วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ห่มหมอก…กอดหนาว…ดูดาวบนภูกันที่บ้านร่มเกล้า จ. พิษณุโลก


 
พิธีเปิดงาน ห่มหมอกกอดหนาวดูดาวบนภูกันที่บ้านร่มเกล้า  จ. พิษณุโลก

……เมื่อกลางเดือนธันวาคมได้มีโอกาศเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาวที่สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ซึ่งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2542 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ ภูขัด ภูเมี่ยง  ภูสอยดาว ในตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลกและในการนี้พระองค์ได้ทรงมีพระราชดำริให้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ขึ้นในพื้นที่ส่วนปลายของเทือกเขาภูสอยดาว โดยมีพระราชประสงค์เพื่อส่งเสริมความมั่นคงในประเทศและเพื่อเป็นการอนุรักษ์พื้นที่ป่าสมบูรณ์ไว้เพื่อเป็นแหล่งป่าต้นน้ำลำธารและเป็นการสนับสนุนราษฎรหมู่บ้านร่มเกล้าและหมู่บ้านข้างเคียงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้นพร้อมทั้งจะได้พัฒนาสถานที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดพิษณุโลกและประเทศชาติสืบต่อไป
บริเวณด้านหน้าพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

      สำหรับสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯมีเนื้อที่ 1,385 ไร่ โดยมีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาและหุบเขาลอนลาด  มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 750-1,280 เมตร มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 27 องศาเซลเซียส สภาพพื้นที่เดิมเป็นป่าเสื่อมโทรมและไร่ร้างเกือบทั้งผืน อันเป็นผลมาจากการบุกรุกทำลายป่าในครั้งที่มีการสัมปทานป่าไม้ ภายหลังจากการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ มีการพัฒนาทั้งทางด้านสถานที่และพัฒนาทางด้านพฤกษศาสตร์ โดยจัดให้เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ชนิดต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศ เช่น กล้วยไม้ ไม้ดอกหอม เป็นต้น เป็นศูนย์อนุรักษ์และขยายพันธุ์พืช โดยเฉพาะไม้ประจำถิ่น  ไม้หายาก ตลอดจนเป็นสถานที่ให้การพักผ่อนหย่อนใจ และการสันทนาการ ให้แก่ นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน ผู้สนใจทั่วไป
บริเวณหน้าที่ทำการสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

บรรยากาศยามเช้าลานกลางเต็นท์ภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

     ในอดีตบริเวณพื้นที่ตั้ง สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ เคยเป็นสมรภูมิรบโดยในการรบครั้งนั้นทหารไทยและลาวมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่เกิดจากการสู้รบในครั้งนั้น นั่นก็คือ หลุมบังเกอร์ ที่พบอยู่ในบริเวณพื้นที่ตั้งสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ ซึ่งการรบครั้งนั้นถูกเรียกว่า   “สมรภูมิรบบ้านร่มเกล้า”
ทะเลหมอกบนจุดชมวิวสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

 ทะเลหมอกยามเช้าภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

จุดชมวิวค้อเดียวดายยามสายภายในสวนฯพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

จุดชมวิวค้อเดียวดายภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

    สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการเรียนรู้และเพื่อพักผ่อน ท่ามกลางขุนเขาเมฆไม้และสายหมอก มีความหลากหลายของระบบนิเวศป่าและพรรณพืช ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใดก็ยังคงความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณ เปรียบดั่งห้องสมุดทางธรรมชาติที่ให้บริการความรู้ทางการวิชาการด้านพืชและธรรมชาติวิทยา
สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้ามากมายด้วยพืชพันธุ์ไม้

     ปัจจุบันสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ได้มีการจัดแสดงพรรณไม้ประจำถิ่น ไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์โดย มีโรงเรือนรวบรวมกล้วยไม้ไทย ที่รวบรวมสายพันธุ์กล้วยไม้ไทยที่หาชมได้ยากยิ่ง กว่า 300 ชนิด รวมถึงพันธุ์ไม้ที่ค้นพบชนิดใหม่ของโลกคือ สร้อยสยาม ไม้ตระกูลชงโค หรือเสี้ยวของไทย เป็นพืชถิ่นเดียวหายากเป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีมือจับ กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง หูใบรูปทรงกลมถึงรูปไข่กลับ ใบรูปไข่ ช่อดอกแบบช่อกระจะ ห้อยลงยาวถึง 75 ซม. กลีบเลี้ยงรูปปากเปิด กลีบดอก มี 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน รูปไข่กลับถึงรูปรี สีชมพูอมขาวถึงสีชมพู เกสรเพศผู้มี 3 อัน เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันมี 6 อัน ผลแบบฝัก รูปขอบขนาน เมล็ดรูปไข่ แบน สีน้ำตาลเข้ม พบในป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ บริเวณภูเมี่ยง จ. พิษณุโลก ออกดอกตลอดทั้งปี แต่จะออกดอกมากในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไปยังมีไม้ประจำถิ่นอีกหลายชนิด อาทิ ค้อ พืชวงศ์ปาล์ม ที่ถือได้ว่าเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และเป็นพันธุ์ไม้แห่งวัฒนธรรมของผู้คนบนภูเขาสูง
รองเท้านารีคางกบ

