดยเริ่มต้นเดินศึกษาธรรมชาติซึ่งมีพืชพรรณไม้มากมายหลากหลาย ชนิดให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้เช่น เตยทะเล หวาย ต้นกระทิง ต้นตีนเป็ดฯลฯโดยมีป้ายสื่อความหมายอธิบายตลอดเส้นทางเดินเท้าซึ่งจะใช้เวลา เดินเท้าประมาณ 30นาที


หลัง จากเดินศึกษาธรรมชาติกันจนสมควรแก่เวลาแล้วจากนั้นจึงเดินมานั่งพักผ่อน หย่อนใจกันบริเวณร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนจุดชมวิวบนเขาเจ้าเมือง ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วเรามาหาอาหารกลางวันกันดีกว่า ร้านอาหารลุยคือร้านที่พวกเราแวะมาหาอาหารกลางวันรับประทานกันในมื้อนี้ร้าน อาหารลุยตั้งอยู่บริเวณริมชายหาดอ่าวภราดรภาพในตำบลปากน้ำอำเภอเมือง จังหวัดชุมพร


ร้าน อาหารลุยเป็นร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงร้านหนึ่งในจังหวัดชุมพรมีเมนูอาหาร ทะเลสดๆให้นักท่องเที่ยวได้เลือกรับประทานมากมายหลากหลายชนิดอาทิเช่นกุ้ง ผัดกะปิสะตอ แกงส้มปลากระบอกผัดเผ็ดปลาดุกทะเล ปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทย ฯลฯเมนูอาหารส่วนใหญ่รสชาติจัดจ้านตามสไตล์อาหารใต้ที่นิยม


รับ ประทานอาหารประเภทรสชาติจัดจ้านสนใจอยากลองลิ้มชิมรสเมนูอาหารของร้านอาหาร ลุยติดต่อสอบถามเส้นทางไปร้านอาหารลุยได้ที่โทรศัพท์ 077 521 235 ,077 522 233 ถ้ามีเวลาว่างขับรถมาเที่ยวจังหวัดชุมพรแล้วขับเลียบชายหาดผ่านไปยัง อ่าวภราดรภาพก็ลองแวะเข้าไปลองชิมดูสักหนึ่งมื้อก็ได้น่ะครับเจ้าของ ฝากบอกเราสองคนมาว่า “อร่อยตายไม่คิดตังค์ครับ” และจากบริเวณระเบียงของร้านอาหารลุยสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของชายหาด อ่าวภราดรภาพได้อย่างชัดเจนและถ้ามองออกไปในทะเลเบื้องหน้าจะมองเห็นเกาะ เสม็ดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกห่างจากหาดภราดรภาพ


ระยะทางประมาณ 2 กม.เกาะเสม็ดแห่งนี้เป็นเกาะเสม็ดในจังหวัดชุมพรอย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกาะเสม็ดในจังหวัดระยองเข้าน่ะครับ
เกาะ เสม็ดเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เกาะหนึ่งในทะเลชุมพรโดยมีพื้นที่ประมาณ 5,275ไร่ภูมิประเทศส่วนใหญ่บนเกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ราบประมาณสองส่วน มีภูเขาอยู่เยียงหนึ่งส่วนแบ่งเป็นพื้นที่ทำกสิกรรมเสีย 700ไร่โดยมีการทำสวนมะพร้าวเป็นอาชีพหลักบนเกาะปีไหนราคามะพร้าวดีชาวบ้านก็ แฮปปี้หน้าบานกันทั่วทั้งเกาะตรงกันข้ามถ้าปีไหนราคามะพร้าวตกต่ำชาวบ้านก็ หน้าแห้งกันทั่วทั้งเกาะเหมือนกัน
แต่ชาวบ้านก็มีอาชีพเสริมคือการทำ ประมงพื้นบ้านบนเกาะเสม็ดมีบ้านเรือนของชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะไม่กี่หลังคา เรือนส่วนใหญ่ประกอบกาชีพทางการทำสวนมะพร้าวและประมงบนเกาะเสม็ดด้านที่อยู่ ตรงข้ามกับหาดภราดรภาพมีหาดทรายอยู่เพียงไม่กี่แห่งนอกนั้นเป็นโขดหินส่วน หาดที่สวยที่สุดนั้นเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทแห่งหนึ่งมีชื่อว่าชุมพรเสม็ด ไอร์แลนด์รีสอร์ทมีบังกะโลบ้านพักอยู่17หลังทั้งหมดในราคาที่เริ่มต้น ตั้งแต่1.000-2,500บาทติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 02 6167323 ,02 290 4398 หลังจากเอร็ดอร่อยกับเมนุอาหารจานเด็ดของร้านลุยเป็นที่เรียบร้อยแล้วจาก นั้นคุณชายก็ขับรถพาเราสองคนเดินทางไปตามถนนเพชรเกษมบริเวณกม.ที่453 เป็นที่ตั้งของพ่อตาหินช้างที่เคารพสักการบูชาของชาวชุมพรตลอดจนประชาชนที่ ขับรถผ่านไปมาบริเวณนี้มักจะบีบแตรรถยนต์เมื่อขับรถผ่านมายังศาลพ่อตาหิน ช้าง


ถือเป็นการแสดงความเคารพบูชาเพื่อให้พ่อตาหินช้างอำนวยอวยชัยให้เดินทางโดยปลอดภัย


คุณ ชายพาพวกเราขับรถผ่านอำเภอท่าแซะและอำเภอปะทิวโดยใช้เส้นทางถนนเพรชเกษม จากนั้นเลี้ยวขวาบริเวณกม.ที่426 เข้าไปตามถนนระยะทางประมาณ 21 กม.ผ่านโครงการพระราชดำริในที่สุดคุณชายก็พาเราเดินทางมาถึงอ่าวบางเบิด


ซึ่ง เป็นอ่าวที่มีชายหาดยาวติดต่อกับชายหาดในอำเภอบางสะพานน้อยในจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์สำหรับหาดบางเบิดเป็นหาดแรกในเขตจังหวัดชุมพรตั้งอยู่ทางตอนเหนือ อยู่ติดกับหาดถ้ำธงหาดบางเบิดตั้งอยู่ในอำเภอปะทิวห่างจากตัวเมืองปะทิว ระยะทางประมาณ55กม.


หาด บางเบิดเป็นชายหาดกว้างมีเม็ดทรายสีขาวนวลทอดตัวยาวขนานคู่ไปกับทิวสนที่ ขึ้นเรียงรายตลอดแนวชายหาดระยะทางประมาณ10กม.ไปจนสุดแนวชายหาดที่บ้านถ้ำธง มีหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆอยู่หลายหลังคาเรือนใกล้กันนั้นมีสะพานท่าเทียบเรือ ประมงที่สร้างขึ้นด้วยซีเมนต์ทอดตัวยาวลงไปในทะเลระยะทางประมาณ 100 เมตร


เป็น จุดชมวิวที่ดีสามารถมองเห็นดวามโค้งเว้าของอ่าวบางเบิดได้ทั้งอ่าวส่วนทาง ด้านขวามือของสะพานท่าเทียบเรือมีภูเขาสูง บนสุดของภูเขามีถ้ำเล็กๆเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิมีศาลอยู่หน้าถ้ำเป็นที่สักการ บูชาของชาวบ้านในบริเวณนั้น บริเวณชายหาดบางเบิดบางส่วนเป็นที่ตั้งของโครงการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คุณชายพาเราสองคนขับรถเลียบชายหาดบางเบิดมาจนมาถึง ณ จุดชมวิวเนินทรายงาม

จาก นั้นจัดการจอดรถไว้ข้างทางจากนั้นจึงเดินเท้าไปตามบันไดหินเส้นทางคดเคี้ยว จนในที่สุดก็มายืนอยู่บนจุดชมวิวเนินทรายงามจากจุดชมวิวสามารถชมวิวทิวทัศน์ อันสวยงามแบบสุดสายตาพานอราม่าประกอบกับท้องฟ้าในวันนี้อากาศสดใสรู้เห็น เป็นใจให้กับพวกเราบันทึกภาพอันสวยงามของอ่าวบางเบิดอย่างเต็มอิ่มมาฝาก ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวยังอ่าวบางเบิดในจังหวัดชุมพร ว่ามีความสวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชายหาดใดๆในประเทศไทย


หาด บางเบิดที่มีลักษณะโค้งเว้าเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเม็ดทรายที่ขาวนวล ละเอียดน้ำทะเลที่ใสประดุจดั่งมรกต ทิวสนทะเลที่ให้ความร่มรื่นเรียงรายตลอดแนวชายหาดเหมาะสำหรับการพักผ่อน หย่อนใจเดินเที่ยวชมบนชายหาดแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง


สม แล้วกับคำร่ำลือที่ว่าจังหวัดชุมพรป็นจังหวัดที่มีชายหาดที่มีความยาวที่สุด ในประเทศไทยคือมีความยาวถึง 222 กม. สำหรับหาดทรายด้านล่างที่ขาวสะอาดและงดงามของอ่าวบางเบิดแล้วยังมีรูปแกะ สลักหินทรายประติมากรรมอันได้สัดส่วนและสวยงามของฝูงปลาโลมาหัวบาตรตั้งแสดง ไว้บริเวณชายหาดบางเบิดอีกด้วย


เรา สองคนช่วยกันบันทึกภาพบนจุดชมวิวเนินทรายงามบนหาดบางเบิดจนสมควรแก่เวลาจาก นั้นจึงออกเดินทางเลียบชายหาดบนถนนหมายเลข3253 ปะทิว-บางจากแลเห็นรูปเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าหันหน้าออกสู่ ท้องทะเลทางทิศตะวันออก


ใน สำนักสงฆ์แก้วประเสริฐซึ่งมีฮวงจุ้ยที่ดีตามคติความเชื่อของจีนโบราณคือด้าน หน้าติดภูเขาด้านหลังติดทะเลภายในสำนักสงฆ์แก้วประเสริฐแห่งนี้บรรยากาศ ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่กลิ่นธูปควันเทียนลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณสำนัก สงฆ์แห่งนี้


ซึ่งภายใน มีห้องโถงขนาดใหญ่ใช้เป็นที่นั่งวิปัสสนากรรมฐานและศึกษาธรรมะสำนักสงฆ์แก้ว ประเสริฐเป็นที่เคารพบูชาของชาวชุมพรและประชาชนทั่วไปเดินทางมากราบไหว้ สักการบูชาไม่ขาดสายในแต่ละวันส่วนบริเวณเนินเขาทางด้านข้างของสำนักสงฆ์ แก้วประเสริฐเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์


ส่วนบริเวญด้านหน้าทำเป็นระเบียงยื่นออกมาเป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหมู่เกาะทะเลชุมพรได้แบบสุดสายตาพานอราม่าอีกด้วย


คุณ ชายพาเราสองคนเดินเที่ยวชมภายในของสำนักสงฆ์แก้วประเสริฐจนสมควรแก่เวลาจาก นั้นคุณชายก็พาเราสองคนเดินทางต่อไปยังถนนเลียบชายหาดสาย 3253 มีป้ายบอกเส้นทางไปยังอ่าวทุ่งซาง บรรยากาศ

ภายใน อ่าวทุ่งซางร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวน้อยใหญ่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจนั่ง รับลมทะเลเล่นเย็นๆใจจากอ่าวทุ่งซางคุณชายพาเราสองคนเดินทางต่อมายังหาดยาย ไฮ้ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากอ่าวทุ่งซางไม่ไกลเท่าใดนัก


พวก เราเดินทางมายังอ่าวยายไฮ้ในช่วงเวลาน้ำทะเลลดลงมากๆชาวบ้านจึงออกมาเดินหา หอยกลมกันบริเวณชายหาดอ่าวยายไฮ้ซึ่งมีลักษณะเป็นหาดทรายผสมหาดหินสำหรับ หอยกลมที่ชายบ้านจับได้นิยมนำไปต้มกะทิรสชาติอร่อยดีนักแล


เราสองคนเดินเที่ยวชมชาวบ้านเก็บหอยกลมอยู่สักครู่ใหญ่จากนั้นจึงออกเดินทางไปตามถนนหมายเลข 3201เส้นทางเดียวกันกับไปสนามบินชุมพร


สำหรับ วัดถ้ำเขาพลูตั้งอยู่ในตำบลชุมโคอำเภอปะทิวห่างจากตัวอำเภอปะทิวระยะทาง ประมาณ17กม.ภายในวัดถ้ำเขาพลูมีพื้นที่ติดต่อกับแนวเขาพลูซึ่งเป็นที่มาของ ชื่อวัดสำหรับแนวเขาพลูมีโพรงถ้ำเว้าลึกเข้าไปในภูเขาปัจจุบันมีพื้น ซีเมนต์ยกสูงมีบันไดซีเมนต์อยู่สุงจากพื้นดิน50เมตรภายในถ้ำเป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ด้วยกัน สำหรับจุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของการที่ได้มีโอกาสเดินทางมาท่อง เที่ยวยังวัดถ้ำเขาพลูก็คือการที่ได้มาชมค่างแว่นถิ่นใต้


ซึ่งอาศัยอยู่บนเขาพลูสามฝูงมักจะหอบลูกจูงหลานลงจากเขาพลูมาทำมาหากินกันบริเวณลานวัดในช่วงเวลาเช้าและเย็นของทุกวัน


ซึ่งในแต่ละวันจะมีชาวบ้านนำอาหารอาทิเช่น กล้วย ถั่วฝักยาวมาแจกจ่ายให้กับเหล่าสมุนหนุมานได้กินกันเป็นที่อิ่มหนำสำราญ