พวงหยก

เนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน รับแรงต้านของลมได้ดี มีอายุยืนยาวนับร้อยปี นอกจากนี้ยังมี ระฆังทอง พันธุ์ไม้ตระกูลปีบ ที่อวดความงามตลอดทั้งปี กลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดคล้ายระฆัง มีสีเหลืองทองตัดกับดอกสีแดงเข้มจัด เป็นพืชหายากพบเฉพาะบนภูเขาสูงที่มีอากาศหนาวเย็น กระจายพันธุ์อยู่ในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์
ประทัดอ่างขาง

นางพญาเสือโคร่ง

ลูกเสาวรส

สเตอเบอรี่สีแดงสดปลูกกันมากที่บ้านร่มเกล้า

องุ่นไร้เมล็ดปลูกกันมากที่บ้านร่มเกล้า

    ในอนาคตสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ จะเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ วงศ์จำปีจำปา กุหลาบพันปี และกล้วยไม้ไทย นอกจากนั้นยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้นานาชนิด รวมไปถึงกิจกรรมพานักท่องเที่ยวนั่งรถอีแต๊กเพื่อศึกษาธรรมชาติ และเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้ง สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ มีสถานที่กางเต็นท์ไว้รองรับให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาสัมผัสธรรมชาติและชมทัศนียภาพอันของทิวเขามีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
การแสดงของชาวเขาเผ่าม้งภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

สินค้าที่ระลึกจากฝีมือชาวบ้านร่มเกล้า

     นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมสวนฯได้ทั้ง 3 ฤดู ฤดูร้อน จะพบกับกล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ ที่แย่งกันออกดอกบานสะพรั่ง ฤดูฝน จะได้พบกับบรรยากาศของทะเลหมอก ที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย ฤดูหนาว ก็จะได้สัมผัสกับอากาศอันหนาวเย็น พร้อมกับชมความงามของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารี นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่อยู่ในเส้นทางผ่าน สามารถแวะพักผ่อนได้ อาทิเช่น น้ำตกชาติตระการ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงภูขัดฯ สถานีทดลองพืชสวนร่มเกล้า ศูนย์ศิลปาชีพ ภูขัดฯน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย เป็นต้น
อีกมุมหนึ่งของจุดชมวิวค้อเดียวดายภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

ลานกางเต็นท์ที่บริเวณด้านหน้าสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

บรรยากาศยามเช้าบนจุดชมชมวิวค้อเดียวดายภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

บรรยากาศยามเช้าบนจุดชมชมวิวค้อเดียวดายภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าบ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ มีลานกลางเต็นท์บริการ สามารถรับรองนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 200 คน
การเดินทางสามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง
-           เส้นทางที่ 1 : อ.เมืองพิษณุโลก– อ.วัดโบสถ์ – อ.ชาติตระการ
(ระยะทางทั้งหมดประมาณ 171 กิโลเมตร) เดินทางจาก อ. เมือง จ.พิษณุโลก ใช้เส้นทาง 11จากนั้นกลับรถใช้เส้นทาง 1296 หน่วยบริการประชาชนบ้านท่างาม อ.วัดโบสถ์ ตรงไปแล้วเลี้ยวขวาทางแยกหน่วยบริการประชาชนบ้านโป่งแค เส้นทาง 1143 ถึง อ.ชาติตระการจากนั้นใช้เส้นทาง 1237 ผ่านตำบลบ่อภาคประมาณ 80 กิโลเมตร
ถึงสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ
-           เส้นทางที่ 2 : อ.เมืองพิษณุโลก– อ.วังทอง– อ.นครไทย – อ.ชาติตระการ
(ระยะทางทั้งหมดประมาณ 197 กิโลเมตร)
ใช้เส้นทางสาย 12 พิษณุโลก-หล่มสัก เมื่อถึงสามแยกบ้านแยงเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทาง 2013 ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ อ.นครไทย ประมาณ 29 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทาง 1143อ.ชาติตระการ จากนั้นใช้เส้นทาง  1237 ผ่านตำบลบ่อภาคประมาณ  80 กิโลเมตร ถึงสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ
-         นั่งรถอีแต๊กชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้ง  
วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งกำลังตำข้าว

ชุดชาวเขาเผ่าม้งสีสันสดใสในงานวันชาติม้ง

ชุดชาวเขาเผ่ามงสีสันสดใส  
 -วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งที่บ้านร่มเกล้า                                                  
    ปีใหม่ปีนี้ถ้ายังไม่มีโปรแกรมเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน ลองขับรถเดินทางไป  “ห่มหมอก…กอดหนาว…ดูดาวบนภู”กันที่สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าในอ. ชาติตระการ จ. พิษณุโลกกันด้วยความสนุกสนาน ร่าเริง บันเทิงใจและเดินทางกลับมาด้วยความปลอดภัยกันทุกท่านน่ะครับ
   ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ  ตู้ ปณ. 7 ต. บ่อภาค อ. ชาติตระการ จ. พิษณุโลก 65170  หมายเลขโทรศัพท์ 0-5531-6715,08-1287-4994  Fax : 0-5531-6715             
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.idotravellers.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น