ผม สอบถามพระลูกวัดแห่งวัดถ้ำเขาพลูได้ความว่าค่างแว่นถิ่นใต้เหล่านี้จะอาศัย อยู่บนเขาพลูและจะลงมาหาอาหารในตอนเช้าและเย็นของทุกวันโดยไม่มีใครมารังแก หรือทำอันตรายต่อค่างแว่นถิ่นใต้เหล่านี้
นอกจากบางตัวอาจซุ่มซ่ามโชว์กายกรรมอวดค่างแว่นสาวห้อยโหนโจนทะยานเห็นสายไฟแรงสูงเป็นเถาวัลย์ถูกไฟฟ้าช๊อตตกลงมาตายบนลานวัดเป็นประจำ


จาก นั้นเรานำถั่วฝักยาวที่ซื้อติดไม้ติดมือมาแจกจ่ายให้กับเหล่าสมุนหนุมานได้ กินกันจนอิ่มหนำสำราญ จากนั้นคุณชายก็พาเราสองคนออกเดินทางต่อไปยังวัดเขาเจดีย์ซึ่งอยู่ห่าง จากวัดถ้ำเขาพลูระยะทางประมาณ4 กม.จากสี่แยกเข้าเขตตำบลชุมโคจากนั้นเลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟไปทางวัดเขาเจดีย์ ระยะทางประมาณ 1 กม.มีป้ายบอกทางชัดเจน


พวก เรามองเห็นองค์พระพุทธรูปยืนคู่กับเจดีย์สีขาวตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา จากนั้นคุณชายพาเราสองคนขับรถขึ้นไปยังเส้นทางขึ้นเขาอันคดเคี้ยววกวนระยะ ทางประมาณ1กม.ในที่สุดก็เดินทางมาถึงบนยอดสุดของวัดเขาเจดีย์จากนั้นจึงลง จากรถเดินลงมาเที่ยวชมบริเวณโดยรอบของวัดเขาเจดีย์ซึ่งมีพระพุทธรูปปางห้าม สมุทรขนาดใหญ่คือพระบูรพาบรรพตหันหน้าไปทางทิศตะวันออกส่วนขวามือมีเจดีย์สี ขาวระฆังคว่ำตั้งอยู่บนฐานย่อมุมถัดจากเจดีย์เป็นศาลาจัตุรมุขภายในมีรอย พระพุทธบาทจำลองตั้งอยู่บนมณฑปไม้สำหรับ

จุด เด่นที่น่าสนใจบนเขาเจดีย์แห่งนี้คือการที่ได้ขึ้นมาเยี่ยมชมบนจุดชมวิวแห่ง นี้ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองปะทิวได้ทั้งหมดส่วนทางทิศเหนือมอง เห็นเทือกเขาพลูทางทิศตะวันตกมองเห็นเทือกเขาแมวด้านทิศใต้มองเห็นเทือกเขา ดินสอส่วนทางทิศตะวันออกมองเห็นชายฝั่งทะเลปะทิวและถ้าในวันที่ท้องฟ้าปลอด โปร่งแจ่มใสอากาสเป็นใจจะสามารถมองเห็นเกาะไข่ได้อย่างชัดเจนนอกจากนี้ยัง เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย พวกเราใช้เวลาชมวิวทิวทัศน์บนเขาเจดีย์จนสมควรแก่เวลาจากนั้นคุณชายจึงขับรถ พาเราลงมาจากวัดเขาเจดีย์มุ่งหน้าต่อไปยังท่าเรือสะพลีที่ตั้งอยู่ในอำ เภอปะทิวท่าเรือสะพลีในยามแดดล่มลมตก


ท่า เรือสะพลีเป็นท่าเรือชาวประมงขนาดเล็กตั้งอยู่ในชุมชนชาวประมงสะพลีในอำ เภอปะทิวห่างจากตัวเมืองชุมพรระยะทางประมาณ22 กม. คุณชายขับรถพาเราสองคนข้ามสะพานคอนกรีตคลองท่าเสม็ดจนในที่สุดก็เดินทางมา ถึงหมู่บ้านชาวประมงสะพลีเราสองคนลงจากรถเดินเล่นที่บริเวณท่าเรือประมงสะ พลี


ซึ่ง จากท่าเรือแห่งนี้เราสามารถมองเห็นชายหาดขาวเป็นแนวยาวไปจนจรดหาดทุ่งวัว แล่นในอำเภอปะทิวซึ่งอยู่ห่างระยะทางประมาณ2 กม.โดยมีเทือกเขาพลูทอดตัวเป็นแนวยาวรูปทรงสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง


ใน บรรยากาศแดดร่มลมตกเช่นนี้ช่างเป็นภาพที่สวยงามเสียยิ่งกระไร บริเวณชายหาดสามารถลงเล่นน้ำได้โดยเฉพาะในช่วงเวลาน้ำทะเลลดลงมากๆจะแลเห็น บรรดาเด็กๆมาเล่นฟุตบอลกันบริเวณหาดทรายใกล้กับท่าเทียบเรือเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้แล้วชายหาดสะพลียังมีแนวปะการังเทียมวางเป็นแนวยาวคู่ขนานไปกับท่า เรือสะพลีเพื่อป้องกันคลื่นลมทะเลกัดเสาะบริเวณชายฝั่ง


บรรยากาศ ยามเย็นบริเวณท่าเรือสะพลีเงียบสงบไม่พลุกพล่านมีร้านขายของฝากอาทิเช่นปลา แห้ง หมึกแห้งและกะปิรสดีของสะพลีที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นของ ฝากกันเป็นประจำบริเวณด้านหน้าของชุมชนบ้านสะพลีมีถนนเลียบหาดผ่านด้านหน้า ชุมชนยาวไปจนถึงบ้านท่าเสม็ด บริเวณชุมชนบ้านสะพลีแห่งนี้มีร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของโชว์ห่วยและบางวันก็มีตลาดนัดเปิดท้ายขายของให้บริการชาวบ้านได้ มาจับจ่ายซื้อของกินของใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย


เราสองคนใช้เวลาเดินเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้านสะพลีจนดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าได้เวลาเดินทางกลับM.T. RESORTที่อ่าวทุ่งมะขามน้อยกันแล้ว


หลัง จากที่เดินทางกลับมาที่ M.T. RESORT ได้พักล้างหน้าล้างตาแล้วก็มารับประทานอาหารมื้อค่ำที่คุณชาย ได้จัดเตรียมไว้ให้ หลังจากจัดการกับอาหารค่ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


1เรา สองคนจึงขอตัว กลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้คุณชายบอกเราว่าจะพาเราสองคนไปท่องเที่ยวยังเกาะพิทักษ์ในอำ เภอหลังสวนกัน เกาะที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเกาะที่มีรูปแบบการท่องเที่ยวและกิจกรรม แบบHOMESTAYที่ประสบความสำเร็จแห่งหนึ่งในประเทศไทย


สำหรับวันนี้เราสองคนขอกราบลาท่านผู้อ่านแต่เพียงเท่านี้ครับ ....
วันที่สามของการเดินทาง


 เช้าวันที่สามแห่งการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดชุมพร หลังจากอาหารเช้าคุณชายเจ้าของ M.T. RESORT ก็พาเราสองคนเดินทางจากอ่าวทุ่งมะขามน้อยมุ่งหน้าสู่เกาะพิทักษ์ซึ่งตั้ง อยู่ในอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพรห่างจากตัวเมืองชุมพรระยะทางประมาณ 76 กม.คุณชายพาเราสองคนขับรถไปตามถนนเลียบชายหาดหมายเลข 4003 ผ่านหาดทรายสวีหาดทรายที่สวยงามที่สุดในอำเภอสวีบรรยากาศเงียบสงบน่าพัก ผ่อนหย่อนใจมีบ้านเรือนของชาวประมงปลูกอยู่เป็นระยะๆจากนั้นจึงเข้าสู่อำ เภอทุ่งตะโกอำเภอที่เล็กที่สุดในจังหวัดชุมพรและเป็นที่ตั้งของหาด อรุโณทัยหาดที่สวยงามที่สุดในอำเภอทุ่งตะโก


แนว ชายหาดขาวมีความยาวประมาณ6 กิโลเมตรน้ำใสหาดทรายขาวบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่นไปด้วยทิวสนและต้นมะพร้าว เรียงรายอยู่ตลอดแนวชายหาดสุดถนนมีศาลของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์เช่น เดียวกับหาดทรายรีด้านข้างศาลมีซากของเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ที่ว่ายขึ้นมาตาย เกยชายหาดเมี่อปีพ.ศ 2529นำมาสต๊าฟไว้ในตู้กระจกใกล้ๆกันนั้นเป็นลานอเนกประสงค์ไว้ให้ประชาชน ทั่วไปได้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันในยามแดดร่มลมตก


จาก นั้นคุณชายก็พาเราสองคนเดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอหลังสวนสอบถามรายละเอียด จากเจ้าหน้าที่อำเภอหลังสวนถึงการเดินทางไปยังเกาะพิทักษ์ซึ่งได้รับข้อมูล และคำแนะนำว่า เกาะพิทักษ์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในตำบลบางน้ำจืดอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร ห่างจากอำเภอหลังสวนระยะทางประมาณ 20 กม.จากนั้นจะต้องนั่งเรือหางยาวจากอ่าวครกซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเกาะพิทักษ์ไป อีกประมาณ10 นาทีระยะทางห่างจากฝั่งประมาณ 1กม.ก็จะถึงเกาะพิทักษ์แต่ถ้าพวกเราต้องการความสะดวกในการถ่ายทำสารคดีแนะนำ เกาะพิทักษ์ให้ติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านอำพล ธานีครุฑ หรือชื่อเล่นว่าผู้ใหญ่หรั่งโทรศัพท์ 081 093 1443 เราสองคนกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำอำเภอหลังสวนที่ให้คำแนะ นำที่ดีแก่พวกเราในการเดินทางสู่เกาะพิทักษ์


จาก นั้นคุณชายก็พาพวกเราออกเดินทางสู่ท่าเรืออ่าวครกในตำบลบางน้ำจืดอำเภอหลัง สวนซึ่งถือได้ว่าเป็นประตูสู่เกาะพิทักษ์ใช้เวลาไม่นานนัก พวกเราก็เดินทางมาถึงท่าเรืออ่าวครกได้พบกับผู้ใหญ่หรั่งผู้ใหญ่บ้านแห่ง เกาะพิทักษ์ที่มารอให้การต้อนรับพวกเราที่บริเวณท่าเรืออ่าวครก


หลัง จากทักทายแนะนำตัวพวกเราให้ผู้ใหญ่หรั่งได้รู้จักแล้วจากนั้นจึงนั่งเรือหาง ยาวของชาวบ้านมุ่งหน้าสู่เกาะพิทักษ์ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวครกระยะทางประมาณ 1กม.โดยใช้เวลาเดินทางเพียง10นาทีเท่านั้นก็จะถึงท่าเทียบเรือเกาะพิทักษ์ และในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธุ์ถึงเมษายนน้ำทะเลลดระดับลงมากๆจะสามารถ เดินเท้าจากท่าเรืออ่าวครกไปยังเกาะพิทักษ์ได้โดยสะดวกส่วนนักท่องเที่ยวที่ มีความประสงค์จะเดินทางไปยังเกาะพิทักษ์สามารถติดต่อเรือหางยาวรับจ้างของ ชาวบ้านที่บริเวณอ่าวครกเดินทางไปยังเกาะพิทักษ์ได้ในอัตราค่าบริการคนละ10 บาท ผู้ใหญ่หรั่งพาพวกเราเดินตามทางมายังบ้านพักแบบโฮมเสตย์


ซึ่งนอกจากจะมีพวกเราแล้วยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยหลายคนเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะพิทักษ์อีกด้วย


ผู้ ใหญ่หรั่งพาพวกเราเดินเท้าเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบ กิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์บนเกาะพิทักษ์ ระหว่างเดินเที่ยวชมชุมชนบนเกาะโฮมสเตย์ผู้ใหญ่หรั่งได้เล่าเรื่องราวของ เกาะพิทักษ์ให้พวกเราฟังว่า


เกาะ พิทักษ์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่14 ตำบลบางน้ำจืดในอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพรห่างจากตัวเมืองชุมพรระยะทาง ประมาณ70กม.และห่างจากปากน้ำหลังสวนระยะทางเพียง8 กม.เท่านั้นในอดีตเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาชาวบ้านเรียกเกาะพิทักษ์ว่า “เกาะผีทัก”


ซึ่ง มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า เคยมีชาวบ้านเดินทางมาหาปลากันบริเวณโดยรอบเกาะพิทักษ์ซึ่งในขณะนั้นบนเกาะ พิทักษ์ยังไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะแทบจะเรียกว่าเป็นเกาะร้างก็ว่าได้ ชาวบ้านซึ่งกำลังหาปลาอยู่บนเรือมองเห็นคนบนเกาะพิทักษ์กำลังกวักมือเรียก ให้เข้าไปหา แต่เมื่อหันหัวเรือเข้าไปยังเกาะพิทักษ์แล้วกลับไม่เห็นใครเลยสักคน


ตั้งแต่ นั้นมาชาวบ้านจึงเรียกเกาะแห่งนี้ว่าเกาะผีทัก จวบจนเวลาล่วงเลยมานานหลายสิบปีชาวบ้านบนฝั่งได้ทำการอพยพย้ายถิ่นฐานลงไปทำ มาหากินบนเกาะผีทักแห่งนี้หลายครัวเรือนและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจนกลาย มาเป็นชุมชนชาวประมงขนาดใหญ่ดั่งที่เห็นในปัจจุบันนี้และตั้งแต่บัดนั้นเป็น ต้นมาเกาะผีทักจึงถูกเปลี่ยนชื่อใหม่มาเป็น “เกาะพิทักษ์”จนตราบเท่าทุกวันนี้


เกาะพิทักษ์มีพื้นที่ประมาณ 712ไร่มีชุมชนอาศัยอยู่บนเกาะประมาณ42 ครัวเรือนชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธอาชีพหลักก็คือการทำประมง


ส่วน อาชีพรองลงมาก็คือการทำสวนมะพร้าวและเนื่องจากเกาะพิทักษ์เป็นเกาะเล็กๆจึง ไม่มีวัด สำนักสงฆ์และโรงเรียนบนเกาะแต่ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาชาวบ้านบนเกาะ พิทักษ์จะร่วมแรงร่วมใจกันเดินทางจากเกาะขึ้นมาประกอบกิจกรรมทางพระพุทธ ศาสนากันบนฝั่งตลอดจนนักเรียนก็จะเดินทางลงเรือมาเรียนหนังสือบนฝั่งซึ่ง อยู่ห่างจากฝั่งระยะทางประมาณ1 กม.เท่านั้นบนเกาะพิทักษ์มีเส้นทางเดินเท้าสามารถเดินเท้าท่องเที่ยวได้ทั่ว ทั้งเกาะซึ่งทางทิศตะวันออกมีชายหาดขาวยาวประมาณ200เมตรบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ


ถัด จากหาดทรายขึ้นมามีพื้นที่ป่าชายหาดมีเนื้อที่4-5ไร่บรรยากาศร่มรื่นไปด้วย พืชพรรณไม้ป่าชายหาดนานาชนิดส่วนด้านหลังของตัวเกาะมีจุดชมวิวที่มีความสูง ประมาณ200เมตรในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นหมู่เกาะต่างในทะเลชุมพรได้ ทั้งหมดส่วนทางด้านทิศตะวันตกของตัวเกาะมีท่าเทียบเรือซึ่งเป็นที่ตั้งของ ชุมชนชาวบ้านบนเกาะพิทักษ์และเป็นที่หลบลมมรสุมได้เป็นอย่างดี


ใน ปัจจุบันชาวบ้านบนเกาะพิทักษ์ได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ขึ้น ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์โดยร่วมกินอยู่หลับนอนและร่วมทำกิจกรรม ต่างๆกับชาวบ้านอย่างแท้จริงไม่ใช่โฮมสเตย์ของปลอมที่เป็นรีสอร์ทแล้วมา หลอกว่าเป็นโฮมสเตย์ โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมในโครงการจำนวน 16 หลังคาเรือน


สำหรับ บ้านเรือนของชาวบ้านแต่ละหลังที่ถูกจัดรูปแบบบ้านพักให้เป็นโฮมสเตย์ต้อนรับ นักท่องเที่ยวมองดูสะอาดสะอ้านไม่รกรุงรังแตกต่างจากหมู่บ้านชาวประมงทั่วไป นอกจากนี้แล้วบนเกาะพิทักษ์ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์หอยมือเสือและปลาทะเลสีสัน สวยงามต่างๆที่อาศัยอยู่โดยรอบเกาะพิทักษ์ซึ่งสามารถดำน้ำชมปะการังได้ สำหรับจุดดำน้ำที่น่าสนใจก็คือบริเวณโดยรอบเกาะครามซึ่งอยู่ห่างจากเกาะ พิทักษ์ระยะทาง4 กม.มีแนวปะการังและดอกไม้ทะเลพอที่จะดำน้ำลงไปชมได้ไม่ขี้เหร่มากนัก


สำหรับในส่วนของฝากที่นักท่องเที่ยวซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านก็คือ กะปิกุ้งเคย ปลาทูแดดเดียว ปลาหมึกแห้ง ฯลฯ


สำหรับ อัตราค่าบริการที่พักหนึ่งและอาหารสามมื้อคนละเพียง 450 บาทเท่านั้นโดยมีบ้านพักให้เลือกสองแบบคือ บ้านพักที่มีห้องพักส่วนตัวราคา700บาทและห้องพักรวมราคา 450 บาท ต่อคน รวมอาหารสามมื้อส่วนอัตราค่าบริการกิจกรรมดำน้ำชมปะการังรอบเกาะพิทักษ์และ เกาะครามโดยเรือหางยาวในราคาค่าเช่าเรือลำละ 800 บาท ต่อเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวได้ 8-10 คนส่วนอุปกรณ์ดำน้ำค่าเช่าชุดละ50บาท กิจกรรมไดหมึกในเวลาค่ำคืนเช่าเหมาเรือลำละ800 บาท เรือคายัคชั่วโมงละ 50 บาท


ปัจจุบัน เกาะพิทักษ์ได้รับการยกย่องและเป็นตัวอย่างรูปแบบการจัดกิจกรรมแบบโฮมสเตย์ จนประสบความสำเร็จหมู่บ้านหนึ่งในจังหวัดชุมพรและในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีลูกหลานของชาวบ้านบนเกาะพิทักษ์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญา เดินทางกลับมาช่วยกันพัฒนาเกาะพิทักษ์อีกด้วย


นัก ท่องเที่ยวท่านใดสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะพิทักษ์และเข้าร่วม กิจกรรมแบบโฮมสเตย์จะต้องแจ้งกำหนดวันเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 3วันก่อนเดินทางสามารถติดต่อได้ที่ ผู้ใหญ่บ้านอำพล ธานีครุฑหรือผู้ใหญ่หรั่ง เลขที่32หมู่ที่14ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพรโทรศัพท์ 081 0931443, 089 0180644และ สนใจโทรศัพท์ไปได้เลยน่ะครับ



พวก เราเดินเท้าเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้านบนเกาะพิทักษ์ที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทางด้านการทำการประมงเป็นอาชีพหลักโดยเฉพาะการวางลอบดักปูม้าซึ่งในขณะที่ เราสองคนเดินเล่นอยู่บนเกาะพิทักษ์จะแลเห็นลอบดักปูม้าวางกระจายอยู่ทั่วไป

นอก จากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อแบบชาวบ้าน ร้านขายของฝากจากเกาะพิทักษ์ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าของฝากจากทะเลแล้วยัง มีภาพโปสการ์ดสวยๆ หลายมุมมองของเกาะพิทักษ์จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย


เรา สองคนเดินเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเกาะพิทักษ์ ชาวบ้านบนเกาะยิ้มแย้มแจ่มใสกล่าวทักทายนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเองจาก นั้นผู้ใหญ่หรั่งจึงชักชวนให้พวกเรารับประทานอาหารกลางวันร่วมกันซึ่งพวกเรา ตกปากรับคำคำโดยไม่ต้องให้ผู้ใหญ่กล่าวเชิญชวนเป็นครั้งที่สอง


สำหรับ เมนูอาหารกลางวันของเราในมื้อนี้เป็นอาหารแบบพื้นบ้านอาทิเช่น น้ำพริกปลาทูพร้อมผักสดสะตอและแกงเหลืองปลากระบอกรสชาติจัดจ้านตามสไตล์ อาหารใต้ ส้มตำปูม้า ผัดฉ่าปลาอินทรีพวกเรารับประทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อยโดยเฉพาะน้ำพริกปลา ทูเป็นเมนูอาหารกลางวันที่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าประทับใจไม่รู้ลืม ผู้ใหญ่หรั่งบอกพวกเราว่าถ้าพวกเราพักคางแรมบนเกาะพิทักษ์จะได้กินปูม้าและ ปลาหมึกสดๆ

ซึ่ง นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวพักค้างแรมบนเกาะพิทักษ์จะได้รับ ประทานกันทุกคนแต่พวกเราไม่มีเวลาพอที่จะพักค้างคืนบนเกาะพิทักษ์จึงพลาด โอกาสที่จะได้ลองลิ้มชิมรสปูม้าสดๆบนเกาะพิทักษ์เอาไว้โอกาสหน้าจะหาเวลา ว่างมาพักค้างคืนบนเกาะพิทักษ์ให้ได้แน่นอน หลังจากอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารกลางวันเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงทำการร่ำลาผู้ ใหญ่หรั่งพร้อมกับขอบคุณอาหารกลางวันในมื้อนี้ ประกอบกับในช่วงเวลาที่พวกเราเดินทางกลับสู่ท่าเรืออ่าวครกบนฝั่งเป็นช่วง เวลาน้ำลงพอดีพวกเราจึงไม่จำเป็นต้องใช้บริการของเรือหางยาวแต่อย่างใด


จาก นั้นจึงลองเดินเท้าจากเกาะพิทักษ์ข้ามมายังท่าเรืออ่าวครกซึ่งในช่วงเวลาน้ำ ทะเลลดลงมากๆบรรยากาศและความรู้สึกนั้นคล้ายๆกับทะเลแหวกในจังหวัดกระบี่ อย่างไงอย่างงั้น


ในระหว่างที่พวกเราเดินลุยน้ำกลับเข้าสู่ฝั่งนั้นได้สวนทางกับขบวนสามเณรบรรพชาภาคฤดูร้อนตั้งขบวนเป็นแถวยาวเกือบ100รูป


กำลังเดินลุยน้ำข้ามมายังเกาะพิทักษ์เพื่อปักกรดพักค้างแรมจำวัดกันบนเกาะพิทักษ์โดยมีพระพี่เลี้ยงช่วยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด


 พวกเราเดินลุยน้ำข้ามมายังท่าเรืออ่าวครกจากนั้นจึงออกเดินทางไปตามเส้นทาง หลวงหมายเลข4002จนถึงจุดหมายปลายทางคือปากน้ำหลังสวนซึ่งอยู่ห่างจากเกาะ พิทักษ์ระยะทางประมาณ8 กม. สำหรับปากน้ำหลังสวนเป็นชุมชนชาวประมงขนาดใหญ่เป็นที่สองรองมาจากปากน้ำ ชุมพรโดยมีท่าเทียบเรือและเรือประมงจอดเรียงรายอยู่หลายลำ


เป็น แหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญในจังหวัดชุมพร คุณชายเล่าให้พวกเราฟังว่า ชาวบ้านในอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพรจะมีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่าชาวบ้านอำเภออื่นๆในจังหวัดชุมพรเพราะมีการทำประมงเป็นอาชีพหลักส่วนอาชีพรองก็ได้แก่ การทำสวนผลไม้สร้างเสริมรายได้ให้กับชาวบ้านในอำเภอหลังสวนให้มีความเป็น อยู่ที่ดีเศรษฐกิจพอเพียงใช้จ่ายอย่างประหยัดเหมาะสมกับฐานะตามรอยพระราช ดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน


บริเวณ ปากน้ำหลังสวนซึ่งอยู่ติดกับชายหาดแหลมสนทางเทศบาลได้จัดให้เป็นสวนสาธารณะ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งในยามแดดล่มลมตกมักจะแลเห็นประชาชนทั่วไปเดินทางมาออกกำลังกายกันเป็น จำนวนมาก สำหรับวัยรุ่นก็มาตั้งทีมเตะฟุตบอล เตะตะกร้อกันเป็นที่สนุกสนานตามคำขวัญที่ว่า “ลานกีฬาปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด”


ใกล้ กับสวนสาธารณะยังเป็นที่ตั้งของเรือหลวงจักรีนฤเบศร์จำลองซึ่งมีขนาดความ กว้าง 29เมตรยาว79เมตรสูง6เมตรสร้างจากเงินศรัทธาของชาวบ้านปากน้ำหลังสวนได้ช่วย กันสละกำลังทรัพย์และกำลังกายโดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 12 ล้านบาทในการสร้างเรือหลวงจักรีนฤเบศร์จำลองลำนี้


ลอง คิดดูซิครับว่าเศรษฐกิจของชาวบ้านปากน้ำหลังสวนดีหรือไม่ก็ให้ดูกันที่เงิน บริจาคสร้างเรือจำลองลำนี้ก็แล้วกัน สำหรับด้านล่างของเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ลำนี้ใช้เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการและ ประวัติความเป็นมาของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชบิดาแห่งกองทัพเรือไทยและรวบรวมความรู้ต่างๆเกี่ยวกับเรือหลวงจักรี นฤเบศร์ลำนี้


ส่วน ด้นบนสุดของเรือหลวงจักรีนฤเบศร์จำลองลำนี้ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปของ พระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์และพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระราชบิดาของพระองค์และพระรูปของหลวงปู่ศุขแห่งวัดคลองมะขามเฒ่าในจังหวัด ชัยนาทพระอาจารย์ที่ประสิทธิประสาทวิชาความรู้ให้แก่พระองค์


ซึ่ง ในทุกๆวันจะแลเห็นชาวบ้านเดินทางมากราบไหว้สักการบูชาพระบรมรูปจำลองของ พระองค์ท่านไม่ขาดสายในแต่ละวัน พวกเรากราบสักการบูชารูปจำลองของพระองค์ท่านพร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอให้ ประชาชนชาวไทยอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขเลิกทะเลาะกันเองเสียที


จาก นั้นจึงออกมาเดินชมความสวยงามบนดาดฟ้าของเรือจักรีนฤเบศร์จำลองลำนี้ซึ่ง จากบริเวณดาดฟ้าเรือสามารถมองเห็นหมู่เกาะต่างๆของทะเลชุมพรได้อย่างชัดเจน ตลอดจนชายหาดแหลมสนที่มีชายหาดขาวเป็นแนวยาวสุดสายตาในยามบ่ายลมทะเลพัดธง ไตรรงค์ให้โบกสะบัดไปมาบนยอดเสาบนสุดของเรือหลวงจักรีนฤเบศร์จำลองลำนี้ซึ่ง เป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอหลังสวนตลอดจนชาวไทยทุกคนที่ประเทศไทยของ เราสามารถยืนยงดำรงความเป็นเอกราชมาได้จนตราบเท่าทุกวันนี้ จากนั้นคุณชายก็พาเราสองคนเดินทางออกจากปากน้ำหลังสวน กลับเข้ามายังเขตอำเภอเมือง ระหว่างทางคุณชายพาเราเดินทางต่อไปยังหาดผาแดง ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลปากน้ำอำเภอเมืองชุมพรตั้งอยู่ระหว่างหาดทรายรีกับหาดภราดรภาพ คุณชายพาเราสองคนขับรถผ่านหาดภราดรภาพ จากนั้นมีเส้นทางเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนลูกรังผ่านสวนมะพร้าวอันร่มรื่นเข้า ไปอีกประมาณ2 กม.คุณชายก็พาเราสองคนเดินทางมาถึงยังบริเวณลานจอดรถจากนั้นก็เดินนำทางพา เราสองคนเดินเท้าลงไปยังบริเวณหาดผาแดงซึ่งหาดทรายมีความโค้งเว้ายาวประมาณ 500 เมตรทรายบริเวณชายหาดแห่งนี้มีลักษณะเม็ดทรายค่อนข้างหยาบแต่น้ำทะเลใส ราวกระจก


จากชายหาดผาแดงสามารถมองเห็นเกาะเสม็ดซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก


บริเวณ สุดปลายหาดผาแดงที่เชื่อมต่อกันกับหาดภราดรภาพมีหน้าผาหินสีแดงรูปร่าง แปลกตาสีส้มแกมแดงสภาพผุกร่อนตามกาลเวลาจากแรงลมและการกัดเซาะของน้ำทะเล ที่ผ่านมาหลายพันปีจนทำให้เกิดเป็นโพรงหินซึ่งมีลักษณะเป็นรูขนาดใหญ่มีความ กว้างของเส้นรอบวงประมาณ15เมตรทะลุออกไปยังอีกด้านหนึ่งของผนังหิน


ซึ่ง นับว่าเป็นมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งในหมู่เกาะทะเลชุมพร พวกเรานั่งรับลมเย็นๆที่พัดผ่านมาจนหายเหนื่อย จากนั้นคุณชายก็พาเราเดินทางกลับสู่ที่พักสำหรับที่พักของเราในคืนนี้ก็คือ ชุมพรคาบาน่าตั้งอยู่บริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่นในอำเภอปะทิวซึ่งอยู่ห่างจาก ตัวเมืองชุมพรระยะทางประมาณ 20 กม.


ระหว่าง ทางคุณชายพาเราสองคนแวะมายัง กลุ่มผ้าบาติกซึ่งตั้งอยู่ริมทางบริเวณหาดทรายรีเพื่อชมกรรมวิธีในการทำผ้า บาติกจากกลุ่มแม่บ้านหาดทรายรีซึ่งได้รับการส่งเสริมจากทางจังหวัดชุมพรให้ เป็นสินค้าOTOPระดับห้าดาวของบ้านผาแดงบริเวณหาดทรายรี


ระหว่าง เดินเที่ยวชมกรรมวิธีผลิตผ้าบาติกอยู่นั้นคุณชายได้แนะนำให้เราสองคนรู้จัก คุณยุ้ยเจ้าของยุ้ยบาติก เล่าให้เราสองคนฟังว่าจังหวัดชุมพรมีการประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรการทำสวน ยางและสวนผลไม้สวนยางและทำการประมงเป็นอาชีพหลักสำหรับวิถีชีวิตส่วนใหญ่ของ ชาวบ้านชุมชนในหาดทรายรีแห่งนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางด้านการทำประมงจึงทำ ให้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผ้าบาติกแห่งนี้จึงเน้นไปที่ลวดลายเกี่ยวกับทะเลเสีย เป็นส่วนใหญ่


โดย ใช้ภูมิปัญญาวิถีชีวิตตลอดจนวัฒนธรรมท้องถิ่นในการออกแบบลวดลายต่างๆซึ่ง ทางกลุ่มยังผลิตผ้าบาติกที่มีรูปลักษณะอันโดดเด่นและสัญลักษณ์อันโดดเด่นของ จังหวัดเช่นดอกพุทธรักษาซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดและนกนางแอ่นที่เป็น สัตว์เศรษฐกิจที่มีชื่อของจังหวัดชุมพรเป็นต้น


ผลิตภัณฑ์ ของกลุ่มแม่บ้านหาดทรายรีแห่งนี้จึงมีลักษณะที่โดดเด่นสีสันสวยงามและเป็น เอกลักษณ์เฉพาะตัวจึงบ่งบอกถึงความเป็นเมืองแห่งท้องทะเล ส่วนคำว่า “บาติก” เป็นคำกิริยามาจากภาษาชวาซึ่งมีความหมายว่าการทำให้เกิดจุดแต้ม ดวง หยด บนผ้าบาติกจนมีการสันนิษฐานว่าเกิดมามากกว่า 2000 ปีแล้วนักวิชาการเชื่อว่าบาติกที่พบอยู่ในยุคแรกนั้นมีอยู่ด้วยกัน4กลุ่ม ด้วยกันคือ ตะวันออกไกล ตะวันออกกลาง เอเซียกลางและอินเดีย


ส่วน ชาวไทยรู้จักผ้าบาติกกันในชื่อว่า “ผ้าปาเต๊ะ”โดยได้รับอิทธิพลมาจากอินโดนีเซียผ่านมาทางประเทศมาเลเซียเข้า สู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยในระยะเริ่มแรกผ้าบาติกของจังหวัดชุมพรต้องสั่งมา จากกระบี่ พังงา ภูเก็ตฯลฯจึงทำให้เกิดการรวมตัวของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งในตำบลหาดทรายรีอำ เภอเมืองจังหวัดชุมพรในการผลิตผ้าบาติกเพราะจังหวัดชุมพรซึ่งมีพื้นที่อยู่ ติดกับทะเลจึงทำให้มีจินตนาการในการผลิตผ้าบาติกที่มีลวดลายสอดคล้องกับวิถี ชีวิตและวัฒนธรรมในท้องถิ่นเสียเป็นส่วนใหญ่เช่นผ้าบาติกที่มีลวดลายทะเล ปลาทะเลฯลฯ


ทางกลุ่ม สามารถผลิตผ้าบาติกเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่น เสื้อเชิ้ต ผ้าพันคอผ้าเช็ดหน้าฯลฯซึ่งการทำงานของกลุ่มทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่าง ดีและสามัคคีในการทำงานกับแบบครบวงจรโดยเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบลวดลายผ้า การเขียนสีเทียน การลงสี การตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์การหาตลาดและการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มจน เป็นที่รู้จักแพร่หลายในปัจุบัน


ประกอบ กับบ้านหาดทรายรีเป็นเส้นทางผ่านไปยังหาดทรายรีและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆใน จังหวัดชุมพรผ้าบาติกจึงได้รับการเผยแผ่สู่สายตานักท่องเที่ยวชาวไทยและชาว ต่างชาติเป็นอย่างดีนักท่องเที่ยวหรือท่านผู้อ่านที่สนใจขอทราบรายละเอียด ได้ที่กลุ่มผ้าบาติกหาดทรายรี เลขที่20หมู่ที่1ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองจังหวัดชุมพร โทรศัพท์ 089 651 9500
E-mail: yuibatik@yahoo.com


หลัง จากนั้นเราสองคนเดินเที่ยวชมกรรมวิธีผลิตผ้าบาติกและฟังคุยยุ้ยโม้จนลิงหลับ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นคุณชายก็พาเราเดินทางไปยังที่พักของเราในคืนนี้คือชุมพรคาบาน่า ตั้งอยู่ที่หาดทุ่งวัวแล่นในอำเภอปะทิวห่างจากตัวอำเภอเมืองระยะทาง ประมาณ18 กม.


พรุ่ง นี้เราสองคนจะพาท่านไปดำน้ำชมปะการังกันที่เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อยกันครับ สำหรับในวันนี้ขอลาท่านผู้อ่านพักผ่อนและรับประทานอาหารค่ำกันตามอัธยาศัย ก่อนน่ะครับ สวัสดีครับ
วันที่สี่ของการเดินทาง


 เช้าวันแรกอันสดใสบนหาดทุ่งวัวแล่นในอำเภอปะทิวอันเป็นที่ตั้งของชุมพรคาบา น่ารีสอร์ท เราสองคนตื่นแต่เช้าออกมาเดินเล่นพร้อมถ่ายรูปบรรยากาศยามเช้าของหาดทุ่งวัว แล่นซึ่งเป็นเวลาเดียวกับนักท่องเที่ยวออกมาเดินเล่นพร้อมออกกำลังกายกันบน ชายหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้


จาก หาดทุ่งวัวแล่นมองออกไปในท้องทะเลเบื้องหน้าเราสามารถมองเห็นเกาะง่ามน้อย ง่ามใหญ่เป็นเกาะรังนกและแหล่งดำน้ำชมปะการังยอดนิยมของทะเลชุมพรตั้ง ตระหง่านเป็นเงาตะคุ่มอยู่ห่างจากหาดทุ่งวัวแล่นระยะทางประมาณ16 กม.


หลัง จากบันทึกภาพบรรยากาศยามเช้าของหาดทุ่งวัวแล่นจนเป็นที่พอใจแล้วจากนั้นจึง มานั่งรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับนั่งคุยกับคุณวริสร รักษุ์พันธุ์ หนุ่มใหญ่กรรมการผู้จัดการชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทและคุณสถาพร วัฒนเมธีหรือชื่อเล่นว่าคุณตั๋งผู้จัดการฝ่ายขายของรีสอร์ท หลังจากไต่ถามสารทุกข์สุกดิบตามประสาคนคุ้นเคยกันมานานพร้อมรับประทานอาหาร เช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณวริสรและคุณสถาพรได้ชักชวนเราสองคนเดินทางไปดำน้ำ ชมปะการังกันพร้อมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เกาะง่ามน้อยและเกาะง่ามใหญ่ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าหาดทุ่งวัวแล่น


ซึ่ง เราสองคนตอบรับคำชักชวนในทันทีหลังจากจัดเตรียมสัมภาระในการเดินทางท่อง เที่ยวทางทะเลเป็นที่เรียบร้อยแล้วคุณวริสรและคุณสถาพรได้พาเราไปที่ศูนย์ กีฬาทางน้ำ
พร้อมกับแนะนำให้เราสองคนได้รู้จักกับคุณเสนอ สุดหล่อครูสอนดำน้ำประจำชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท ที่จะเป็นไกด์พาเราสองคนเดินทางไปดำน้ำชมปะการังกันที่เกาะง่ามน้อยเกาะง่าม ใหญ่ในวันนี้


หลัง จากฟังคำแนะนำเรื่องกฎระเบียบแห่งความปลอดภัยในการดำน้ำจากพี่เสนอเป็นที่ เรียบร้อยแล้วจากนั้นเราสองคนจึงจัดแจงสวมชูชีพพร้อมอุปกรณ์ในการดำน้ำนั่ง เรือยางจากชายหาดทุ่งวัวแล่นไปลงเรือดำน้ำที่จอดลอยลำอยู่กลางทะเลไม่ไกลจาก หาดทุ่งวัวแล่นเท่าใดนักและหลังจากที่ทุกคนลงเรือดำน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเรือทัวร์ดำน้ำก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เกาะง่ามน้อยเกาะง่ามใหญ่ใน ทันที


ระหว่าง เดินทางพี่เสนอเรียกให้เราสองคนดูฝูงปลาโลมาที่ว่ายน้ำคู่ขนานมากับเรือ ทัวร์ดำน้ำสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับ เรือทัวร์ดำน้ำลำนี้เป็นอย่างยิ่ง พี่เสนอเล่าให้เหล่าลูกทัวร์ฟังว่าบ่อยครั้งที่นักท่องเที่ยวสามารถแลเห็น ปลาโลมาฝูงนี้ออกมาว่ายน้ำหาอาหารกินกันเป็นประจำ
และถ้าวันนี้โชดดีพวก เราอาจได้เห็นฉลามวาฬออกมาว่ายน้ำหาอาหารกันที่บริเวณโดยรอบของเกาะง่ามน้อย ง่ามใหญ่ซึ่งเราทั้งสองคนภาวนาขอให้ได้เจอกับเจ้าฉลามวาฬเป็นบุญตาสักครั้ง หนึ่งในชีวิต จากชายหาดทุ่งวัวแล่นเรือทัวร์ดำน้ำใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชั่วโมงก็พาเราสอง คนเดินทางมาถึงเกาะงามน้อยเกาะง่ามใหญ่แหล่งดำน้ำชมปะการังที่มีชื่อเสียง แห่งหนึ่งในหมู่เกาะทะเลชุมพร


จาก นั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางร่วมมากับเราต่างพากันสวมชูชีพและหน้ากากดำน้ำ ลงดำน้ำด้วยความสนุกสนานและในขณะที่เราสองคนนั่งเล่นรับลมทะเลเย็นๆอยู่นั้น ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับพี่เสนอครูสอนดำน้ำแห่งชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทซึ่งพี่ เสนอ สุดหล่อได้เล่าให้เราสองคนฟังว่า


เกาะ ง่ามน้อยและเกาะง่ามใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหาดทุ่งวัวแล่นในอำเภอปะ ทิวจังหวัดชุมพรห่างจากฝั่งระยะทางประมาณ20 กม.สำหรับเกาะง่ามน้อยและเกาะง่ามใหญ่อยู่ห่างจากกันระยะทางประมาณ300เมต รลักษณะของเกาะเป็นเกาะหินปูน


บริเวณ โดยรอบของเกาะทั้งสองมีลักษณะเป็นโตรกผาหินสูงชันมีลักษณะคล้ายกับสวนป่าหิน กุ้ยหลินในเมืองจีนมีโพรงถ้ำมากมายเป็นที่อยู่และทำรังของนกนางแอ่นจำนวนมาก จึงเป็นเกาะที่มีการทำสัมปทานรังนกของบริษัทรังนกซีโฟร์


บนเกาะทั้งสองแห่งนี้ไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะจะมีก็แต่กระท่อมของคนเฝ้ารังนกเท่านั้น


และ การที่จะเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวบนเกาะนั้นไม่มีใครอยากจะขึ้นไปเที่ยวบน เกาะทั้งสองแห่งนี้เพราะไม่มีหาดทรายให้เดินเล่นหรือลงเล่นน้ำ บริเวณรอบเกาะเต็มไปด้วยโตรกผาหินอันสูงชันไม่มีจุดที่น่าสนใจอะไรให้เที่ยว ชม

สำหรับ โลกใต้ทะเลโดยรอบเกาะทั้งสองนั้นมีแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ปะการังเขากวาง ,มันสมอง, ดอกไม้ทะเลตลอดจนปลาทะเลสีสันสวยงามมากมายหลากหลายชนิดเช่นปลาผีเสื้อ ปลาการ์ตูน,ปลาสินสมุทร,ปลาสลิดหินฯลฯ



จึง นับได้ว่าเกาะง่ามน้อยและเกาะง่ามใหญ่เป็นไฮไลต์ของการดำน้ำชมความสวยงามของ โลกใต้ทะเลอันดับต้นๆ ของหมู่เกาะทะเลชุมพรซึ่งถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นปลาฉลามวาฬว่ายวนเวียนหาอาหาร บริเวณโดยรอบเกาะทั้งสองแห่งนี้


หลัง จากที่พี่เสนอพูดยังไม่ทันขาดคำเสียงตะโกนดังลั่นด้วยความตื่นเต้นของนัก ท่องเที่ยวที่กำลังดำน้ำชมปะการังกันโดยรอบเกาะง่ามน้อยและเกาะง่ามใหญ่ ตะโกนขึ้นมาว่าได้พบกับเจ้าฉลามวาฬหัวโตๆมีลายเป็นจุดๆตามตัวกำลังว่ายวน เวียนผ่านไปผ่านมาบริเวณโดยรอบจุดที่นักท่องเที่ยวกำลังดำน้ำอยู่ จากนั้นพี่เสนอไม่รอช้าจัดการแต่งชุดมนุษย์กบพร้อมทั้งถังอ๊อกซิเจนกระโดดลง จากเรือทัวร์ดำน้ำติดตามเจ้าฉลามวาฬไปในทันที


พี่ เสนอของเราดำน้ำลงไปตามฉลามวาฬอยู่สักครู่ใหญ่จากนั้นจึงโผล่ขึ้นมาตะโกนบอก เราว่า ดำน้ำตามปลาฉลามวาฬไปไม่ทันเห็นแต่หางของมันไวๆ เดาว่าคงจะเป็นฉลามวาฬชื่อว่า “ไอ้หัวบาก”ความยาวประมาณ6-8 เมตร ซึ่งครั้งหนึ่งพี่เสนอของเราได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้เมี่อครั้งหางของมันไปติด อวนของชาวประมงมันสามารถดิ้นหลุดออกมาได้แต่อวนก็ยังติดอยู่ที่ปลายหางของ มันพยายามสะบัดเท่าไหร่ก็ไม่หยลุดสายอวนยิ่งรัดแน่นเข้าไปทุกทีบริเวณหางของ มันเป็นแผลฉกรรจ์


จน กระทั่งวันหนึ่งพี่เสนอของเราดำน้ำไปเห็นมันเข้าพอดีที่เกาะง่ามน้อยแกจึง ว่ายเข้าไปหาทำการช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้โดยการใช้มีดตัดอวนที่รัดตรงบริเวณ ส่วนหางของมันออก จากนั้นจึงปล่อยให้มันว่ายน้ำเป็นอิสระดำรงชีวิตอยู่ต่อไปในทะเลชุมพร พี่เสนอเล่าให้เราสองคนฟังว่าถ้าไม่ตัดเชือกออกจากปลายหางของปลาฉลามวาฬตัว นี้อาจมีสิทธิตายได้เพราะปลายหางเป็นแผลฉกรรจ์ เพราะถ้าทิ้งไว้นานเข้าเชือกอวนจะรัดหางของมันแน่นเข้าทุกทีจนหางขาด ออกจากตัว จากนั้นเจ้าฉลามวาฬตัวนี้ก็จะเสียการทรงตัวว่ายน้ำหาอาหารต่อไปไม่ได้และก็ จะตายในที่สุด


พี่ เสนอเล่าต่อไปว่ามีหลักฐานแสดงถึงการชีวิตเจ้าฉลามวาฬตัวนี้ซึ่งเพื่อนชาว ต่างประเทศของพี่เสนอได้ทำการบันทึกเทปวีดีโอเป็นหลักฐานการช่วยชีวิตปลา ฉลามวาฬของพี่เสนอในขณะที่ว่ายน้ำเข้าไปใช้มีดตัดอวนออกจากหางช่วยชีวิตฉลาม วาฬตัวนี้ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าพี่เสนอของเราไม่ได้โม้เหมือนสมรักษ์ คำสิงห์ ท่านผู้อ่านท่านใดที่สนใจจะเรียนหลักสูตรดำน้ำลึกกับพี่เสนอหรือชมวีดีโอการ ช่วยชีวิตฉลามวาฬ “ไอ้หัวบาก”ตัวนี้ของพี่เสนอ สุดหล่อสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ คุณเสนอ กล่อมสงค์หรือ พี่เสนอ สุดหล่อโทรศัพท์ 084 841 3290 E-mail: sanerowsi@yahoo.com
สำหรับ สาเหตุที่เหล่าฉลามวาฬชอบว่ายน้ำเข้ามากินกันโดยรอบของเกาะง่ามน้อยและเกาะ ง่ามใหญ่เป็นประจำก็เพราะว่าบริเวณโดยรอบของเกาะทั้งสองแห่งนี้เต็มไปด้วย แพลงตอนซึ่งเป็นอาหารโปรดของเหล่าฉลามวาฬ ทำให้ฉลามวาฬชอบว่ายน้ำเข้ามาหากินบริเวณนี้กันเป็นประจำ


ซึ่ง นับได้ว่าเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่ได้มีโอกาสเห็นฉลามวาฬ ตัวนี้เพราะใช่ว่าจะได้มีโอกาสมาดำน้ำยังเกาะง่ามทั้งสองแห่งนี้แล้วจะได้ เห็นเจ้าฉลามวาฬตัวนี้กันง่ายๆ นักท่องเที่ยวต่างชาติบางคณะอุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลแสนไกลมาเรียน ฝึกดำน้ำเฝ้าดูเจ้าฉลามวาฬฝูงนี้ใช้เวลาเป็นเดือนหมดเงินไปหลายแสนบาทแต่ก็ ยังไม่มีใครโชคดีที่จะได้เห็นเจ้าฉลามวาฬฝูงนี้แห้วรับประทานไปตามๆกันแต่ก็ ยังไม่ลดละความพยายามบางคณะถึงกับแวะเวียนมาดำน้ำกันทุกๆปี


เพียง เพื่อที่จะได้ยลโฉมของเจ้าฉลามวาฬฝูงนี้เป็นบุญตาสักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ถือได้ว่าเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวคณะนี้ที่ได้มีโอกาสมาดำน้ำแบบ สน็อคเกิ้ลเพียงครั้งเดียวเสียเงินไม่กี่ร้อยบาทก็ได้มีโอกาสเห็นเจ้าฉลาม วาฬซึ่งถือได้ว่าเป็นความโชคดีไป เพราะฉลามวาฬไม่ใช่จะปรากฏกายให้ใครเห็นกันง่ายๆ


หลัง จากดำน้ำชมปะการังแถมโชคดีได้เห็นเจ้าฉลามวาฬเป็นบุญตาแล้วแล้วจากนั้นทุกคน จึงขึ้นมาบนเรือเพื่อรับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ที่ทางรีสอร์ทได้จัด เตรียมไว้ให้
หลังจากอาหารกลางวันผ่านพ้นไปแล้วนักท่องเที่ยวทุกคนก็มา นั่งพักผ่อนหย่อนใจกันกันที่บริเวณหัวเรือพร้อมพูดคุยกันถึงเรื่องราวอัน ตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสได้เห็นฉลามวาฬเป็นครั้งแรกในชีวิต


จาก นั้นเรือทัวร์ดำน้ำก็พาเราเดินทางมายังเกาะง่ามน้อยจากนั้นจึงจอดทอดสมอเรือ เพื่อให้บรรดานักท่องเที่ยวได้ลงดำน้ำดูปะการังกันต่อจนสมควรแก่เวลาจากนั้น เรือทัวร์ดำน้ำก็เดินทางต่อมายังเกาะทะลุในทะเลชุมพร


ซึ่ง ท่านผู้อ่านอย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกาะทะลุในจังหวัดประจวบฯน่ะครับเพราะใน ทะเลชุมพรก็มีเกาะทะลุเหมือนกันแต่มีขนาดเล็กกว่ามากโดยตัวเกาะมีความยาว ประมาณ100 เมตรเป็นเกาะหินปูนขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยโขดหินบนเกาะมีรูทะลุอยู่หลายแห่ง แต่มีรูทะลุที่ใหญ่ที่สุดอยู่ตรงกลางเกาะซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล และแรงลมโดยรอบเกาะทะลุมีแนวปะการังเขากวาง จานและมันสมองตลอดจนฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามนานาชนิด


แต่ ทว่าส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวไม่นิยมมาดำน้ำชมปะการังกันที่บริเวณนี้เพราะ จุดดำน้ำที่เกาะง่ามน้อยง่ามใหญ่น่าสนใจกว่าสำหรับเกาะทะลุแห่งนี้ตั้งอยู่ ในในทะเลชุมพรในอำเภอเมืองห่างจากปากน้ำชุมพรระยะทางประมาณ 13 กม.เรือทัวร์ดำน้ำพานักท่องเที่ยวและเราสองคนแล่นวนเวียนอยู่โดยรอบเกาะทะลุ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเกาะทะลุจากนั้นจึง หันหัวเรือออกเดินทางกลับสู่หาดทุ่งวัวแล่นอันเป็นที่ตั้งของชุมพรคาบาน่า รีสอร์ทต่อไป


เรือทัวร์ดำน้ำพาเราสองคนเดินทางมาถึงยังหาดทุ่งวัวแล่นเมื่อเวลาบ่ายคล้อยบริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่นในเวลาที่น้ำทะเลใสหาดทรายสวย


แสงแดดอ่อนๆยามเย็นชักชวนให้บรรดานักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวกันบริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่นกันอย่างหนาแน่นเรา


สอง คนเดินเล่นตามชายหาดพร้อมทั้งบันทึกภาพนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่อง เที่ยวยังบริเวณชายหาดกันเป็นที่สนุกสนานมาฝากท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยเดิน ทางมาท่องเที่ยวยังหาดทุ่งวัวแล่น สำหรับชื่อที่มาของหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้สอบถามพี่เสนอได้เล่าเรื่องราวของ หาดทุ่งวัวแล่นให้เราสองคนฟังว่า


บริเวณ ทุ่งวัวแล่นแห่งนี้ในอดีตที่ผ่านมาเคยเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ต่อมาวันหนึ่งมีพรานป่าเดินทางมาล่าสัตว์ที่บริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่นและยิง ถูกวัวป่าตัวหนึ่งล้มลงแต่ในขณะที่พรานป่าเดินเท้าเข้าไปหาวัวป่า พลันวัวป่าตัวนี้ก็ลุกขึ้นวิ่งหนีหายไปในป่าหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้ชาวบ้าน จึงเรียกชายหาดแห่งนี้ว่าหาดทุ่งวัวแล่นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ต่อมาทางราชการได้ปั้นรูปวัวป่าตั้งอยู่บริเวณริมชายหาดเป็นสัญญลักษณ์ของ หาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้

 สำหรับหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้เป็นหาดท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพร ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ชาวชุมพรจะนิยมพาลูกหลานเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจกัน บริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่นกันเป็นจำนวนมากเนื่องจากชายหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้ มีความโค้งเว้าเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวมีความยาวประมาณ5-6กิโลเมตรต่อ เนื่องไปจนถึงชายหาดสะพลี


ชาย หาดทุ่งวัวแล่นมีหาดทรายกว้างความลาดเอียงต่ำจึงเหมาะกับการลงเล่นน้ำได้ อย่างปลอดภัยตลอดแนวชายหาดร่มรื่นไปด้วยทิวสนที่ขึ้นเรียงรายอยู่อย่างหนา แน่นบรรยากาศเงียบสงบมากปราศจากแม่ค้าพ่อค้าหาบเร่ขายข้าวเหนียวส้มตำและไข่ ปิ้งมาเดินเร่ขายให้เป็นที่รำคาญใจรวมทั้งปราศจากเรือสกู๊ตเตอร์และเรือ กล้วย กิจกรรมต่างๆที่ส่งเสียงดังรบกวนนักท่องเที่ยวจากชายหาดทุ่งวัวแล่นสามารถ มองเห็นเกาะง่ามน้อยเกาะง่ามใหญ่และหมู่เกาะในทะเลชุมพรได้อย่างชัดเจนและ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพรอีกด้วย


ส่วน ทางด้านทางตอนใต้สุดของชายหาดติดกับชุมพรคาบาน่ารีสอรท์มีลักษณะเป็นภูเขา ยื่นออกมาคือเขาโพธิ์แบะมีแนวหินใต้น้ำ สาหร่ายทะเล ฟองน้ำทะเล ดอกไม้ทะเลและฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามนานาชนิดเหนือหาดทุ่งวัวแล่นขึ้นมาเล็ก น้อยบริเวณด้านหน้าของชุมพรคาบาน่ารีสอรท์เป็นที่ตั้งของ “ติกิ”เทพเจ้าแห่งท้องทะเลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของชาวทะเล


สำ หรับติกิตัวนี้ถูกแกะสลักด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ10 เมตร หันหน้าออกสู่ท้องทะเลทางด้านทิศตะวันออกคอยปกปักรักษาหาดทุ่งวัวแล่นแห่ง นี้ให้รอดพ้นจากภยันอันตรายใดๆทั้งปวงดั่งเช่นเมื่อคราวที่พายุเกย์พัดผ่าน มายังหาดทุ่งวัวแล่นเมื่อปีพ.ศ.2532หาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้ได้รับผลกระทบ จากภัยของพายุเกย์น้อยมากเชื่อหรือไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่แล้วกันน่ะครับ


หลัง จากที่เราสองคนเก็บภาพอันสวยงามและน่าประทับใจของหาดทุ่งวัวแล่นเป็นที่ เรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงเดินทางเข้าสู่ที่พักเพื่อปฎิบัติภารกิจส่วนตัว หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลมาตลอดทั้งวัน หลังจากปฎิบัติภารกิจส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงออกมานั่งพัก ผ่อนหย่อนใจชมพระอาทิตย์
ลาลับขอบฟ้าจากนั้นพระจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญก็ค่อยๆโผล่ขึ้น


เราสองคนนั่งชมความงามของพระจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญที่หาดทุ่งวัวแล่นพร้อมรับประทานอาหารค่ำกันที่ห้องอาหารของชุมพรคาบาน่ารีสอรท์


สำหรับ เมนูอาหารของเราในมื้อนี้ได้แก่ ใบเหลียงผัดไข่อาหารยอดนิยมของชุมพรคาบาน่าที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้อง สั่ง,แกงส้มปลากระบอก,น้ำพริกกุ้งเสียบ ตบท้ายด้วยกุ้งผัดสะตอ


หลัง จากจัดการกับเมนูอาหารค่ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงออกมาเดินเล่นชมบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนของหาดทุ่งวัวแล่น ซึ่งมีร้านดื่มกินเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบท่องราตรีทำตัวเป็นมนุษย์ ค้างคาว เสียแต่ว่ามีร้านให้เลือกน้อยไปหน่อยแถมยังอยู่ห่างกันเสียอีก ส่วนสนนราคาดูท่าว่าจะไม่สูงนักเพราะมีให้เลือกตั้งแต่ระดับร้านเป็นเพิง ชั่วคราวไปจนถึงบาร์เบียร์เล็กๆริมชายหาด


เรา เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงรูปปั้นวัวป่า ก็เริ่มรู้สึกตัวว่าเดินมาไกลจากรีสอร์ทเสียแล้วคิดระยะทางเดินกลับแล้วก็ ตกลงกลับกันเถอะ ก่อนกลับเราหยุดพักถ่ายรูปปั้นวัวป่าแห่งทุ่งวัวแล่น ในยามค่ำคืนไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นจึงเดินทางกลับเข้าสู่ชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท


เข้าห้องพักเพื่อพักผ่อนนอนหลับเก็บแรงเอาไว้เดินทางกลับกรุงเทพฯต่อไปในวันรุ่งขึ้น
วันที่ห้าของการเดินทาง



เช้าตรู่วันที่ห้าของการเดินทางหลังจากบันทึกภาพบรรยากาศยามเช้าของชายหาดทุ่งวัวแล่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


จาก นั้นเราสองคนจึงมารับประทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารของชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท ซึ่งมีเมนูอาหารให้เลือกรับประทานหลากหลายชนิดซึ่งนอกจากเมนูอาหารเช้าแบบ ฝรั่งแล้ว


ยัง มีเมนูอาหารใต้เช่นข้าวยำอีกด้วยตบ ท้ายด้วยกาแฟโบราณและขนมครกที่ทางชุมพรคาบาน่าได้จัดพนักงานมานั่งแคะขนมครก ให้รับประทานกันสดๆเลยทีเดียว


หลัง อาหารเช้าผ่านพ้นไปแล้วได้มีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับคุณวริสร รักษ์พันธุ์กรรมการผู้จัดการชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทและศูนย์กีฬาทางน้ำซึ่งได้ เล่าเรื่องราวแรงบันดาลใจในการมาประกอบธุรกิจชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทให้เราสอง คนฟังว่า


สำหรับ จุดเริ่มต้นของทะเลชุมพรเกิดขึ้นจากนักเขียนท่านหนึ่งนามว่า ครูมาลัย ชูพินิจหรือแม่อนงค์ที่ได้มีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวยังหาดทุ่งวัวแล่น ตั้งแต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองหลังจากนั้นในปีพ.ศ.2486จึงได้เขียน วรรณกรรมขึ้นเรื่องหนึ่งในโดยใช้ชื่อว่า “แผ่นดินของเรา”ซึ่งต่อมาวรรณกรรมเรื่องนี้ได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์และละครถึงสามครั้งด้วยกัน


หนอน หนังสือในอดีตคงจะรู้จักวรรณกรรมเรื่องนี้เป้นอย่างดีสำหรับในส่วนตัวของคุณ วริสรแล้วได้เล่าเรื่องราวของความประทับใจส่วนตัวเมื่อครั้งที่ได้มีโอกาส เดินทางมาเยือนหาดทุ่งวัวแล่นเป็นครั้งแรกในชีวิตให้เราฟังว่า “เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2523 ในขณะที่ผมยังเป็นเด็กอยู่คุณพ่อคุณแม่ได้พาผมเดินทางมาท่องเที่ยวยังชายหาด ทุ่งวัวแล่นแห่งนี้ในช่วงเวลาปิดเทอม


ซึ่ง ในความรู้สึกของผมในเวลานั้นมีความรู้สึกว่าทำไมถึงต้องเดินทางมาท่องเที่ยว ทะเลไกลถึงจังหวัดชุมพรด้วยน่ะทำไมถึงไม่พาผมไปเที่ยวบางแสนหรือพัทยาที่ไม่ ไกลจากกรุงเทพฯเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาแต่ในความรู้สึกซึ่งบอกผมตลอดเวลา ว่า หาดทรายที่ทุ่งวัวแล่นแห่งนี้สวยงามเหลือเกินทำให้ผมวิ่งแล่นบนหาดทรายแห่ง นี้ด้วยความสนุกสนานจนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยผมนั่งเรือไปตกปลากับชาวบ้าน ร่วมวงรับประทานอาหารกับชาวประมงก่อกองทรายร่วมกับเพื่อนๆ บางครั้งก็ช่วยคุณพ่อคุณแม่ปลูกต้นไม้ ซึ่งพอเปิดเทอมก็จะเดินทางกลับกรุงเทพฯไปเรียนหนังสืออย่างมีความสุข ส่วนในใจก็ภาวนาให้ปิดเทอมเร็วๆจะได้เดินทางกลับไปใช้ชีวิตที่หาดทุ่งวัว แล่นนี้อีกครั้งหนึ่ง


ปัจจุบัน ผมก็ได้มาลงหลักปักฐานก่อตั้งชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทบนหาดทุ่งวัวแล่นตามความ คิดเมื่อครั้งยังเป็นเด็กสมใจปรารถนา นับจากวันนั้นเป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว หาดทุ่งวัวแล่นก็ยังคงความสวยงามและเงียบสงบเหมือนเดิม โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาเยี่ยมเยือนรีสอร์ทของเราอยู่สม่ำเสมอพร้อมกับมาหาความสุขจาก ธรรมชาติบนหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้เพิ่มขึ้นจำนวนมากขึ้นทุกปีนักท่องเที่ยว เก่าๆที่เคยเดินทางมาแล้วก็จะเดินทางมาท่องเที่ยวยังหาดทุ่งวัวแล่นและ รีสอร์ทของเราซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นประจำทุกปีสำหรับนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทาง มาท่องเที่ยวยังหาดทุ่งวัวแล่นและรีสอรท์ของเราแล้วคงจะได้สัมผัสถึงความ เงียบสงบเรียบง่ายของชายหาดทุ่งวัวแล่นที่มีเม็ดทรายขาวละเอียดสวยงามสะอาด ตา


ตลอด แนวชายหาดร่มรื่นไปด้วยทิวสนขึ้นเรียงรายอยู่ตลอดแนวชายหาดและแนวผักบุ้ง ทะเลที่ออกดอกสีม่วงตัดกับความขาวของทรายบริเวณชายหาดช่วยสร้างสีสันสวยงาม ให้กับชายหาดทุ่งวัวแล่นได้เป็นอย่างดี คงจะมีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คนที่จะรู้ว่าเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาสมัย กิจกรรมดำน้ำยังไม่รุ่งเรืองเหมือนในปัจจุบันนี้ บนหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้ได้เกิดบังกะโลเล็กๆเพียงไม่กี่หลังซึ่งใช้เป็นจุด นัดพบของบรรดานักดำน้ำรุ่นแรกๆของเมืองไทยที่จะเดินทางออกไปดำน้ำยังหมู่ เกาะทะเลชุมพรหรือเดินทางต่อไปดำน้ำยังเกาะเต่า ชุมพรคาบาน่ารีสอรท์เติบโตขึ้นมาจากบังกะโลเล็กๆเพียงไม่กี่หลังเมื่อปี พ.ศ.2525 และสร้างต่อมาเรื่อยๆโดยไม่รังแกธรรมชาติและรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด อาคารที่พักหลังใหม่ซึ่งสูงสามชั้นถูกซ่อนตัวไว้ภายใต้แมกไม้อันร่มรื่น อยู่ลึกเข้าไปจากชายหาด


โดย รอบอาคารคือบ่อบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้น้ำนานาพันธุ์ มองดูเผินๆ คล้ายสวนน้ำที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามแทบมองไม่ออกเลยว่านี้คือบ่อบำบัดน้ำ เสียทั้งหมดนี้เกิดจากฐานความคิดในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีแนวคิดมา ตั้งแต่ยุคบุกเบิกเริ่มสร้างรีสอร์ทแห่งนี้


นอกจากนี้ทางชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทได้จัดเตรียมบ้านพักจำนวนสองหลังสำหรับนักท่องเที่ยวพิการอีกด้วย


แต่ สิ่งที่ถูกเพิ่มเติมขึ้นมาและมองดูแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาส เดินทางมาเยี่ยมเยือนชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทแห่งนี้ก็คือธนาคารต้นไม้


แปลงผักนาข้าวและ สวนผลไม้ปลอดสารพิษแปลงสวนสมุนไพรที่ผุดขึ้นมาแทนแปลงดอกไม้และไม้ประดับที่เห็นได้ตามรีสอรท์ทั่วไป


นอก จากด้านหลังรีสอรท์ยังมีฟาร์มไก่ คอกวัวควาย บ่อเลี้ยงปลา โรงงานผลิตไบโอดีเซล โรงเรือนผลิตน้ำยาทำความสะอาด สบู่เหลว แชมพู โรงอัดแก๊ส เตาเผาถ่านฯลฯ ขณะที่อีกด้านหนึ่งของรีสอรท์มีโรงงานปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยจุลินทรีย์


ทั้ง หมดนี้คือรูปธรรมของการนำสิบแนวคิดเรื่องการทำเกษตรแบบพอเพียงนำมาประยุกต์ ใช้กับธุรกิจรีสอรท์ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ชุมพรคาบาน่ารีสอรท์ที่ได้รับผล กระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อ ปี พ.ศ.2540 เช่นเดียวกับผู้ประกอบการอื่นๆที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทเคยเป็นหนี้แหล่งเงินทุนถึง 300 ล้านบาทในช่วงวิกฤตฟองสบู่เมื่อ ปี พ.ศ 2540 โดยในช่วงเวลานั้นคุณวริสรจำเป็นต้องเข้ามารับภาระอันหนักอึ้งแทนบิดามารดา ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งรีสอรท์แห่งนี้ แต่ทว่า9 ปีต่อมาคุณวริสรสามารถใช้หนี้คืนสถาบันการเงินไปได้เกือบครึ่งของจำนวน หนี้สินทั้งหมดด้วยการนำเอาแนวความคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันประกอบกับการน้อมนำพระราชดำรัส พึ่งตัวเอง “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง”มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาตราบจนถึงวันนี้


ชุมพร คาบาน่ารีสอรท์บนหาดทุ่งวัวแล่นแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งการ เรียนรู้แล้วยังเป็นสถานที่ศึกษาและดูงานของประชาชนทั่วประเทศที่สนใจใน เรื่องแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย


นัก ท่องเที่ยวตลอดจนประชาชนสนใจที่จะเข้าพักและศึกษาดูงานที่ ชุมพรคาบาน่ารีสอรท์และศูนย์กีฬาทางน้ำสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ ที่
ชุมพรคาบาน่ารีสอรท์และศูนย์กีฬาทางน้ำ หาดทุ่งวัวแล่น อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพรโทรศัพท์ 077 560 245-7 สำนักงานกรุงเทพฯ โทรศัพท์02 427 1825 แฟกซ์ 02 427 0122
www.cabana.co.th E-mail info@cabana.co.th
เราสองคน นั่งพูดคุยกับคุณวริสร จนสมควรแก่เวลาจากนั้นจึงทำการร่ำลาคุณวริสร รักษุ์พันธุ์ กรรมการผู้จัดการชุมพรคาบาน่าและศูนย์กีฬาทางน้ำเดินทางกลับกรุงเทพฯต่อไป


ก่อน เดินทางกลับกรุงเทพฯเราสองคนแวะเที่ยวตลาดในตัวเมืองชุมพรซื้อของฝากส่วน ใหญ่เป็นผลไม้อาทิเช่น สัปรดหวานฉ่ำชื่นใจจากอำเภอฉวี สละ สะตอและสิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือกล้วยเล็บมือนางของฝากยอดนิยมจากจังหวัด ชุมพรติดไม้ติดมือไปฝากคนทางบ้าน


จากนั้นในช่วงใกล้ค่ำจึงออกเดินทางจากชุมพรกลับสู่กรุงเทพฯต่อไป สวัสดีครับแล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าน่ะครับ.
ข้อมูลจังหวัดชุมพร


จังหวัด ชุมพร มีชื่อปรากฏมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1098 มีฐานะเป็นเมืองสิบสองนักษัตรของนครศรีธรรมราช ใช้รูปแพะเป็นตราเมือง เป็นเมืองหน้าด่านฝ่ายเหนือ เพราะอยู่ตอนบนของ ภาคใต้ ในปี พ.ศ.1997 แผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ ปรากฎในกฎหมายตราสามดวง เมืองชุมพรเป็นเมืองตรีอาณาจักรฝ่ายใต้ของกรุงศรีอยุธยา มีเมืองขึ้นคือ เมืองปะทิว เมืองตะโก เมืองหลังสวน


เมือง ระนอง เมืองกระบุรี ในสมัยรัตนโกสินทร์พม่ายกกองทัพเข้ามาเมื่อ พ.ศ. 2328 ตีได้เมืองระนอง กระบี่ ชุมพร ไชยา และนครศรีธรรมราช และเผาเมืองชุมพร รัชกาลที่ 1 จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบรมมหาสุรสิงหนาทเสด็จยกทัพไปขับไล่พม่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็นมณฑลชุมพร ต่อมาได้ยุบมณฑลชุมพรแล้วรวมกับมณฑลสุราษฎร์ธานี เมื่อมีการยุบมณฑลสุราษฎร์ธานี ชุมพรจึงไปขึ้นกับมณฑลนครศรีธรรมราช จนกระทั่งยุบการปกครองระบอบมณฑลเป็นจังหวัด ชุมพรจึงมีฐานะเป็นจังหวัด โดยโอนหลังสวนเข้าไว้ในเขตการปกครองด้วย


ส่วน คำว่า “ชุมพร” มีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า “ชุมนุมพล” เนื่องจาก ชุมพร เป็นเมืองหน้าด่าน การเดินทัพไม่ว่าจะมาจากฝ่ายเหนือหรือว่าฝ่ายใต้ ล้วนเข้ามาตั้งค่าย ชุมนุมพล กันที่นี่ จึงเรียกจุดนี้ว่า “ชุมนุมพล” ต่อมาเพี้ยนเป็น “ชุมพร” อีกประการหนึ่งในการเดินทางไปทำศึกสงครามของแม่ทัพ นายกอง ตั้งแต่สมัยโบราณมาเมื่อจะเคลื่อนพลจะต้องทำพิธีส่งทัพโดย การบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ได้รับชัยชนะในการสู้รบ เป็นการบำรุงขวัญทหารในสถานที่ชุมนุม เพื่อรับพรเช่นนี้ ตรงกับความหมาย ชุมนุมพร หรือ ประชุมพร ซึ่งทั้งสองคำนี้อาจเป็นต้นเหตุของคำว่า “ชุมนุมพร” เช่นเดียวกัน แต่อีกทางหนึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะได้มาจากชื่อพันธุ์ไม้ธรรมชาติในท้องถิ่น ได้แก่ ต้นมะเดื่อชุมพร เพราะที่ตั้งของเมืองชุมพร นั้นอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าตะเภามีต้นมะเดื่อชุมพร ขึ้นอยู่มากมาย ต้นมะเดื่อชุมพรจึงเป็นสัญลักษณ์ สิ่งหนึ่งของตราประจำ จังหวัดชุมพร

ความหมายของตราประจำจังหวัดชุมพร
ภาพคนยืน หมายถึง เทวดาที่ประทานพรให้แก่ชาวเมืองและกองทัพที่จะยกออกไปทำศึก
ภาพต้นไม้ทั้งสองข้างหมายถึง ต้นมะเดื่อซึ่งในพื้นที่ของจังหวัดมีต้นไม้ชนิดนี้อยู่มากมาย
ภาพค่าย และหอกรบ หมายถึง จังหวัดนี้เคยเป็นที่ชุมนุมบรรดานักรบทั้งหลายซึ่งนัดให้มาพร้อมกัน ณ ที่ แห่งนี้ก่อนที่จะเดินทัพออกไปสู้รบกับข้าศึก ทั้งนี้เพราะชุมพรเป็นเมืองหน้าด่านมาแต่โบราณ
คำขวัญจังหวัด ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก
ลักษณะภูมิ ประเทศของจังหวัดชุมพร ภูมิประเทศโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นแนวยาวและแคบไปตามชายฝั่ง ทะเล อ่าวไทย โดยมีชายฝั่งทะเลยาวถึง 222 กิโลเมตร


ความ กว้างของจังหวัดชุมพรโดยเฉลี่ยประมาณ 36 กิโลเมตร พื้นที่ประกอบด้วยภูเขาสูงสลับพื้นที่ราบ พื้นที่ฝั่งตะวันตกของจังหวัดเป็นเทือกเขาตะนาวศรี และเทือกเขาภูเก็ต ซึ่งเป็นเขตชายแดนไทย-พม่า การที่จังหวัดชุมพร ถูกขนาบด้วย ภูเขา และ ทะเล


อีก ทั้งยังได้รับมรสุมทั้งทางฝั่งทะเลด้านตะวันออก และด้านตะวันตกทำให้มีฝนตกชุกตลอดทั้งปี เหมาะสม ต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม นอกจากนี้จังหวัดชุมพรยังมีทรัพยากรธรรมชาติ ที่สำคัญได้แก่ ป่าไม้ ดีบุก และ สถานที่ท่องเที่วที่สวยงามทั้งทางบกและทางทะเล


สำหรับ แม่น้ำที่สำคัญๆ ของจังหวัด ได้แก่ แม่น้ำท่าตะเภา และ แม่น้ำหลังสวน นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วยลำคลองสายสั้นๆ ไหลจากเทือกเขาทางฝั่งตะวันตกของจังหวัด ไหลลงสู่อ่าวไทย บริเวณปากน้ำชุมพร
การเดินทางจังหวัดชุมพร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่อยู่ตอนบนสุดของภาคใต้มีอาณาเขตติดกับจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ ทางทิศเหนือ จังหวัดระนอง ทางทิศตะวันตกและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางทิศใต้ การเดินทางมาจังหวัดชุมพร สามารถเดินทางได้ตลอดปีและสามารถเลือกการเดินทางได้หลายวิธีดังนี้
ทาง รถยนต์ ใช้เวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 6-7 ชั่วโมง โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดนครปฐม สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อถึงสี่แยกปฐมพร เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวเมืองจังหวัดชุมพร การเดินทางโดยรถยนต์โดยสารประจำทาง สามารถใช้บริการได้ที่ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ (สอบถามเวลาและสำรองที่นั่งก่อนการเดินทางทุกครั้ง )
ทาง รถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-9 ชั่วโมง แล้วแต่ประเภทของขบวนรถ สามารถเลือกการเดินทางได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เนื่องจากมีขบวนรถหลายขบวนในแต่ละวัน โดยขึ้นรถไฟได้ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีธนบุรี ควรจะสอบถามเวลาและสำรองที่นั่งก่อนการเดินทางทุกครั้ง
แหล่งท่องเที่ยว ในเขต อำเภอเมือง ชุมพร
หาด ทรายรี อยู่ห่างจากเขตเทศบาลเมืองชุมพร ไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ ตามทางหลวงหมายเลข 4119 และ 4098 ประมาณ 20 กิโลเมตร มีรถโดยสารวิ่งจากตัวเมืองถึงชายหาด


หาด ทรายรีเป็นหาดทราย ที่มีความโค้งเว้ามีความยาวหลายกิโลเมตร มีทรายสีขาวสะอาดตา เหนือชายหาดขึ้นมามีที่พัก และ ร้านอาหารบริการ บริเวณใกล้ๆ แนวชายหาด เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานของพลเรือเอก พระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพร เขตรอุดมศักดิ์ ผู้ทรงสถาปนากองทัพเรือ อันทันสมัยให้กับประเทศไทย และเป็นที่เคารพสักการะของชาวชุมพร และจังหวัดใกล้เคียงสำหรับอนุสรณ์สถานของพระองค์ประกอบด้วย


ศาลเจ้าพ่อ กรมหลวงชุมพร ฯ (ศาลเก่า)
สวนตำหนัก กรมหลวงชุมพร บนเนินเขาเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อ กรมหลวงชุมพร ฯ ซึ่งสร้างขึ้นใหม่
สวน สมุนไพรหมอพร อยู่บริเวณเชิงเขา เป็นโครงการของ กระทรวงสาธารณสุข เพื่ออนุรักษ์สมุนไพร ที่มีคุณค่าสืบทอดเจตนารมณ์ของ “กรมหลวงชุมพร ฯ” หรือ “หมอพร” ของชาวบ้าน
เรือรบหลวงชุมพร เป็นเรือตอร์ปิโดขนาดใหญ่ มีความยาวตลอดลำเรือ 68 เมตร กว้าง 6.55 เมตร เรือลำนี้ปลดประจำการเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 ต่อมาในปี พ.ศ. 2522 กองทัพเรือ ได้มอบเรือนี้ให้มาตั้ง ณ หาดทรายรี เพื่อเป็นอนุสรณ์ ของกรมหลวงชุมพร ฯ
เรือจำลองจักรีนฤเบศร เรือจำลองจักรีนฤเบศร ตั้งอยู่บริเวณริมชายหาดแหลมสน เรือจำลองมีขนาด กว้าง 29 เมตร ยาว 79 เมตร สูง 6เมตร สร้างจากศรัทธาของประชาชน ใช้งบก่อสร้างราว 12 ล้านบาท เปิดทุกวันเวลา 08.00-20.00น


เกาะ มะพร้าว ห่างจากหาดทรายรี ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นเกาะสัมปทานรังนกมีขนาดเล็ก มีหาดทราย สีขาวนวล ยาวประมาณ 50 เมตร อยู่ทางตะวันตกของเกาะ


บน เกาะมีสภาพภูมิทัศน์สวยงาม และมีแนวปะการังอยู่ในสภาพสมบูรณ์และสวยงาม อยู่ทางตะวันตก ของเกาะด้วย เนื่องจากเกาะมะพร้าวเป็นเกาะสัมปทานรังนกนางแอ่น ซึ่งรังนกนางแอ่นนี้จัดเป็น สินค้า เศรษฐกิจ ที่สำคัญของจังหวัด ชุมพร
เกาะละวะ เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ใกล้ๆ กับเกาะมะพร้าว


นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือจากเกาะมะพร้าวไปเกาะละวะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ด้านตะวันตกของเกาะ มีแนวปะการังสวยงาม
เกาะ ทะลุ อยู่ห่างจากปากน้ำชุมพร ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก ยาวประมาณ 100 เมตร ตัวเกาะมีลักษณะ เป็นโขดหินไม่มีหาดทรายหรือที่ราบ


ลักษณะ เด่นที่สุดของเกาะทะลุ ก็คือในตอนกลางของเกาะ จะมี ช่องทะลุไปอีกด้านหนึ่งซึ่งเกิดจากการ กัดเซาะของคลื่นลมที่ใช้เวลานับแสนๆ ปี นักท่องเที่ยว สามารถเช่าเรือจากหาดทรายรีไปเกาะทะลุได้

อ่าว ทุ่งมะขาม อยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพร 22 กิโลเมตร แบ่งเป็นอ่าว ทุ่งมะขามน้อย และ อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ โค้งอ่าวมีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม 2 วง วางเรียงต่อกันโดยที่ กึ่งกลางเป็นแหลมหิน ซึ่งประกอบไปด้วย ก้อนหินใหญ่น้อยวางอยู่อย่างแปลกตา เป็นจุดแบ่งเขตอ่าวทั้ง 2 ด้าน


เหนือ คือ อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ มีหาดทรายสีขาวทอดตัวขนานอยู่กับทิวมะพร้าว ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ถัดไปจากแหลมหิน คืออ่าวทุ่งมะขามน้อย มีโค้งอ่าวซึ่งประกอบด้วยหาดทรายสีขาวนวลทอดตัวยาวไปทางใต้ประมาณ 3 กิโลเมตร ตลอดแนวชายหาดหนาแน่นไปด้วยต้นมะพร้าว ตอนใต้สุดเป็นที่ตั้งของวัดสุวรรณคูหาวารีวงศ์ หรือ วัดโพงพาง บริเวณวัดนอกจากจะร่มรื่นอยู่ภายใต้เงามะพร้าว แล้วด้านหลังวัดยังมีหน้าผาหินขนาดกว้างประมาณ 30 เมตร ยาวประมาณ 80 เมตร หันหน้าออกสู่ทะเล


อ่าว ทุ่งมะขามน้อยเป็นที่ตั้งของท่าเรือลมพระยา ท่าเรือที่เดินทางไปเกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย และเป็นที่ตั้งของ M.T. Resort รีสอร์ทแห่งเดียวของอ่าวทุ่งมะขามน้อย
หาดภราดรภาพ อยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพรไปตามทางหลวงหมายเลข 4119 และ 4098 ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร หาดภราดรภาพเป็นหาดขนาดใหญ่ที่มีความยาวทอดขนานไปกับแนวถนนที่หนาแน่นด้วย ต้นมะพร้าว

ตลอดเส้นทางในบริเวณนี้มี ร้านอาหาร และบังกาโล มากมายตลอดรายทาง บริเวณชายหาดมีเรือหางยาวเพื่อเดินทางไปเกาะเสม็ดอีกด้วย
เกาะ มัตรา (เกาะตังกวย) เป็นเกาะขนาดใหญ่มีหาดทราย สีขาวนวล มีแนวหินวางเรียงอยู่ประปราย 2 แห่ง ทางตอนกลางฝั่งตะวันตกหนึ่งแห่ง และ ตอนใต้ของเกาะอีกหนึ่งแห่ง เหมาะสำหรับตั้งแคมป์ เกาะมัตรา


นอก จากจะมีแนวปะการังเรียงตัวอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะแล้วที่เกาะแห่งนี้ยัง มีปูชนิดหนึ่งคือ “ปูไก่” ซึ่งชอบปีนต้นไม้ และส่งเสียงร้องได้เหมือนลูกไก่ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก


ตอนกลางทางทิศตะวันตกของเกาะมีบังกาโล และ ร้านอาหาร ไว้บริการด้วย


นัก ท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเกาะมัตรา โดยใช้ เรือประมงขนาดเล็กจากหาดภราดรภาพ ถึง เกาะมัตรา ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
หาด ผาแดง ห่างจาก หาดภราดรภาพไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่แปลกตาแห่งหนึ่ง คือ เป็นหน้าผาดินแดง สูงประมาณ 10 เมตร


สามารถ นั่งชมทะเล เกาะแก่ง และหาดทราย ได้อย่างทั่วถึง และหาดทราย ด้านล่างประกอบด้วยหินชนิดต่างๆ ที่สวยงาม และมีสถาน ที่พัก และ ร้านอาหาร ไว้บริการแก่ นักท่องเที่ยว ด้วย
หาดคอสน เป็นหาดทรายผสมดินเลน มีหอยทะเลชุกชุม เช่น หอยราก หอยกระปุก หอยขาว และหอยแครง หาดคอสน อยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพรไปตามถนนสาย ชุมพร-ปากน้ำชุมพร (สายเก่า) ประมาณ 3 กิโลเมตร
ปากน้ำชุมพร อยู่ห่างจากตัวเมือง ตามถนนหมายเลข 4119 และ 4098 ประมาณ 13 กิโลเมตร เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดชุมพร เพราะเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม ที่สำคัญของจังหวัดชุมพร จาก ปากอ่าวของปากน้ำชุมพรออกสู่ทะเล จะมี เกาะ ที่น่าสนใจ คือ
เกาะเสม็ด เป็น เกาะ ขนาดใหญ่ อยู่ตรงข้ามหาดภราดรภาพ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร มีรีสอร์อยู่หนึ่งแห่งหากเดินทางไปโดย เรือประมง ที่หาดภราดรภาพ จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เกาะทองหลาง อยู่ห่างจากอ่าวทุ่งมะขามน้อย ประมาณ 1 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้อยู่ใกล้กับ เกาะลังกาจิว เป็น เกาะ ที่มีหาดทราย สวยเหมาะสำหรับไปตั้งแคมป์พักแรมอีกแห่งหนึ่ง


มี เพิงหินขนาดเล็กและขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วไป และมีแนวปะการังที่สวยงามอยู่รอบๆ บริเวณเกาะ แต่น่าเสียดายที่เกาะแห่งนี้ไม่มีแหล่งน้ำจืดบนเกาะ สามารถเดินทางโดยเช่าเรือเร็วเดินทางได้ที่ M.T. Resort
เกาะลังกาจิว (เกาะรังนก) ตั้งอยู่ห่างจากอ่าวทุ่งมะขามน้อย 5 กิโลเมตร สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ตั้งอยู่ด้านข้างของเกาะทองหลาง


เป็นเกาะที่มีนกนางแอ่นทำรังนก มาก มีผู้ได้รับสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่นก็คือ บริษัท ซีโฟร์ ตั้งอยู่ที่ปากน้ำชุมพร


จุด เด่นที่สำคัญของเกาะลังกาจิวก็คือ มีรอยจารึกพระนามย่อ จปร. และ รศ ที่ผนังปากทางเข้าถ้ำ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวชมบนเกาะ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่เฝ้ารังนกบนเกาะเสียก่อน สามารถเช่าเรือเร็วเดินทางได้ที่ M.T. Resort บริเวณอ่าวทุ่งมะขามน้อย
เกาะแรด เป็นเกาะที่มีรูปร่างเหมือนแรด อยู่ทางด้านใต้ของทะเลชุมพร


บริเวณ รอบๆ เกาะเหมาะแก่การ ดำน้ำ ชมความงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเล เช่น แนวปะการังที่สมบูรณ์และสวยงาม รวมทั้งดอกไม้ทะเลสีสวยสด และ ฝูงปลานานาชนิด
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอหลังสวน
เกาะ พิทักษ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางน้ำจืด เป็นเกาะขนาดเล็กห่างจากฝั่ง ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีโขดหินสวยงามและมีหมู่บ้านชาวประมงกระจายอยู่รอบเกาะ


นอก จากนี้เกาะพิทักษ์ยังมีชื่อเสียงในด้านเป็นแหล่งโฮมสเตย์ที่ดำเนินการได้ ประสบผลสำเร็จ จนเป็นต้นแบบให้กับหลายๆชุมชนที่ต้องการพัฒนาให้เป็นที่พักในรูปแบบโฮมเสตย์


บน เกาะพิทักษ์ทางทิศตะวันออก มีหาดทรายขนาดเล็กๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยเรือประมงจากบริเวณปากน้ำตะโก เมื่อยามน้ำลดสามารถเดินเท้าจากฝั่งถึงตัวเกาะพิทักษ์ได้
หาดคอเขา ตั้งอยู่ที่ตำบลนาพญา เป็นหาดทรายที่มีความสวยงามและสะอาด เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและท้องทะเล ถัดจากชายหาดขึ้นมาจะเป็นเนินเขาที่เขียวครึ้มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด


เป็น ที่ตั้งของสำนักสงฆ์เทพนิมิตร (วัดคอเขา) ทั่วอาณาบริเวณนอกจากจะสมบูรณ์ไปด้วยสภาพธรรมชาติแล้ว ยังมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่และพระรูปเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุด ในภาคใต้อีกด้วย


หาด คอเขาอยู่ห่างจากอำเภอหลังสวน ประมาณ 15 กิโลเมตร ไปทางทิศใต้ สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้อย่างสะดวก บนถนนราดยางประมาณ 5 กิโลเมตร ต่อด้วยถนนลูกรังอีกประมาณ 10 กิโลเมตร
ปากน้ำหลังสวน ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำ ห่างจากที่ว่าการอำเภอหลังสวนประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นชุมชนของชาวประมง ซึ่งนอกจากจะมีท่าเทียบเรือและสะพานปลาแล้วชายหาดบริเวณปากน้ำหลังสวนยังมี ร้านอาหาร และบังกะโลที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอสวี
ศาล พ่อตาหินช้าง ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลสลุย อยู่ริมเชิงเขาติดกับถนนเพชรเกษมระหว่างกิโลเมตรที่ 453-454 เป็นศาลที่ประดิษฐานเทวรูปอันศักดิ์สิทธิ์

��

ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของผู้เดินทางผ่านไปมาจะต้องบีบแตรรถยนต์เป็นการแสดงความเคารพต่อพ่อตาหินช้างเป็นประจำทุกคัน
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอปะทิวอ่าวบางเบิด ตั้งอยู่ในตำบลปากคลอง จากอำเภอเมืองชุมพรใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม แยกขวากิโลเมตรที่ ๔๒๖ เข้าไป ๒๑ กิโลเมตร


หาด บางเบิดมีความยาวกว่า ๕ กิโลเมตร จรดบริเวณท่าเรือที่มีเทือกเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาและหมู่บ้านชาวประมงและ ขนาบด้วยถนนเลียบชายหาดและทิวสนตลอดเส้นทาง เหมาะสำหรับขับรถหรือปั่นจักรยานเที่ยวชายทะเล หาดทรายทอดตัวยาวไปจนถึงบางเบิดในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์


ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งโครงการส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หาดทุ่งวัวแล่น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอำเภอนี้


หาด ทุ่งวัวแล่น ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพลี ห่างจากตัวจังหวัดชุมพรไปตามถนนราดยางสายชุมพร-หาดทุ่งวัวแล่น ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร อยู่ทางตอนใต้สุดของอำเภอปะทิว


หาด ทรายกว้างมีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ลักษณะหาดค่อยๆ ลาดเอียงลงทีละน้อย สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชุมพร


และ ทางด้านใต้สุดของหาดบริเวณเชิงเขา “โพธิ์แบะ”ติดกับชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท มีแนวหินใต้น้ำเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัด ชุมพร เพราะมีดอกไม้ทะเล และปลาทะเลนานาชนิดให้ชม


บริเวณ หาดทุ่งวัวแล่น มีร้านอาหารและสถานที่พักตากอากาศอยู่หลายแห่งไว้บริการ สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยม การดำน้ำชมความงามของโลกใต้ทะเลที่เกาะง่ามน้อยและง่ามใหญ่ซึ่งอตั้งอยู่ ห่างจากชายหาดทุ่งวัวแล่น ไปทางทิศตะวันออก ระยะทาง 18 กิโลเมตร สามารถซื้อแพ็คเกจทัวร์ดำน้ำได้ที่ ชุมพรคาบาน่ารีสอร์ทซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปดำน้ำได้ที่เกาะต่างๆ ดังนี้
เกาะจระเข้ เป็นเกาะขนาดเล็กห่างจากฝั่งประมาณ 11 กิโลเมตร ด้านตะวันตกของเกาะมีหาดหิน รอบๆ เกาะมีปะการัง และดอกไม้ทะเลสวยงามมาก เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่น่าเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับการดำน้ำ
เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เป็นเกาะขนาดกลางอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของหาดทุ่งวัวแล่น ห่างจากฝั่งประมาณ 18 กิโลเมตร บนเกาะไม่มีหาดทราย


เป็นเกาะสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่น รอบๆ เกาะมีแนวหินและถ้ำใต้น้ำ มีแนวปะการังสวยงามเหมาะสำหรับการดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น


หากโขคดีนักท่องเที่ยวอาจจะได้พบกับฉลามวาฬ ที่มาหาอาหารอยู่บริเวณโดยรอบเกาะทั้งสองเกาะนี้
หาด สะพลี ตั้งอยู่บริเวณอ่าวสะพลี อยู่ถัดจากอ่าวทุ่งวัวแล่นขึ้นไปอีก 2 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองชุมพรไปตามถนนราดยางสายชุมพร-สะพลี ประมาณ 18 กิโลเมตร


เป็น ที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงชื่อบ้านท่าเสม็ด ซึ่งมีฝีมือขึ้นชื่อในการทำกะปิ นอกจากนี้ยังมีสินค้าของฝากที่น่าซื้อ เช่น ปลาหมึกแห้ง ปลาเค็ม ฯลฯ
อ่าวยายไฮ้ เป็นอ่าวที่มีจุดชมวิวสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 25 เมตร มีทิวทัศน์สวยงาม


ด้านหน้าอ่าวมีแนวปะการังยาวประมาณ 7 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นได้ที่อ่าวนี้
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอทุ่งตะโกหาด อรุโณทัย ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำตะโก เป็นชายหาดขนาดใหญ่ มีความยาวตลอดแนวประมาณ 6 กิโลเมตร ถัดจากชายหาดหนาแน่นไปด้วยทิวสน ใกล้กันเป็นที่ตั้งของศาลเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ด้านข้างศาลฯ มีซากเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่บรรจุอยู่ในครอบแก้ว


การ เดินทางสู่หาดอรุโณทัยใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายบริเวณสี่แยกเขาปีบ-ปากน้ำตะโก เข้าไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร และจากจุดนี้สามารถเช่าเรือไปเที่ยวชมหมู่เกาะบริเวณหน้าอ่าว หรือไปเที่ยวชมหมู่เกาะต่างๆ ของทะเลชุมพรได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.idotravellers.com

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ29 มกราคม 2565 เวลา 05:26

    Sultan Casino | Shootercasino
    The Sultan 온카지노 casino offers some of the best slots, the best table games and 제왕 카지노 a variety of slots. You can play free demo games, try for free, 인카지노 and earn real

    ตอบลบ